ประวัติ ของ ชาวกีราวารู

ยุคแรกเริ่ม

ชาวกีราวารูคือผู้สืบเชื้อสายจากชาวทมิฬโบราณซึ่งอพยพจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดีย และชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศศรีลังกา คาดว่าเข้าไปตั้งถิ่นฐานในหมู่เกาะมัลดีฟส์ตั้งแต่ยุคสังคัม (ช่วง 300 ปีก่อนคริสต์กาลจนถึง ค.ศ. 300)[3][4] เข้าไปตั้งถิ่นฐานบนเกาะกีราวารู เป็นลากูนทางตอนเหนือของมาเล ซึ่งปรากฏสิ่งก่อสร้างและวัดบนเกาะ[5] ชาวกีราวารูถูกกล่าวถึงในมุขปาฐะเรื่องการสถาปนาอาณาจักรบนเกาะมาเลของกษัตริย์โกอิมาลา ว่าชาวกีราวารูเป็นชนพื้นเมืองมาช้านาน และได้รับอนุญาตให้เฝ้าถวายพระพรกษัตริย์โกอิมาลา

ชาวกีราวารูต่างจากชาวมัลดีฟส์ทั่วไป ทั้งด้านกายภาพ ภาษา และวัฒนธรรม พึงสังเกตได้ว่าเป็นวัฒนธรรมอย่างทมิฬ-มลยาฬัม[5] เดิมนับถือสุริยเทพและศาสนาพุทธ[6] ถือคติผัวเดียวเมียเดียวอย่างเคร่งครัด การหย่าร้างเป็นเรื่องต้องห้าม รวมทั้งการไม่สมรสกับคนนอกเกาะ แต่จะติดต่อกับคนนอกเกาะเพียงวิธีเดียวด้วยการพายเรือไปขายปลาที่เกาะมาเล[5] ความเชื่อพื้นบ้านถูกเก็บรักษาไว้ในรูปแบบของเพลงและการเต้นรำพื้นบ้าน พวกเขาสวมสร้อยคอลูกปัดสีฟ้า ทั้งหมดล้วนเป็นวัฒนธรรมที่แตกต่างไปชาวมัลดีฟส์เกาะอื่น ๆ[7] เชื่อกันว่าชาวกีราวารูกลัวกบหรือคางคก[5]

หัวหน้าของชาวกีราวารูส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง สุลต่านมัลดีฟส์จะตั้งอิสตรีเป็นตัวแทนพระราชอำนาจบนเกาะกีราวารู โดยให้สิทธิใช้กฎหมายพิเศษต่างจากบริเวณอื่น ๆ ของประเทศ และในขณะเดียวกันชาวกีราวารูเองไม่เคยทราบพระราชอำนาจเต็มของสุลต่านมัลดีฟส์ต่อเกาะของพวกตนเลย เวลาชาวมัลดีฟส์ติดต่อกับชนชั้นสูงจะใช้ภาษาที่ให้เกียรติ แต่ชาวกีราวารูไม่ปฏิบัติตามธรรมเนียมนี้ และใช้คำพูดสามัญเวลาติดต่อกับชนชั้นสูง

ค.ศ. 1922 (พ.ศ. 2465) มีชาวกีราวารูจำนวน 150 คน[5]

หลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1932 (พ.ศ. 2475) และหลังการยกเลิกระบอบสุลต่าน กฎหมายจารีตของชาวเกาะกีราวารูจึงถูกยกเลิกไปด้วย[7]

สูญวัฒนธรรม

ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) เกาะกีราวารูเกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง พวกเขาถูกรัฐบาลบังคับให้ละทิ้งเกาะตามหลักศาสนาอิสลาม ที่ชุมชนจะต้องมีชายบรรลุนิติภาวะจำนวน 40 คนจึงจะสามารถทำละหมาดวันศุกร์ได้ พวกเขาล่องเรือไปตั้งถิ่นฐานบนเกาะฮุลฮูเลอีกฟากของอะทอลล์ แต่หลังการขยายท่าอากาศยานนานาชาติ พวกเขาจึงถูกย้ายไปกรุงมาเล มีแหล่งอาศัยขนาดไม่กี่ช่วงตึกในเขตมาฟันนู[1] เป็นความพยายามของรัฐบาลมัลดีฟส์ที่ต้องการให้ชาวกีราวารูกลืนไปกับชนส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับการล้างประวัติศาสตร์ศาสนาพุทธในมัลดีฟส์[6]

จากอัตราเกิดต่ำเป็นระยะเวลายาวนานนับพันปีทำให้ชาวกีราวารูมีจำนวนค่อนข้างน้อย วัฒนธรรมที่โดดเด่นของกีราวารูถูกกลืนหายจากการแต่งงานข้ามชาติพันธุ์ของคนหนุ่มสาวกับชาวมัลดีฟส์ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ ปัจจุบันคาดว่าชาวกีราวารูบริสุทธิ์คงสูญไปแล้ว