ชาวยิวอัชเคนาซิ หรือ
ชาวยิวแห่งอัชเคนาซ (
ฮีบรู: יְהוּדֵי אַשְׁכֲּנָז หรือ אַשְׁכֲּנָזִים,
อังกฤษ: Ashkenazi Jews หรือ Ashkenazic Jews หรือ Ashkenazim) คือ
ชาวยิวที่สืบเชื้อสายมาจากชาวยิวที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในลุ่มแม่น้ำ
ไรน์แลนด์ทางตะวันตกของเยอรมนีและตอนเหนือของฝรั่งเศสใน
ยุคกลาง คำว่า "Ashkenaz" เป็นชื่อภาษาฮิบรูสมัยกลางของภูมิภาคที่ในปัจจุบันครอบคลุมประเทศเยอรมนี และบริเวณที่มีชายแดนติดต่อที่พูดภาษาเยอรมัน นอกจากนั้น
อัชเคนาซก็ยังเป็นประมุขจาเฟติคที่สืบเชื้อสายมาจากลูกหลานของโนอาห์ (Table of Nations) ฉะนั้น "อัชเคนาซิม" หรือ "อัชเคนาซิยิว" ก็คือ "ชาวยิวเยอรมัน"ต่อมาชาวยิวอัชเคนาซิก็อพยพไปทางตะวันออก ไปตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณที่ไม่ได้พูดภาษาเยอรมันที่รวมทั้งฮังการี โปแลนด์ ลิทัวเนีย รัสเซีย ยุโรปตะวันออก และ ภูมิภาคอื่นๆ ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 10 ถึง 19 ภาษาที่นำติดตัวไปก็คือ
ภาษายิดดิช ซึ่งเป็น
ภาษากลุ่มเจอร์แมนิกของชาวยิว ที่ตั้งแต่ยุคกลางมาเป็น "ภาษากลาง" ในหมู่ชาวยิวอัชเคนาซิ นอกจากนั้นก็มีบ้างที่พูดภาษายิว-ฝรั่งเศส หรือ
ภาษาซาร์ฟาติค (Zarphatic) และ
ภาษากลุ่มสลาฟ-ที่มีพื้นฐานมาจาก
ภาษาคนานิค (ภาษายิว-เช็ก) ชาวยิวอัชเคนาซิวิวัฒนาการวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่ผสานเอาวัฒนธรรมของชนในท้องถิ่นที่ตั้งถิ่นฐานในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกเข้ามาด้วยแม้ว่าในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ชาวยิวอัชเคนาซิจะเป็นจำนวนเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ของประชากรชาวยิวทั้งโลก แต่เมื่อมาถึงปี ค.ศ. 1931 จำนวนก็สูงขึ้นถึง 92 เปอร์เซ็นต์ และในปัจจุบันเป็นจำนวนประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของชาวยิวทั่วโลก
[3] ชุมชนชาวยิวที่มีประวัติยืดยาวในยุโรปจะเป็นชาวยิวอัชเคนาซินอกจากกลุ่มที่มีควาสัมพันธ์กับบริเวณเมดิเตอเรเนียน ชาวยิวส่วนใหญ่ที่อพยพจากยุโรปไปยังทวีปอื่นในสองร้อยปีที่ผ่านมาก็เช่นกัน โดยเฉพาะการอพยพไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกา ที่ชาวยิวส่วนใหญ่ในบรรดา
ชาวยิวอเมริกัน 5.3 ล้านคนเป็นชาวยิวอัชเคนาซิ
[4] ซึ่งทำให้เป็นชาวยิวอัชเคนาซิกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก