สโมสรอาชีพ ของ ชินจิ_โอกาซากิ

ชิมิซุ เอส-พัลส์

หลังจากที่จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลายทากิกาวะแห่งที่สองในปี ค.ศ. 2004 โอกาซากิได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ กับสโมสรชิมิซุ เอส-พัลส์ ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลชื่อดังประจำเมืองชิซูโอกะในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2005

วันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2007 โอกาซากิ ได้ลงสนามในเจลีกเป็นครั้งแรกโดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่พบกับซานเฟรซ ฮิโรชิมะ ก่อนจะยิงประตูแรกได้ในนัดที่พบกับคาวาซากิ ฟรอนตาเล โดยโอกาซากิลงเล่นในฤดูกาลแรกไป 13 นัด ยิงได้ 3 ประตู

ในการแช่งขันเจลีก ฤดูกาล 2008 โอกาซากิ ยิงประตูได้ 10 ประตู จากการลงสนาม 27 นัด และพาสโมสรผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย เจลีก คัพ โดยในรอบชิงชนะเลิศที่สนามกีฬาโอลิมปิก (โตเกียว) สโมสรแพ้โออิตะ ตรินิตะ ไป 2–0 และได้ตำแหน่งรองชนะเลิศไปครอง

ต่อมาในฤดูกาล 2009 และ ฤดูกาล 2010 โอกาซากิ ยังรักษาผลงานการยิงประตูในเจลีกได้อย่างต่อเนื่อง โดยยิงได้ 14 ประตู ในฤดูกาล 2009 และ 13 ประตู ในฤดูกาล 2010

จากผลงานที่โดดเด่นในเจลีก ทำให้เขาได้เซ็นสัญญาย้ายไปเล่นฟุตบอลในบุนเดิสลีกา ประเทศเยอรมนีกับเฟาเอฟเบ ชตุทท์การ์ท ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2011[3]

เฟาเอฟเบ ชตุทท์การ์ท

วันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2011 โอกาซากิเซ็นสัญญาย้ายมาเล่นให้กับเฟาเอฟเบ ชตุทท์การ์ท ด้วยสัญญาระยะเวลา 3 ปีครึ่ง[4] ก่อนจะได้รับอนุญาตจากฟีฟ่าให้ลงเล่น เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011[5]โดยชินจิ โอกาซากิ ลงเล่นภายใต้การคุมทีมของบรูโน ลับบาเดียโค้ชชาวเยอรมัน

หลังจากได้รับการอนุญาตจากฟีฟ่า โอกาซากิ ได้ลงเล่นให้กับชตุทท์การ์ทเป็นนัดแรกในคืนดังกล่าวทันทีโดยเป็นการลงแข่งขันในรายการยูฟ่า ยูโรปา ลีก นัดที่พบกับสโมสรเบนฟิกา ที่สนามอิชตาดีอู ดา ลุช เมืองลิสบอน

ต่อมาเขาได้ลงเล่นในบุนเดิสลีกาเป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 โดยถูกส่งลงสนามเป็นผู้เล่นตัวจริงในนัดที่สโมสรบุกไปเยือนไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซิน ที่สนามเบ อาเรนา สเตเดียม ก่อนจะมาทำประตูแรกในบุนเดิสลีกาได้ในนัดที่พบกับฮันโนเฟอร์ 96[6]

ในการแข่งขันนัดแรกของบุนเดิสลีกา ฤดูกาล 2011–12 ขณะที่สโมสรกำลังขึ้นนำชัลเคอ 04 อยู่ 2–0 ชินจิ โอกาซากิ สามารถทำประตูเพิ่มได้ จากการยิงไกลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม พาสโมสรชนะไปอย่างขาดลอย 3–0 ต่อมาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2012 โอกาซากิ สามารถยิงประตูได้จากลูกจักรยานอากาศ (Bicycle Kick) ในการแข่งขันกับสโมสรฟุตบอลฮันโนเฟอร์ 96 โดยประตูดังกล่าวได้รับการคัดเลือกให้เป็นลูกยิงยอดเยี่ยมประจำเดือน และทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลชาวญี่ปุ่นคนที่สองที่ได้รับรางวัลนี้ในประเทศเยอรมนี ต่อจากยาซูฮิโกะ โอกูเดระ อดีตกองกลางชาวญี่ปุ่นของเอฟเซ โคโลญ ที่ถือเป็นชาวญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลนี้เป็นคนแรกในเดือนเมษายน 1978

ฤดูกาล 2012–13 โอกาซากิ มีผลงานที่ไม่ค่อยดีนักเมื่อยิงประตูในบุนเดิสลีกาได้เพียงแค่ 1 ประตู อย่างไรก็ตามเขาสามารถยิงประตูในการแข่งขันระดับทวีปยุโรปได้เป็นครั้งแรกโดยเป็นการยิง 2 ประตูในยูฟ่า ยูโรปา ลีกนัดที่พบกับสโมสรฟุตบอลสเตอัว บูคาเรสต์จากประเทศโรมาเนีย

ไมนทซ์ 05

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 โอกาซากิย้ายมาเล่นให้กับไมนทซ์ 05 [7] ภายใต้การคุมทีมของโทมัส ทูเคิล ประตูแรกของเขาเกิดขึ้นในเกมนัดแรกของบุนเดิสลีกา ฤดูกาล 2013–14 ในเกมที่พบกับชตุทท์การ์ท ซึ่งเป็นสโมสรเก่าที่เคยค้าแข้งอยู่ [8] โอกาซากิยิงประตูในลีกไปได้ทั้งหมด 15 ประตูหลังจบฤดูกาล

เลสเตอร์ซิตี

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 2015 โอกาซากิเซ็นสัญญากับเลสเตอร์ซิตี สโมสรจากพรีเมียร์ลีกด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์และได้รับการอณุมัติในการออกใบอนุญาตทำงาน[9]โดยเขาลงเล่นให้กับสโมสรครั้งแรกในเกมนัดแรกที่ชนะซันเดอร์แลนด์ 4–2 และประตูแรกของเขาเกิดขึ้นในเกมที่ชนะเวสต์แฮมยูไนเต็ด 2–1และก็พาเลสเตอร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรก ได้สำเร็จ

แหล่งที่มา

WikiPedia: ชินจิ_โอกาซากิ http://www.bundesliga.com/en/liga/news/2013/000026... http://www.fifa.com/mm/document/tournament/competi... http://www.fifa.com/worldfootball/statisticsandrec... http://www.lcfc.com/news/article/shinji-okazaki-ag... http://www.rsssf.com/miscellaneous/okazaki-intlg.h... http://www.iffhs.de/former-results/ http://www.vfb.de/en/aktuell/meldungen/2010/freiga... http://www.vfb.de/en/aktuell/meldungen/2010/pk-shi... http://www.vfb.de/en/aktuell/meldungen/2010/verpfl... http://www.vfb.de/en/aktuell/meldungen/news/2013/w...