ชโคดรัน มุสทาฟี (
เยอรมัน: Shkodran Mustafi; เสียงอ่านภาษาเยอรมัน: [ˈʃkoːdʁan ˈmʊstafiː]; เกิดเมื่อวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลชาวเยอรมันเชื้อสาย
แอลบาเนีย[2] ปัจจุบันเล่นให้กับ
อาร์เซนอล และ
ทีมชาติเยอรมนี ในตำแหน่ง
กองหลัง[3] โดยครอบครัวของมุสทาฟีมีรากเหง้ามาจากเมือง
กอสติวาร์ มาซิโดเนีย[2] โดยตัวของมุสทาฟีเองสามารถพูดได้ถึง 5 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ, เยอรมัน, อิตาลี, สเปน และแอลบาเนีย
[4]มุสทาฟีเริ่มต้นอาชีพกับทีมระดับเยาวชนของ
ฮัมบูร์เกอร์เอสเฟา และ
เอฟเวอร์ตัน ซึ่งอยู่กับสโมสรเป็นระยะเวลา 2 ปีครึ่ง ลงเล่นเพียงแค่ 1 นัดในฐานะตัวสำรอง ก่อนที่จะย้ายไปยัง
ซัมป์โดเรีย ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2012 ได้เซ็นสัญญากับ
บาเลนเซีย ในลาลิกา ของสเปน เป็นระยะเวลา 5 ปี ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2014มุสทาฟีเปิดตัวกับทีมชาติครั้งแรกในเกมที่พบกับ
โปแลนด์ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 และเป็นหนึ่งในผู้เล่นของเยอรมนีในชุดแชมป์
ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล และยังติดทีมชาติชุด
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ที่ฝรั่งเศส โดยมุสทาฟีเป็นผู้ทำประตูให้ทีมได้ในการพบกับ
ยูเครน ด้วยการโหม่งในนาทีที่ 19 ในการแข่งขันรอบแรกของกลุ่มซีอีกด้วย ที่สนาม
สตาดปีแยร์-โมรัว นับเป็นประตูแรกของการแข่งขัน ซึ่งเยอรมนีเอาชนะไปได้ 2–0
[5]ในช่วงต้น
ฤดูกาล 2016–17 ที่กองหลังของอาร์เซนอลต่างได้รับบาดเจ็บไม่สามารถลงเล่นได้ อาร์เซนอลได้ซื้อตัวมุสทาฟีจากบาเลนเซียมาร่วมสโมสรด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.75 พันล้านบาท) โดยย้ายมาพร้อมกับ
ลูคัส เปเรซ กองหน้าจาก
เดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา [6] มุสทาฟีลงเล่นให้กับอาร์เซนอลครั้งแรกในนัดที่ 4 ของฤดูกาล ที่สนาม
เอมิเรตส์สเตเดียม ในการพบกับ
เซาแทมป์ตัน พร้อมกับเปเรซทันที ด้วยการเป็นตัวจริง และอยู่จนครบเวลาการแข่งขัน โดยไม่ถูกเปลี่ยนตัวออก
[7] มุสตาฟีทำประตูแรกให้กับอาร์เซนอลได้ในนัดที่ 22 ในช่วงต้นปี ค.ศ. 2017 ในการพบกับ
เบิร์นลีย์ ด้วยลูกโหม่งจากการเตะมุมของ
เมซุท เออซิล ในนาทีที่ 59 ทำให้อาร์เซนอลขึ้นนำ 1–0 และเมื่อจบการแข่งขัน อาร์เซนอลชนะไป 2–1 โดยได้ประตูจากจุดโทษในช่วงทดเวลาเจ็บ ทำให้ขึ้นเป็นรองสโมสรนำในตารางคะแนน
[8]