ประวัติ ของ ช่อง_8

ช่วงเริ่มต้น

พ.ศ. 2519 เกรียงไกร เชษฐโชติศักดิ์ และสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ เริ่มก่อตั้ง RS และ Rose Sound จากธุรกิจตู้เพลงและค่ายเพลง ด้วยเงินลงทุน 50,000 บาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นปฐมบทของอาณาจักร "อาร์เอส" อันยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน โดยมีสำนักงานแห่งแรกเป็นตึกแถวจำนวน 2 คูหา บนถนนอุรุพงษ์

พ.ศ. 2525 ก้าวเข้าสู่ธุรกิจเพลงวัยรุ่น ภายใต้บริษัท อาร์.เอส.ซาวด์ จำกัด โดยมีศิลปินวงแรกในสังกัดคือ วงอินทนิล ตามด้วย คีรีบูน, ฟรุตตี้, ซิกเซนต์, บรั่นดี, และ เรนโบว์ เป็นต้น

สัญลักษณ์บริษัทเมื่อครั้งใช้ชื่อว่า อาร์.เอส. โปรโมชั่น 1992 จำกัด

พ.ศ. 2535 ย้ายสำนักงานจากตึกแถว 2 คูหา ถนนอุรุพงษ์ มายังอาคารเชษฐโชติศักดิ์ ซอยลาดพร้าว 15 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “บริษัท อาร์.เอส. โปรโมชั่น 1992 จำกัด” และพร้อมทั้งประกาศจุดยืนการเป็นบริษัทบันเทิงแบบครบวงจร

พ.ศ. 2538 ก้าวเข้าสู่ธุรกิจภาพยนตร์ในนาม “อาร์.เอส.ฟิล์ม” จากเรื่อง “โลกทั้งใบให้นายคนเดียว” และนับเป็นภาพยนตร์เปิดตัวที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งด้านรายได้และรางวัล และยังเป็นพื้นฐานความสำเร็จของเรื่องต่อๆ มา

พ.ศ. 2540 ก้าวเข้าสู่สื่อโทรทัศน์อย่างเต็มตัวด้วยการเปิดบริษัท ชาโดว์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ในช่วงต้นปี และบริษัท เมจิคแอ็ดเวอร์เทนเมนท์ จำกัด ในช่วงกลางปี ในฐานะผู้ผลิตเนื้อหารายการอันโดดเด่น ทั้งรายการเกมส์โชว์, รายการวาไรตี้, มิวสิควีดีโอ และละครโทรทัศน์

พ.ศ. 2542 จัดทัพธุรกิจสื่อวิทยุใหม่ในนาม บริษัท สกาย-ไฮเน็ตเวิร์ค จำกัด และเข้าทำสื่อวิทยุอย่างเป็นทางการ โดยรับหน้าที่ผลิตรายการและบริหารคลื่นวิทยุในเครือ ได้แก่ 98 Cool FM และ 88.5 Z POP We Like คลื่นซ่าของคนรุ่น “Z”

บริษัทมหาชนจำกัด

พ.ศ. 2546 อาร์เอสได้นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)”

สัญลักษณ์บริษัท ถึงเดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2563

พ.ศ. 2550 เปลี่ยนโลโก้บริษัทเนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี รวมทั้งก่อตั้งบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดแคสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนต์ จำกัด และ บริษัท อาร์เอส ไอดรีม จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจทางด้านกีฬาและโชว์บิซ รวมทั้งลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2 สมัย คือฟุตบอลโลก 2010 และ 2014 และฟุตบอลยูโร 2008

พ.ศ. 2552  รุกเข้าสู่ธุรกิจดาวเทียม โดยเปิดตัว YOU Channel และ สบายดี ทีวี จากนั้นในปี 2554 ได้ขยายตัวในธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมเพิ่มอีก 2 ช่อง ได้แก่ ช่อง 8 และ Yaak TV

พ.ศ. 2556 เป็นผู้ผลิตสื่อครบวงจร พร้อมทั้งผลิตสื่อบันเทิงเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจวิทยุ ได้รีแบรนด์ ‘สกายไฮ เน็ตเวิร์ค’ เป็น ‘คูลลิซึ่ม’ และเปิดคลื่นวิทยุใหม่ คูลเซลเซียส 91.5

พ.ศ. 2557 ก้าวเข้าสู่ธุรกิจทีวีดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยส่งบริษัท อาร์เอส เทเลวิชัน จำกัด เข้าร่วมการประมูล และนำมาซึ่งการถือกำเนิดของ "ช่อง 8" ทางทีวีดิจิทัลช่อง 27 ในปัจจุบัน และในส่วนของ "ช่อง 2" และ "สบายดีทีวี" ยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจทีวีดาวเทียม ทั้งยังได้ปรับโฉมคลื่นวิทยุ คูลเซลเซียส 91.5 เป็น COOL Fahrenheit 93 คลื่นเพลงฟังสบายอันดับ 1 ที่มีผู้ติดตามอย่างเหนียวแน่น และในขณะเดียวกันก็เริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม

พ.ศ. 2559 เปิดตัวบริษัท “ไลฟ์สตาร์ (LifeStar)” เพื่อขยายตัวเข้าสู่ธุรกิจสุขภาพและความงาม พร้อมเผยโฉมแบรนด์หลักอย่าง "มาจีค กราวีธัส รีไวว์ และ โนเบิลไวท์"

พ.ศ. 2560 บริษัทฯ ภายใต้การดำเนินงานของไลฟ์สตาร์ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามอย่างต่อเนื่อง จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ภายใต้กลุ่มแบรนด์ "มาจีค" ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ภายใต้กลุ่มแบรนด์ "รีไวฟ์" และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ภายใต้กลุ่มแบรนด์ "เอส.โอ.เอ็ม." โดยโฆษณาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านสื่อของบริษัทฯ ทั้งออนไลน์และออนแอร์ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของทีม Telesales เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และบริษัทฯ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ยอดขายเติบโตสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

พ.ศ. 2561 เปลี่ยนถ่ายเข้าสู่การเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ หรือ MPC อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการบริหารสื่อในมืออย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีการขยายตัวทั้งในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายและประเภทของผลิตภัณฑ์เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค

พ.ศ. 2562 เติบโตในธุรกิจพาณิชย์ภายใต้แบรนด์ “ช้อป 1781” อย่างต่อเนื่องและสูงสุดเป็นประวัติการ และได้ทำการเปลี่ยนหมวดธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์จาก “สื่อและสิ่งพิมพ์” เป็น “พาณิชย์” รวมทั้งได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เพื่อเป้าหมายในการขยายและเชื่อมโยงสื่อทุกช่องทางให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจ

พ.ศ. 2563 ช่วงเวลาสำคัญของอาร์เอส ประกาศปรับแบรนด์ใหม่สู่การเป็น “อาร์เอส กรุ๊ป” ยุคแห่ง Entertainmerce บนสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ รวมทั้งได้รีแบรนด์ “ช้อป 1781” เป็น “อาร์เอส มอลล์ แชนแนล” ทางด้านแบรนด์ “ไลฟ์สตาร์” ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง, ช่อง 8, คูลลิซึ่ม, ธุรกิจเพลง ยังเป็นผู้นำตลาดและเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์เติบโต

ย้ายธุรกิจ

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 อาร์เอส ได้รับการอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการขอปรับย้ายหมวดธุรกิจ จากหมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ มาเป็นหมวดธุรกิจพาณิชย์ โดยยังคงอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการเช่นเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยหลังจากเปลี่ยนกลุ่มมาเป็นกลุ่มธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทาง หรือ MPC (Multi-platform Commerce) สร้างรายได้ได้ในสัดส่วนถึง 60% ของรายได้รวมของอาร์เอส[2] ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เข้าถือหุ้นอาร์เอส จำนวน 68 ล้านหุ้น (หรือประมาณ 7%) เพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลลูกค้า[3]

ปรับภาพลักษณ์องค์กร

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 อาร์เอสได้ย้ายสำนักงานจากอาคารเชษฐโชติศักดิ์ ซอยลาดพร้าว 15 มาอยู่ที่ อาคารกลุ่มอาร์เอส ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 62,845 ตารางเมตร แบ่งเป็น 3 อาคารหลัก และ 1 อาคารจอดรถ มีการออกแบบสไตล์ Congregations Rhythm และออกแบบให้ด้านหน้าอาคารของทั้ง 4 อาคารให้มีความต่อเนื่องกัน รวมเป็นกลุ่มอาคาร ซึ่งมีพื้นที่ของส่วนงานการผลิตของช่อง 8 ที่มีห้องถ่ายทอดรายการข่าว และห้องอัดเสียง รวมทั้งห้องจัดรายการสำหรับคลื่นวิทยุคูลฟาเรนไฮต์ 93 และยังมี "โรสฮอลล์" หรือพื้นที่จัดกิจกรรมที่สามารถรองรับได้ถึง 400 – 600 คน ไว้รองรับการจัดอีเวนต์หรือกิจกรรมได้อย่างหลากหลายรูปแบบ

หลังจากย้ายตึกแล้ว อาร์เอสได้มีการปรับภาพลักษณ์องค์กร และเปลี่ยนสัญลักษณ์บริษัทใหม่ จากสีฟ้าที่ดูคล้ายหยดน้ำ เป็นตัวอักษรทรงโค้งมนในสไตล์มินิมอล ซึ่งสื่อถึงองค์กรไร้กรอบและข้อจำกัดใด ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานและการทำธุรกิจยุคที่มีการ Disruption อยู่ตลอดเวลา และพร้อมไปได้ทุกที่ ทุกสถานะ ในส่วนของสีคือไม่มีสี หมายถึงไม่ยึดติดอยู่กับสีใดสีหนึ่ง เพราะหากเราเปรียบแต่ละธุรกิจของ RS เป็นเหมือนสี สีเหล่านั้นก็จะสามารถผสมกันได้อย่างกลมกลืน นับเป็นอัตลักษณ์ที่แตกต่างจากบริษัทอื่นๆ ที่มีการกำหนดสีที่ชัดเจน

รูปทรงและความโค้งมนของตัวอักษร R และ S ถูกนำมาปรับใช้เพื่อแสดงออกถึงความพริ้วไหว และขับเคลื่อนไปสู่ความก้าวหน้า ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ มีความทันสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังดูเป็นมิตรและเข้าถึงได้ง่าย