เมนูนำทาง
ซัมเมอร์รักจากต่างดาว สื่ออนิเมะนี้ ทะสึยุกิ นะไง ผู้มีชื่อเสียงจากอนิเมะเรื่อง อะโนะฮะนะ (AnoHana) กำกับ บริษัทเจซีสตาฟผลิต บริษัทเจ็นโกะกับบริษัเจเนียนอำนวยการผลิต โยซุเกะ คุโระดะ และทะระกุ อุอง ร่วมกันเขียนเรื่อง อุองยังรับหน้าที่ออกแบบตัวละครต้นฉบับด้วย คนทั้งสองนี้ได้รับความนิยมมาจากผลงานอะนิเมเรื่อง พลีสทีเชอร์! (Please Teacher!) และ พลีสทวินส์! (Please Twins!) แล้วมะซะโยะชิ ทะนะกะ (Masayoshi Tanaka) จึงออกแบบตัวละครที่ใช้ในอนิเมะตามแนวความคิดของอุอง[2]
อนิเมะมีความยาวสิบสองตอน ตอนละยี่สิบสี่นาที ฉายในประเทศญี่ปุ่นทางเครือข่ายโทรทัศน์ของทีวีไอชิและเคบีเอสทุกวันจันทร์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2555 จนถึงวันจันทร์ที่ 26 มีนาคม 2555[3] ในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัทเซ็นไตฟิล์มเวิกส์ได้รับอนุญาตให้นำไปเผยแพร่ในทวีปอเมริกาเหนือ ขณะที่บริษัทครันชีโรล (Crunchyroll) ได้รับอนุญาตให้นำเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปอเมริกาใต้ โดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "เวทิงอินเดอะซัมเมอร์" (Waiting in the Summer)[4][5] ส่วนในประเทศออสเตรเลียและประเทศนิวซีแลนด์ บริษัทแมดแมนเอนเตอร์เทนเมนต์ (Madman Entertainment) ได้รับอนุญาตให้นำออกเผยแพร่[6]
อนิเมะนี้ กลุ่มไอฟ์ซาวด์ (I've Sound) ซึ่งโด่งดังมาจากผลงานเพลงประกอบวิชวลโนเวล แคลนนาด (Clannad) สร้างสรรค์เพลงประกอบ และจิน อะเกะตะงะวะ (Jin Aketagawa) กำกับเสียงประกอบ[2]
เพลงหลักที่ใช้ในอนิเมะมีอยู่สองเพลง เป็นเพลงเปิดหนึ่ง เพลงปิดหนึ่ง เพลงเปิดชื่อ "ไซน์" (Sign) ชินจิ โอะริโตะ (Shinji Orito) จากบริษัทคีย์ (Key) แต่งทำนอง, โคะโตะโกะ (Kotoko) แต่งเนื้อร้อง และเรย์ (Ray) ร้อง แล้ววางขายเป็นซิงเกิลตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555[7]
ส่วนเพลงปิดนั้นชื่อ "วีโดรโมะโย" (ビードロ模様; "Vidro Moyō") โทะโมะยุกิ นะกะซะวะ (Tomoyuki Nakazawa) จากกลุ่มไอฟ์ซาวด์แต่งทำนอง, นะงิ ยะนะงิ (Nagi Yanagi) แต่งเนื้อและขับร้อง และวางขายเป็นซิงเกิลตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555[7]
ตอนที่ | ชื่อตอน | วันออกอากาศ (ในประเทศญี่ปุ่น) |
---|---|---|
1 |
| 10 มกราคม 2555 |
ค่ำวันหนึ่ง ไคโตะ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 ยืนทดลองกล้องถ่ายวีดิทัศน์ความเร็วสูงอยู่บนสันเขื่อน ทันใดก็เห็นดวงไฟสีฟ้าสุกสว่างพุ่งกระทบผิวโลกเป็นสนั่นหวั่นไหว ยังให้เขาร่วงจากตอม่อลงสู่ห้วงน้ำเบื้องล่าง ร่างกายแล้วไปด้วยโลหิตจมดิ่งลงเรื่อย ๆ ทว่า มีมือข้างขึ้นคว้ามือเขาเอาไว้ พลันเขาก็สะดุ้งตื่นพบว่าตนอยู่บนที่นอน จึงสำคัญว่าอุบัติเหตุดังกล่าวเป็นความฝัน ที่โรงเรียน เขาคุยกับเทะสึโร, คันนะ และมิโอะ เรื่องถ่ายทำภาพยนตร์กันในฤดูร้อนที่จะถึง เพื่อจัดแสดงในเทศกาลวัฒนธรรมของโรงเรียนตอนปลายปี เวลานั้น เขาพบอิชิกะซึ่งย้ายมาเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 เทะสึโรจึงชวนอิชิกะร่วมงานด้วย อิชิกะรับคำโดยมิพักไตร่ตรอง เช่นเดียวกับเลมอน เพื่อนสนิทของอิชิกะ โดยเลมอนนั้นยินดีเขียนบนภาพยนตร์ให้ด้วย เย็นลงวันนั้น ไคโตะพบอิชิกะนั่งตกปลาอยู่ จึงเข้าไปสนทนาด้วย และพบว่า อิชิกะไม่มีที่ไป จึงเผลอไผลชวนไปอาศัยบ้านเขา เพราะนะนะมิ พี่สาวเขา กำลังไปธุระที่ประเทศโบลิเวียเป็นเวลาสามเดือน เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว ขณะที่อิชิกะอาบน้ำชำระกายอยู่นั้น ไคโตะให้รู้สึกเจ็บปวดขึ้นที่ต้นคอ ฉับพลันก็มีลำแสงวาบเข้าสายตาเป็นภาพอุบัติเหตุข้างต้น แล้วไคโตะก็สิ้นสติล้มลง ทั้งนี้ อุบัติเหตุนั้นหาใช่ความฝันไม่ อันที่จริงแล้ว อิชิกะเป็นมนุษย์ต่างดาว ออกเดินทางตามหาสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งปรากฏแก่เธอเสมอมาในจินตภาพ ค่ำวันเกิดเหตุ ยานเธอประสบอุบัติเหตุตกกระทบผิวโลกกะทันหัน ส่งผลให้ไคโตะได้รับบาดเจ็บจวนสิ้นใจ เธอฉุดเขาขึ้นจากน้ำ และรักษาพยาบาลเขาโดยถ่ายทอดเซลล์ในร่างกายเธอซึ่งมีจักรกลขนาดเล็ก (nanomachine) อันเป็นเทคโนโลยีที่ใช้รักษาพยาบาลได้ให้แก่เขาด้วยการจุมพิตเขา แต่เซลล์ดังกล่าวเมื่อเข้าสู่ร่างกายไคโตะระยะหนึ่งแล้วก็ทำปฏิกิริยาและเกิดสันดาป อิชิกะออกห้องน้ำมาพบไคโตะนอนมิได้สติอยู่บนพื้น และสังเกตเห็นการสันดาป จึงถลาเข้าช่วยสลายให้โดยจุมพิตเขาอีกครั้ง ประจวบกับที่คันนะและนะนะมิซึ่งพบปะกันที่ตลาดและกลับบ้านมาพร้อมกันได้เห็นเข้าพอดี | ||
2 |
| 17 มกราคม 2555 |
อิชิกะแนะนำตนเองต่อนะนะมิ และเกือบพลั้งปากเผยว่าตนเองเป็นมนุษย์ต่างดาว จึงกล่าวเบี่ยงไปว่าเป็นนักเรียนต่างชาติ นะนะมิยินยอมให้อิชิกะอาศัยอยู่ในบ้านได้ และฝากฝังไคโตะไว้กับเธอระหว่างที่ตนไปประเทศโบลิเวียด้วย คันนะซึ่งหลงรักไคโตะอยู่ได้ฟังก็ตกใจ เพราะเสมือนหนึ่งว่านะนะมิอุ้มสมไคโตะและอิชิกะ วันถัดมา ไคโตะชวนอิชิกะไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เมื่อกลับบ้านก็พบว่า เลมอน, เทะสึโร, มิโอะ และคันนะมาอยู่พร้อมกัน พวกเขาว่า มาประชุมปรึกษาเรื่องโครงการทำภาพยนตร์กัน ระหว่างนั้น ไคโตะสิ้นสติล้มลงเพราะอาการอย่างเดิม อิชิกะจึงจุมพิตเขาอีกเป็นครั้งที่สาม | ||
3 |
| 24 มกราคม 2555 |
การจุมพิตครั้งที่สามเยียวยาไคโตะได้ชะงัด เพราะไม่ปรากฏอาการเช่นนั้นในร่างกายไคโตะอีก กระนั้น ไคโตะซึ่งหลงรักอิชิกะตั้งแต่แรกพบมิได้รับรู้เลยว่า อิชิกะได้จุมพิตเขาหลายครั้งแล้ว ไคโตะนั้นเพ้อถึงอิชิกะมากและใคร่จะสารภาพความในใจให้จงได้ แต่มิอาจหาญพอ จึงกระวนกระวายใจอยู่หาสงบไม่ และลาเรียน คันนะทราบแล้วก็ร้อนใจ ไปเยี่ยมเขาถึงบ้าน เขาจึงชวนเธอออกไปเดินเล่นนอกบ้านกัน คนทั้งสองทอดน่องท่องเที่ยวไปถึงย่านคะรุอิซะวะ ขณะนั้น อิชิกะเห็นทั้งคู่แต่ไกลจึงติดตามไป คันนะเมื่อเห็นเลมอนบันทึกภาพเธอและไคโตะไว้ด้วยกล้องถ่ายวีดิทัศน์จึงผละจากไคโตะไป อิชิกะมาถึง เห็นไคโตะอยู่ลำพัง จึงเข้าไปหา ไคโตะเห็นอิชิกะก็ประหม่า มิรู้ที่จะทำประการใด จึงวิ่งหนีไป อิชิกะก็วิ่งตามกันจนเหนื่อยหอบ หัวเราะกันอยู่ และชวนกันโดยสารรถไฟจากสถานีคะรุอิซะวะกลับบ้าน เวลานั้น ไคโตะถ่ายภาพเคลื่อนไหวของอิชิกะด้วยกล้องประจำมือ และพูดคุยกันไปมา กลายเป็นการสารภาพรักกันโดยอ้อม | ||
4 |
| 31 มกราคม 2555 |
วันต่อมา ไคโตะและอิชิกะเขินอายจนมิรู้จะสู้หน้ากันเช่นไร จึงพยายามเลี่ยงกัน ขณะนั้น มะนะมิ พี่สาวของเทะสึโร ชวนไคโตะไปซื้อข้าวของด้วยกัน และพาเขากลับไปพูดคุยด้วยที่ห้องชุดของน้องชาย อิชิกะเห็นเข้าก็สำคัญว่า ไคโตะกำลังมีปฏิสัมพันธ์กับหญิงสาวคนอื่น และหึงหวง จึงให้รินอน สิ่งมีชีวิตต่างดาวซึ่งเป็นผู้ช่วยของเธอ นำพาเธอไปยังห้องของเทะสึโร และลากไคโตะกลับบ้าน มะนะมิเห็นเข้าก็นึกสนุกจึงแกล้งรั้งเขาไว้ทำนองปกป้องคู่รัก กลายเป็นยั่วอารมณ์อิชิกะ เทะสึโรกลับมาพบเข้าพอดีจึงอธิบายให้อิชิกะฟังว่า พี่สาวตนมีสามีแล้ว อิชิกะขอโทษทุกคน และช่วยสอนหนังสือให้โคโตะจนสอบเสร็จเป็นการไถ่โทษ | ||
5 |
| 7 กุมภาพันธ์ 2555 |
ฤดูร้อนแล้ว ปิดภาคเรียน กลุ่มของไคโตะกำหนดกันให้อิชิกะแสดงเป็นตัวนางในภาพยนตร์ซึ่งจะถ่ายทำกัน ระหว่างนั้น ไคโตก็ช่วยอิชิกะตามหาสถานที่ที่อิชิกะเคยเห็นมาในจินตภาพด้วย ขณะถ่ายทำภาพยนตร์ คันนะให้รู้สึกไม่สบอารมณ์ เพราะบทภาพยนตร์จงใจเอาเรื่องจริงมาแต่ง โดยเฉพาะฉากที่ไคโตะแสดงร่วมกับอิชิกะ วันถัดมาฝนตก งดถ่าย คันนะนำผักดองมาให้ไคโตะที่บ้าน และอิชิกะนำผักดองนั้นไปทำเป็นไส้แซนด์วิช แต่เมื่อเห็นไคโตะเอาแต่สนใจอิชิกะ คันนะก็ยิ่งฉุนเฉียวมากขึ้น ฝ่ายทะสึโรเมื่อทราบถึงความไม่สบายใจของคันนะซึ่งตนหลงรักอยู่แล้วก็ปีนขึ้นไปหาไคโตะถึงห้องนอนและบอกเขาโดยตรงว่า คันนะแอบชอบเขาอยู่ ขณะนั้น อิชิกะผ่านมาได้ยินเข้าพอดี | ||
6 |
| 14 กุมภาพันธ์ 2555 |
อิชิกะครุ่นคิดเรื่องที่เทะสึโรแจ้งแก่ไคโตะ เวลานั้น มะนะมิ พี่สาวของเทะสึโร ให้ตั๋วไปเที่ยวโอะกินะวะจำนวนหลายใบแก่น้องชาย กลุ่มของไคโตะจึงชวนกันไปถ่ายทำภาพยนตร์ที่โอะกินะวะ ณ ที่นั้น ไคโตะพบคะโอะริ เพื่อนสมัยประถมศึกษาซึ่งเคยกระหนุงกระหนิงกันถึงขนาดที่ไคโตะว่าโตมาจะสมรสด้วย ทำให้ทั้งอิชิกะและคันนะหึงหวงเป็นอันมาก นอกจากนี้ ชิฮะรุ เพื่อนของคะโอะริ ยังสนใจเทะสึโรด้วย ยังให้คันนะซึ่งหลงรักเขาอยู่อารมณ์เสีย | ||
7 |
| 21 กุมภาพันธ์ 2555 |
อิชิกะคลายกังวลลงเมื่อคะโอะริว่า ที่มาโอะกินะวะเพราะต้องการลืมเลือนเรื่องที่เพิ่งถูกชายคนรักทิ้ง ประจวบกับได้พบไคโตะเพื่อนเก่าจึงต้องการรำลึกความหลังกันเท่านั้น และขอโทษอิชิกะที่ทำให้วิตก ขณะเดียวกัน มิโอะช่วยเหลือเทะสึโรให้พ้นจากชิฮะรุที่พยายามปลุกปล้ำเขา เป็นเหตุให้เทะสึโรล่วงรู้ว่า มิโอะไม่ชอบนุ่งห่มผ้าผ่อน โดยเฉพาะกางเกงใน และชิฮะรุร้องด่าเธอว่าชอบเปิดเผยของลับ เทะสึโรจึงออกหน้าปกป้องมิโอะ ทำให้มิโอะดีใจเป็นอันมาก วันรุ่งขึ้น เมื่อกลุ่มโคโตะถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จโดยคะโอะริกับชิฮะรุร่วมแสดงด้วย ทั้งคู่ก็โดยสารเครื่องบินกลับกรุงโตเกียว ส่วนกลุ่มโคโตะอยู่เล่นน้ำที่หาดโอะกินะวะต่อ | ||
8 |
| 28 กุมภาพันธ์ 2555 |
เมื่อกลับแล้ว อิชิกะและคนอื่น ๆ มาเที่ยวเทศกาลฤดูร้อนกันในค่ำวันหนึ่ง เลมอนชวนให้ทุกคนเล่นพิสูจน์ความกล้าโดยจับคู่กันเดินขึ้นบันไดนาคผ่านความมืดสงัดขึ้นไปสู่วัดชะกุซน (釈尊寺) ข้างบนให้ได้ ระหว่างเล่นกันนั้น รินอนปรากฏต่ออิชิกะและบอกว่า ไฟสัญญาณฉุกเฉินทำงานเอง ซึ่งจะส่งผลให้หุ่นกู้ภัยจากดาวของพวกตนเดินทางมาช่วยเหลือในไม่ช้า เป็นจริงตามนั้น เหล่ากู้ภัยต่างดาวมาถึงในบัดดลและพยายามใช้กำลังนำพาอิชิกะกลับไปด้วยสำคัญว่าเธอกำลังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน อิชิกะตกใจและหวีดร้องด้วยเสียงอันดัง ไคโตะได้ยิน จึงสั่งคันนะซึ่งเป็นคู่เดินขึ้นวัดด้วยให้อยู่กับที่ไว้ และรุดไปหาอิชิกะ ไคโตะแม้ไม่ทราบว่า สิ่งมีชีวิตที่ปรากฏต่อหน้านั้นคืออะไร แต่ก็โผเข้าช่วยอิชิกะผู้เป็นที่รักโดยมิพักใคร่ครวญ เหล่ากู้ภัยต่างดาวทำร้ายไคโตะ รินอนขับเคลื่อนรินนะ (Rinna) จักรกลตัวหนึ่งของอิชิกะ เข้าช่วยไว้ได้ทัน กระนั้น เมื่อเห็นว่าอิชิกะยังอยู่ในเงื้อมมือของฝ่ายตรงข้าม ไคโตะก็กระโดดลงจากยานของรินนะกลางอากาศเพื่อเข้าช่วยเหลืออิชิกะ ยานรินนะเสียหลักพุ่งชนเหล่ากู้ภัยจนเกิดระเบิด และหุ่นกู้ภัยเสียหายทำลายลงในการนั้น ส่วนไคโตะคว้าอิชิกะไว้ได้ แต่ร่วงลงสู่เบื้องล่าง ศีรษะกระแทกพื้นอย่างรุนแรงจนถึงแก่ความตายโดยมีอิชิกะอยู่ในอ้อมกอด อิชิกะช่วยให้ไคโตะพ้นจากความตายอีกครั้งด้วยการจุมพิต คนอื่น ๆ วิ่งติดตามมาเห็นอิชิกะร้องไห้ขอโทษไคโตะอยู่ | ||
9 |
| 6 มีนาคม 2555 |
หลังจากเหตุการณ์นั้น อิชิกะเปิดเผยต่อไคโตะและผองเพื่อนว่า ตนเป็นมนุษย์ต่างดาว และมาโลกเพื่อตามหาสถานที่ที่ปรากฏในความทรงจำ ทุกคนจะได้ตื่นตกใจแต่ประการใดก็หาไม่ เพราะต่างคนต่างนึกกันอยู่แล้วว่า อิชิกะน่าจะมาจากโลกอื่น แต่พวกเขาต้องตระหนกเมื่ออิชิกะว่า หุ่นกู้ภัยถูกทำลายลง สหพันธ์ดาวคงตั้งคณะกรรมการลงมาสอบสวนหาสาเหตุเป็นแน่ ฉะนั้น เวลาที่เธอจะสามารถอยู่บนโลกต่อไปย่อมนับวันได้ คันนะต่อว่าที่อิชิกะไม่ยอมเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อไคโตะเสียที ทั้งที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกันทุกเมื่อเชื่อวัน ดูตัวเธอที่หลงรักเขามากเพียงไรยังไม่มีโอกาสถึงเพียงนั้น เธอร้องไห้น้ำตานองหน้าแล้วก็วิ่งจากไป อิชิกะไตร่ตรองแล้วก็มุมานะจะสารภาพรักต่อไคโตะให้ได้ ขณะเดียวกัน เรมงกระตุ้นไคโตะให้กล้าหาญบอกรักอิชิกะ ไคโตะจึงกำหนดใจว่าจะสารภาพอิชิกะเช่นกัน ต่อมา ไคโตะอิชิกะพบกันและบอกกันว่า มีใจให้แก่กันตลอดมา ครั้นแล้ว ทั้งคู่ก็จุมพิตกันแสดงความรักใคร่ ไคโตะว่า นี้เป็นจุมพิตแรกของเขา อิชิกะว่า อันที่จริงเธอจุมพิตเขามาแล้วสามครั้ง รวมครั้งนี้เป็นสี่ และแล้วก็จุมพิตเขาซ้ำอีกเป็นครั้งที่ห้า | ||
10 |
| 12 มีนาคม 2555 |
อิชิกะและไคโตะใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดกันและพลอดรักกันตลอด ส่วนคันนะซึ่งแม้ยินดีที่เห็นไคโตะคนรักได้สมหวังในรัก แต่ก็เศร้าใจที่รักของตนไม่ประสบความสำเร็จ จึงเก็บตัวอยู่แต่บ้านตามลำพัง วันต่อมา เทะสึโรชวนคันนะออกมาที่สนามเด็กเล่นซึ่งเคยมาเล่นกันครั้งเป็นเด็ก เทะสึโรสารภาพรักต่อคันนะ แต่คันนะว่ามีใจให้แก่ไคโตะเพียงผู้เดียวแล้วจากไป มิโอเข้ามากอดเทะสึโรจากด้านหลังแล้วปลอบประโลมเขา กลุ่มของไคโตะยังคงถ่ายทำภาพยนตร์ต่อไป วันหนึ่ง เอะมิกะ พี่สาวของอิชิกะ ปรากฏตัว | ||
11 |
| 19 มีนาคม 2555 |
เอมิกะว่า ติดตามลงมาบนโลก เพราะเป็นห่วงน้องสาวมากเมื่อทราบว่าเธอกดสัญญาณฉุกเฉินทั้งหน่วยกู้ภัยก็ถูกทำลายลง แต่กลับเป็นว่า น้องสาวกินดีอยู่ดีทั้งยังมีคนรักเป็นตัวเป็นตนด้วย เอมิกะว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำอิชิกะกลับบ้าน เพราะกฎหมายสหพันธ์ดาวห้ามพวกเธอติดต่อกับสิ่งมีชีวิตของดวงดาวที่ไม่ปรากฏว่ามีความสัมพันธ์กันมาก่อน และขณะนี้ สถานการณ์ฉุกเฉินของอิชิกะเป็นข่าวใหญ่โตมากที่ดาวบ้านเกิด กับทั้งทางการได้ตั้งคณะค้นหาอิชิกะซึ่งจะได้ลงมายังโลกในเร็ว ๆ นี้ด้วย หากอิชิกะฝ่าฝืนอยู่ต่อไปอาจถูกดำเนินคดีอันจะเป็นเรื่องน่าเศร้ายิ่งกว่าหลายเท่า อิชิกะตกลงกลับบ้านอย่างเสียไม่ได้ แต่เมื่อคันนะและคนอื่น ๆ เข้ามาหยุดยั้งโดยว่า เป็นไฉนจึงยอมจำนนง่ายดายถึงเพียงนี้ พวกตนทุกคนอยากให้เธออยู่ด้วย และจะร่วมต่อสู้ฝ่าฟันจนถึงที่สุด อิชิกะก็เปลี่ยนใจ ขณะนั้น เลมอนซึ่งได้รับทราบข้อมูลบางประการจากเอะมิกะได้รุดมาบอกว่า อิชิกะอาจอยู่ต่อไปได้ ถ้าค้นพบสถานที่บนโลกตามที่เธอเคยเห็นในจินตภาพ อันจะเป็นเครื่องยืนยันว่า มนุษย์ดาวของเธอเคยมายังโลกและเคยติดต่อผูกสัมพันธ์กับมนุษย์โลกเมื่อนานมาแล้ว ไคโตะและพวกค้นพบสถานที่เช่นว่า แต่คณะค้นหาจากดาวของอิชิกะมาถึงพื้นโลกพอดีและเตรียมจับกุมอิชิกะกลับไป กลไกเคลื่อนย้ายวัตถุของรินอนไม่ทำงานเพราะคณะค้นหาสกัดกั้นระบบไว้ รินอนจึงไม่อาจนำพาคนทั้งหลายไปยังสถานที่ดังกล่าวได้ ขณะชุลมุนกันนั้นเอง เลมอนขับรถตู้ซึ่งติดตั้งระบบป้องกันเป็นพิเศษมาถึงหน้าบ้านไคโตะ และเรียกให้คนทั้งปวงขึ้นรถ เธอจะนำพาไปยังจุดนั้นเอง คณะค้นหาจึงไล่ล่าติดตามรถตู้นั้นอย่างกระชั้นชิด เทะสึโร, มิโอะ และคันนะสละตัวออกไปล่อลวงให้คณะค้นหาไปทางอื่น โดยใช้อุปกรณ์แปลงสัญญาณชีวัน (bio-signature) ให้คณะค้นหาเข้าใจว่าเป็นอิชิกะ อย่างไรก็ดี ขณะใกล้จะถึงสถานที่เป้าหมายอีกไม่กี่กิโลเมตร รถตู้ของเลมอนชนเข้ากับยานที่คณะค้นหาอำพรางไว้กลางทางอย่างแรงและพลิกคว่ำ | ||
12 |
| 26 มีนาคม 2555 |
เลมอนก้าวลงจากรถตู้ คว้าปืนเข้าประจันกับคณะค้นหา พลางบอกให้ไคโตะนำพาอิชิกะไปให้ถึงจุดหมายให้ได้ เธอว่า อิชิกะเป็นมนุษย์ต่างดาวคนแรกที่เธอพบ และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่เธอมีมา เธอจำจะต้องปกป้องไว้ ขณะที่เลมอนกำลังเพลี่ยงพล้ำนั้น รินอนพร้อมด้วยจักรกลจำนวนหนึ่งซึ่งเอะมิกะส่งมาสมทบ และกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งซึ่งสวมชุดสูทและแว่นตาสีดำมีอาวุธทันสมัยครบมือ เข้ากู้สถานการณ์ไว้ได้ทันท่วงที ฝ่ายไคโตะและอิชิกะนั้นนั่งรถไฟไปยังสถานที่เป้าหมาย ปรากฏว่าเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่มีป่ารอบ ทันใดก็บังเกิดแสงสว่างขึ้นจากน้ำ ฉายภาพให้อิชิกะกับไคโตะได้รับทราบว่า บรรพบุรุษของอิชิกะได้เดินทางมายังโลกใบนี้ แล้วได้ผูกสัมพันธ์และมีความทรงจำดี ๆ กับมนุษย์โลก แต่ถูกจับกุมกลับดาวไปเพราะฝ่าฝืนกฎหมาย และความทรงจำเหล่านั้นต้องถูกกักไว้ตามกฎหมาย ทว่า บรรพบุรุษของอิชิกะไม่ต้องการลืมเลือนวันเวลาดี ๆ บนพื้นโลก จึงสลักข้อความทิ้งไว้ที่ต้นไม้ต้นใหญ่ที่สุดต้นในป่านั้น ไคโตะและอิชิกะจึงหาต้นไม้ดังกล่าวเพื่อจะใช้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า มนุษย์ดาวอิชิกะกับมนุษย์โลกเคยมีความสัมพันธ์กันแล้ว แต่ต้องเสียใจเมื่อพบว่า บัดนี้ ต้นไม้นั้นถูกตัดเหลือแต่ตอ คณะค้นหาติดตามมาถึงทะเลสาบ และแยกไคโตะกับอิชิกะจากกัน ก่อนจะจับกุมอิชิกะลอยขึ้นสู่เวิ้งฟ้าไป ไคโตะวิ่งตามไปถึงกลางทะเลสาบแล้วร้องตะโกนทั้งน้ำตาว่า จะต้องขึ้นไปหาอิชิกะให้ได้ ฝ่ายอิชิกะนั้นร้องตอบว่า สัญญาว่าจะรอคอยวันที่จะได้พบกันอีกดังเช่นในหน้าร้อนคราวนี้ เมื่อเลมอนและคนอื่น ๆ มาถึงก็พบไคโตะยืนนิ่งอยู่กลางน้ำ คลองน้ำตาหลั่งริน เมื่อเปิดภาคเรียนแล้ว ไคโตะและเพื่อนกลับไปเรียนตามปรกติ ส่วนเลมอนนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัดหน่วยงานซึ่งทำหน้าที่จับตาเรื่องลี้ลับ เรียก "บุรุษชุดดำ" (Men in Black) และได้ปลอมตัวมาแฝงอยู่ในโรงเรียนของไคโตะ เมื่อสิ้นเรื่องคราวนี้ก็กลับไปประจำหน่วยงานดังเดิม แต่ก่อนไปได้มอบภาพยนตร์ที่ทำกันไว้ตอนปิดภาคเรียนให้แก่ไคโตะและพวก ทว่า ภาพยนตร์นั้นยังไม่จบ เนื่องจากตัวนาง คือ อิชิกะ ไม่อยู่เสียแล้ว ส่วนนะนะมิ พี่สาวของไคโตะ กลับจากประเทศโบลิเวีย ซื้อข้าวของมาฝากเป็นอันมาก เธอซื้อชุดพื้นเมืองโบลิเวียมาฝากอิชิกะด้วย แต่ต้องเศร้าใจเมื่อทราบว่าอิชิกะจากไปแล้ว สองหรือสามปีต่อมาอันเป็นเวลาที่กลุ่มไคโตะสำเร็จการศึกษาแล้ว โรงเรียนของไคโตะจัดเทศกาลวัฒนธรรมประจำปี และนักเรียนพากันเข้าชมภาพยนตร์ดังกล่าวซึ่งกลุ่มนั้นทิ้งเอาไว้ ปรากฏว่า ภาพยนตร์จบบริบูรณ์โดยใช้นางเอกคนเดิม และเธอสวมชุดพื้นเมืองโบลิเวียด้วย ซึ่งบ่งบอกเป็นปริยายว่า อิชิกะได้กลับมายังโลกอีก กับทั้งได้พบได้ใช้ชีวิตกับไคโตะและเพื่อนอีกครั้ง | ||
เพื่อประชาสัมพันธ์อนิเมะนี้ ได้มีการจัดรายการวิทยุทางอินเทอร์เน็ตชื่อ อิชิกะโทะรินอนโนะนะสึมะชิเรดิโอ (イチカとりのんのなつまちラジオ; "รายการวิทยุในหน้าร้อนของอิชิกะและรินอน") ทดลองเผยแพร่เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2554 ต่อมาจึงเผยแพร่อย่างเป็นทางการอาทิตย์ละครั้งตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2555 จนอนิเมะจบ[8]
รายการนี้ สถานีวิทยุฮิบิกิ (Hibiki Radio Station) ผลิต และฮะรุกะ โทะมะสึ ซึ่งพากย์เป็นอิชิกะ กับรินะ ฮิดะกะ ซึ่งพากย์เป็นรินอน ดำเนิน[8]
จิตรกรเพะปะโกะ โดะกุตะ ได้ดัดแปลงอนิเมะนี้เป็นมังงะใช้ชื่อเดียวกัน และเริ่มลงพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสาร เด็งเงะกิไดโอ ของสำนักพิมพ์แอสกีมีเดียเวิกส์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2555[9]
เมนูนำทาง
ซัมเมอร์รักจากต่างดาว สื่อใกล้เคียง
ซัมเมอร์ วอร์ส ซัมเมอร์รักจากต่างดาว ซัมเมอร์สแลม (2012) ซัมเมอร์สแลม (2018) ซัมเมอร์สแลม ซัมเมอร์สแลม (2013) ซัมเมอร์สแลม (2006) ซัมเมอร์สแลม (2017) ซัมเมอร์สแลม (2015) ซัมเมอร์สแลม (2016)แหล่งที่มา
WikiPedia: ซัมเมอร์รักจากต่างดาว http://www.madman.com.au/actions/newsletters.do?me... http://www.animenewsnetwork.com http://www.animenewsnetwork.com/encyclopedia/anime... http://www.animenewsnetwork.com/news/2011-08-28/on... http://www.animenewsnetwork.com/news/2012-01-04/cr... http://www.animenewsnetwork.com/news/2012-01-05/se... http://daioh.dengeki.com/thismonth/index.html http://www.ichika-ichika.com/ http://www.ichika-ichika.com/goods.html http://www.ichika-ichika.com/onair.html