ประวัติ ของ ซาโลรา

ปี 2555

ซาโลราเปิดตัวสาขาในหลายประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ไทย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย และบรูไน[1]

ปี 2556

ใน 4 เดือนแรกของปี 2556 ซาโลราขยายการบริการที่สาขาประเทศมาเลเซียด้วยการจัดส่งสินค้าแบบถึงมือผู้รับตรงสู่ประเทศบรูไน กลางปี 2556 ซาโลราได้ทุบสติการลงทุนสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2]รวมไปจนถึงสี่เดือนสุดท้ายของปี ซาโลราได้เปิดตัวแบรนด์เป็นของตัวเองภายใต้ชื่อ EZRA by ZALORA และนอกจากนี้ยังเป็นที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้นำเข้ายี่ห้อดังจากเกาะเกรตบริเตน River Island พร้อมทั้งยังได้ทำสัญญาเพื่อเป็นเว็บไซต์เพียงแห่งเดียวที่ได้จัดจำหน่ายทางออนไลน์อีกด้วย[3] ปิดท้ายด้วยการประกาศความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยการทุบสถิติการลงทุนที่สูงถึง 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปีเดียวกัน[4] ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ทำให้ซาโลราได้เติบโตทางธุรกิจไปพร้อม ๆ กับมีความหลากหลายของสินค้าเพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากยิ่งขึ้น[5]

ปี 2557

4 เดือนแรกของปี 2557 ซาโลราได้เปิดตัวสถานที่ซื้อขายอีกหนึ่งช่องการตลาดแนวใหม่แบบผู้บริโภคสู่ผู้บริโภค[6]

12.12 Online Fever ซึ่งเกิดขึ้นทุกวันที่ 12 ธันวาคมของทุกปี เป็นความคิดริเริ่มจากซาโลราที่ต้องการจะเร่งการเติบโตของธุรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซาโลราจึงได้จับมือร่วมกับกับบริษัทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ จากอุตสาหกรรมที่หลากหลายในภูมิภาค เพื่อร่วมกันผลักดันการใช้จ่ายจากผู้บริโภคและสร้างความเชื่อมั่นในการซื้อของออนไลน์ ซึ่งในระหว่างช่วงระยะเวลาของ "Online Fever"[7] นี้ ผู้บริโภคจะได้รับสิทธิพิเศษมากมายคล้าย ๆ กับแบล็กไฟรเดย์นั่นเอง

แหล่งที่มา

WikiPedia: ซาโลรา http://e27.co/rocket-internets-zalora-receives-inv... http://popspoken.com/fashion/2013/10/thanks-zalora... http://uk.mobile.reuters.com/article/internetNews/... http://techcrunch.com/2013/12/03/access-industries... http://techcrunch.com/2014/01/14/rocket-internet-b... http://www.techinasia.com/zalora-100-million-dolla... http://www.zalora.com/ http://www.zalora.co.th/online-fever/ https://www.wikidata.org/wiki/Q12525426?uselang=th...