แบบต่างๆ ของ ซี-5_กาแลคซี

ซี-5เอ

แผงควบคุมของซี-5เอ

ซี-5เอเป็นรุ่นดั้งเดิมของซี-5 ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2512-2516 ซี-5เอ 81 ลำถูกส่งให้กับกองทัพอากาศสหรัฐ เนื่องมาจากการพบรอยร้าวในปีกเมื่อปี 2513 จึงมีการกำหนดน้ำหนักขึ้นมา เพื่อให้เครื่องบินมีความสามารถดังเดิม โครงการติดตั้งปีกใหม่จึงเริ่มขึ้นในปีพ.ศ. 2524-2530 ปีกที่ออกแบบใหม่ใช้อะลูมิเนียมซึ่งไม่มีในช่วงที่รุ่นแรกทำการผลิต[17]

ซี-5บี

ซี-5บีเป็นรุ่นพัฒนาของรุ่นเอ มันมีการดัดแปลงและการพัฒนาทั้งหมดจากซี-5เอรวมทั้งปีก เครื่องยนต์ทีเอฟ-39-จีอี-1ซี และระบบอิเลคทรอนิกอากาศใหม่ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2529-2532 มีรุ่นบีถูกส่งให้กับกองทัพอากาศสหรัฐ 50 ลำ[18]

ซี-5ซี

รุ่นซรเป็นรุ่นพิเศษสำหรับการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ มีซี-5 สองลำที่ถูกดัดแปลงให้มีขนาดห้องเก็บสินค้าที่ใหญ่ขึ้นซึ่งใช้โดยนาซ่า การดัดแปลงหลักคือการนำที่นั่งผู้โดยสารออก แยกส่วนกลางของประตูด้านหลังออก และติดตั้งส่วนท้ายเพิ่มเติม[19] การดัดแปลงยังรวมทั้งการเพิ่มช่องลมที่สองสำหรับพลังงานพื้นดินซึ่งสามารถใช้เพื่อเติมกำลังให้อุปกรณ์ที่แยกจากสินค้า ซี-5ซีสองลำถูกใช้โดยกองทัพอากาศสหรัฐโดยครึ่งหนึ่งเป็นนาซ่า[20]

ซี-5เอ็ม

แผงควบคุมใหม่ของซี-5 เมื่อผ่านโครงการพัฒนาระบบอิเลคทรอนิกอากาศ

มันมีพื้นฐานมาจากการศึกษาล่าสุดที่พบว่า 80% ของโครงสร้างของซี-5 เท่านั้นที่ยังเหลืออยู่สำหรับอายุการใช้งาน โครงการพัฒนาระบบอิเลคทรอนิกอากาศหรือเอเอ็มซีได้เริ่มขึ้นเพื่อพัฒนาซี-5บี ซี-5ซี และซี-5เอที่เหลือ โครงการพัฒนาระบบอิเลคทรอนิกอากาศเริ่มขึ้นในปีพ.ศ. 2541 โดยพัฒนาระบบการสื่อสาร จอแสดงผลแบบราบ ระบบนำร่อง อุปกรณ์นิรภัย และระบบนักบินอัตโนมัติแบบใหม่ มันทำการบินครั้งแรกในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2545[21]

อีกส่วนหนึ่งของแผนคือโครงการเสริมความน่าเชื่อถือและปรับแต่งเครื่องยนต์ ซึ่งใช้เครื่องยนซีเอฟ6-80ซี2 ของเจเนรัล อิเลคทริก โดยมีการพัฒนาพื้นผิว โครงสร้าง ล้อ ห้องนักบิน และระบบปรับแรงดัน[8] เครื่องยนต์ซีเอฟ6 นั้นให้แรงขับเพิ่มอีก 22% เป็น 50,000 ปอนด์ในแต่ละเครื่อง[22] ซึ่งมากกว่าแบบเก่า ทำให้มันใช้พื้นที่ในการขึ้น-ลงน้อยลงอีก 30% เพิ่มความจุ และพิสัยระหว่างการเติมเชื้อเพลิงที่มากขึ้น[8][23] ซี-5 ที่ได้รับการพัฒนาทั้งหมดจะใช้ชื่อว่าซี-5เอ็ม ซูเปอร์กาแลกซี[24]

ทั้งสองโครงการของซี-5เอ็มทำให้มันทำภารกิจได้มากขึ้นอย่างน้อย 75%[8] ในอีก 40 ปีข้างหน้ากองทัพอากาศสหรัฐประมาณไว้ว่าซี-5เอ็มจะช่วยประหยัดงบประมาณไป 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ[25] การดัดแปลงของซี-5เอ็มสำเร็จครั้งแรกในวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 และทำการบินครั้งแรกในวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2549[25] ซี-5เอ็มได้ทำการบินทดสอบมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 สองจากสามลำจะมีสีที่ส่วนจมูก เพื่อรับผลทดสอบ[7]

กองทัพอากาศสหรัฐได้ตัดสินใจดัดแปลงซี-5บีและซี-5ซีที่เหลือให้เป็นรุ่นเอ็มโดยพัฒนาระบบอิเลคทรอนิกอากาศและปรับแต่งเครื่องยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551[26] ซี-5เอจะได้รับเพียงระบบอิเลคทรอนิกอากาศใหม่เท่านั้น[26][27] การทดสอบทั้งสามของซี-5เอ็มประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2551 เครื่องบินทดสอบจะเริ่มทำการทดสอบความพร้อมในการปฏิบัติการในเดือนกันยายน พ.ศ. 2552[28][29] โครงการพัฒนาจะสฃเสร็จสมบูรณ์ในปีพ.ศ. 2559[29]

ล็อกฮีด มาร์ตินได้ประกาศว่าการทดสอบซี-5เอ็มเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552 ได้ทำสถิติไป 41 สถิติ รุ่นเอ็มทำการบรรทุก 80,036 กิโลกรัมบนความสูง 41,100 ฟุตเป็นเวลา 23 นาที 59 วินาที มันทำสถิติการไต่ระดับไว้ 3 สถิติในการบรรทุกที่ต่างกันไป และทำลายสถิติโลกในการบรรทุกที่ความสูง 6,562 ฟุต เครื่องบินที่ใช้ในการบินทดสอบได้บรรทุกน้ำหนักทั้งหมด 649,680 ปอนด์ รวมทั้งสินค้า เชื้อเพลิง และลูกเรือ[30]

ประเทศผู้ใช้งาน

แหล่งที่มา

WikiPedia: ซี-5_กาแลคซี http://www.air-attack.com/page/63/C-5-Galaxy.html http://www.airforce-magazine.com/MagazineArchive/M... http://www.airforce-magazine.com/MagazineArchive/P... http://www.airforce-magazine.com/MagazineArchive/P... http://www.amarcexperience.com/AMARCArticleC5Galax... http://www.codeonemagazine.com/events/apr_03/apr03... http://www.flightglobal.com/articles/2007/10/17/21... http://www.flightglobal.com/articles/2008/02/15/22... http://www.flightglobal.com/articles/2009/08/21/33... http://www.janes.com/aerospace/military/news/idr/i...