การออกแบบ ของ ซุคฮอย_ซู-30

ซู-30 เป็นเครื่องบินขับไล่หลากบทบาท มันมีสองที่นั่งพร้อมระบบเบรกอากาศที่อยู่ถัดห้องนักบินไปทางด้านหลัง

เครื่องบินขับไล่ความยืดหยุ่นสูง

ซู-30เอ็มเคสามารถทำภารกิจได้อย่างหลากหลายในระยะไกลจากฐานบิน ได้ในทุกสภาพอากาศและสภาพแวดล้อม ทั้งกลางวันและกลางคืน

เครื่องบินนี้มีความพอดีในด้านยุทธวิธีและการใช้งาน มันทำงานได้ตั้งแต่การตอบโต้ทางอากาศไปจนถึงการโจมตีภาคพื้นดิน การกดดันการป้องกันทางอากาศของศัตรู การสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด และการโจมตีทางทะเล นอกจากนี้ซู-30เอ็มเคยังสามารถทำหน้าที่แจ้งเตือนทางอากาศเช่นเดียวกับควบคุมบัญชาการการโจมตีทางอากาศที่เข้าร่วมภารกิจ

มุมปะทะ

โครงสร้างอากาศพลศาสตร์ของซู-30เอ็มเคเป็นแบบเครื่องบินปีกสามชุดที่มีเส้นแวงที่ไม่เสถียร เพื่อเพิ่มแรงยกที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มความคล่องแคล่วของเครื่องบินจึงมีการติดตั้งปีกปลอมเข้าไป พวกมันจะสะท้อนอัตโนมัติเพื่อทำให้การควบคุมยังอยู่ในมือของนักบินในตอนที่ทำมุมปะทะระดับสูง อย่างไรก็ตามมีเพียงซู-30 บางรุ่นอย่างเอ็มเคไดเท่านั้นที่มีปีกปลอม

กระบวนท่าพูกาเชฟส์คอบรา

กระบวนท่าพูกาเชฟคอบร้าของ ซู-27 และ ซู-30

ด้วยโครงสร้างทางอากาศพลศาสตร์ที่ผสมเข้ากับความสามารถในการควบคุมแรงขับ บวกกับความสามารถในการทรงตัวเป็นเลิศในทุกย่านความเร็ว มันส่งผลให้เกิดกระบวนท่าที่ไม่เคยมีมาก่อนและการบินขึ้น-ลงที่ไม่เหมือนใคร มันมีระบบฟลาย-บาย-ไวร์แบบดิจิตอลที่ทำให้มันสามารถทำกระบวนท่ายากๆ ได้ นั่นรวมทั้งพูกาเชฟส์คอบราและเบลล์ นั่นทำให้เครื่องบินสามารถลดความเร็วได้อย่างรวดเร็วจนทำให้เครื่องบินที่ตามหลังมานั้นหลุดจากการล็อกเป้า[1] เครื่องบินยังสามารถทำการเลี้ยว 360 องศาได้โดยที่ไม่สูญเสียระดับ

เครื่องยนต์หลัก

เครื่องบินมีเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนแซทเทิร์น เอแอล-31เอฟพร้อมสันดาปท้ายสองเครื่องยนต์ แต่ละเครื่องให้กำลังเครื่องละ27,550 ปอนด์เมื่อใช้สันดาปโดยทำความเร็วได้ถึง 2 มัค ทำความเร็วในระดับความสูงต่ำได้ 1,350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราการไต่ระดับที่ 230 เมตรต่อวินาที

ด้วยเชื้อเพลิงปกติขนาด 5,270 กิโลกรัมซู-30เอ็มเคจะสามารถทำการบินได้ 4.5 ชั่วโมงในระยะ 3,000 กิโลเมตร ในกรณีที่เติมเชื้อเพลิงทางอากาศจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 ชั่วโมงในระยะ 5,200 กิโลเมตร

ด้วยทางเลือกในการเพิ่มระยะอย่างมีประสิทธิภาพทำให้มันมักทำภารกิจตั้งแต่ลาดตระเวนระยะยาวและคุ้มกันการสกัดกั้นระยะไกลไปจนถึงการโจมตีภาคพื้นดิน

นักบินสองนาย

ด้วยนักบินสองนายใช้แนวคิดในการเพิ่มขีดสมรรถนะในการสู้รบเพราะว่าเป็นการลดภาระหลายหน้าที่ ที่นักบินหนึ่งคนจะต้องปฏิบัติ ในขณะที่นักบินคนแรกทำหน้าทีควบคุมเครื่องบิน ตัดสินใจใช้อาวุธ และหลบหนีหลีกเลี่ยง นักบินคนที่สองมีหน้าที่ควบคุมอาวุธนำวิถีอากาศสู่อากาศและอากาศสู่พื้นเพื่อโจมตีจากระยะไกล ทำการเฝ้าดูสภาพแวดล้อมทางยุทธวิธีเพื่อระวังภัย และทำการควบคุม-บัญชาการงานในกลุ่มที่ทำภารกิจร่วม

ระบบอิเล็กทรอนิกส์สนับสนุนการบิน

  • มันมีทั้งเรดาร์เอ็น001วีอีและเอ็น010 ซูค หรือเอ็น011เอ็ม บาร์ส สามารถจับเป้าหมายได้ 15 เป้าหมายในอากาศในขณะที่ทำการโจมตี 4 ในนั้นได้ทันที เรดาร์เอ็น011เอ็ม บาร์สจะตรวจจับข้าศึกขนาดใหญ่ที่อยู่บนผิวน้ำจากระยะ 400 กิโลเมตร และสำหรับเป้าขนาดเล็ก
  • ระบบอื่น ระบบอิเล็กทรอนิกส์สนับสนุนการบินยังรวมทั้งระบบนำร่องและแสดงภาพภูมิประเทศพร้อมระบบไจโร หมวกติดจอแสดงผล แสดงภาพสถานการณ์ตรงหน้า/เฮด-อัพดิสเพลย์ จอแอวซีดี และระบบจีพีเอส
  • กระเปาะเล็งเป้าอินฟราเรดและเลเซอร์มีไว้เพื่อจับเป้าหมายและเข้าปะทะกับเป้าหมายขนาดเล็กบนพื้นดิน เครื่องบินยังทำหน้าที่รบกวนเรดาร์ของศัตรูได้เช่นกัน
  • เครื่องบินมีจุดเด่นที่นักบินอัตโนมัติที่ทำการบินได้ทั้งในระดับต่ำตามภูมิประเทศ และการบินเป็นกลุ่มเพื่อเข้าปะทะเป้าหมายบนพื้นและอากาศ ระบบควบคุมอัตโนมัติจะทำการบินตามเส้นทาง ที่หมาย และทำการลงจอดเอง

แหล่งที่มา

WikiPedia: ซุคฮอย_ซู-30 http://www.armada.ch/07-6/02_Aircraft_Self_Protect... http://www.airforce-technology.com/projects/su_30m... http://www.defensenews.com/story.php?i=4089488&c=A... http://www.flightglobal.com/assets/getasset.aspx?I... http://www.flightlevel350.com/aviation_videos.php?... http://www.irkut.com/en/news/press_release_archive... http://newsfromrussia.com/world/2004/06/30/54664.h... http://www.patricksaviation.com/videos/search/?q=s... http://www.rediff.com/news/2009/apr/30air-force-pl... http://www.youtube.com/watch?v=Qd0eV95ipQk