สไตล์การเขียน ของ ซ้อเจ็ด

คาแร็กเตอร์ของซ้อเจ็ดที่ถูกสร้างคือเป็น“สตรีวัยกลางคน อายุ 45 ปี ผมหยักศก อกอิ่ม รูปร่างสมส่วน สุขภาพดี หน้าตาสดใส ไม่นิยมการแต่งหน้า เป็นภริยาท่านทูตต่างชาติ รสนิยมดี การศึกษาดี เป็นคนสู่รู้ มีอารมณ์ขัน ตลกร้าย ตรงไปตรงมา กระนั่นแม้จะปากคอจัดจ้าน ในความดิบนั้นก็มีมโนธรรม มีคุณธรรมแฝงอยู่ในบางเรื่อง”[1]

ผลงานชิ้นแรกๆ ที่สร้างชื่อให้ซ้อเจ็ด เช่นเรื่อง เกย์ ชู้ สำส่อน มั่วยา ขายตัว รวมไปถึงเรื่องราวใหญ่โตอย่าง นักการเมืองโกงกินชาติ โดยเขียนในรูปแบบสาธยายแบบเผ็ดร้อน รุนแรง ด้วยการบรรยายโวหาร กล่าวถึงคนอื่นโดยไม่ใช่อักษรย่อ มีการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม ซึ่งเป็นการสร้างจุดขายที่แตกต่างจากข่าวซุบซิบยุคเก่า รวมถึงการบัญญัติศัพท์ใหม่ๆ เช่น ซินาอ้า

แม้จะเป็นข่าวที่มีลักษณะแบบปากต่อปาก แต่ซ้อเจ็ดก็ต้องนำข้อมูลมาตรวจสอบก่อนเขียนทุกครั้ง 3-4 รอบ รวมถึงความถูกต้องในการใช้ภาษา และการดูตัวบทกฎหมายว่าจะถูกฟ้องหรือไม่ สิ่งที่เขียนมีข้อเท็จจริง 60% และเรื่องแต่งขึ้นอีก 40% เพื่อให้เรื่องราวมีสีสันด้วยภาษาที่น่าดึงดูด [1]

การหาข่าว

ในช่วงปีแรก ซ้อเจ็ดเขียนข่าวทุกข่าวด้วยตัวเอง จากนั้นเริ่มมีทีมเข้ามาช่วย จาก 3 คนเป็น 5 คน ซึ่งซ้อเจ็ดจะเป็นคนกลั่นกรองและเรียบเรียงสำนวนด้วยตัวเอง เพื่อให้งานเขียนดูมีตรรกะมากขึ้น การเก็บข้อมูล นำมาจากตามวงเหล้า ตามผับ ตามบาร์ “เด็กเที่ยว” และ “สาวไซด์ไลน์” ที่มีประสบการณ์ตรง บางครั้งข้อมูลเชิงลึกก็มีการแลกกับเงินค่าเรื่อง 2,500 บาท ก็มี[1]

อิทธิพล

อิทธิพลในการเขียนของซ้อเจ็ด คือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และยาขอบ ที่มีการเขียนเรื่องโดยใช้ กลยุทธ์ร้อยเรียงเหมือนเรื่องสั้น เพื่อให้อ่านสนุก น่าติดตาม ซ้อเจ็ดยังส่งผลต่ออิทธิพลให้เกิดคอลัมน์ประเภทซุบซิบ ในนิตยสารบันเทิงตามมา ซ้อเจ็ดวิจารณ์ไว้ว่า "บางเล่มใช้คำแรงจนดูโง่เกินไป เราแรงจริง เราถ่อย เราดิบ แต่เราไม่ต่ำ ไม่โลว์เทสต์ เราเป็นเมียท่านทูตนะ อย่างน้อยก็จบเอกชนสตรีชั้นนำ (หัวเราะ)" และซ้อเจ็ดเล่าว่า "เกินครึ่งของหัวหน้าข่าวบันเทิงในนิตยสารแนวนี้เคยเป็นลูกน้องซ้อเจ็ดมาก่อน"[1]

ใกล้เคียง