หลังจากที่ดีน แอมโบรส แชมป์ดับเบิลยูดับเบิลยูอี เวิลด์แชมเปียนชิป ถูกดราฟต์ไปอยู่สแมคดาวน์[7][8][9][10] ทำให้ฝั่งรอว์ไม่มีแชมป์โลก[11] ในรอว์ (25 กรกฎาคม) สเตฟานี แม็กแมน และมิค โฟลีย์ ได้ออกแบบเข็ดขัดแชมป์โลกเส้นใหม่พร้อมกับให้ชื่อว่า ดับเบิลยูดับเบิลยูอี ยูนิเวอร์แซลแชมเปียนชิป และกำหนดให้เข็มขัดเส้นนี้เป็นเส้นหลักของค่ายโดยในซัมเมอร์สแลม (2016) ได้กำหนดให้เซท โรลลินส์ เป็นตัวยืนในแมตช์ชิงแชมป์โดยอัตโนมัติซึ่งคู่ชิงแชมป์ของเขาคือฟิน บาเลอร์ ที่เอาชนะโรแมน เรนส์ไปได้ในคู่เอกรอว์[6][12] และในซัมเมอร์สแลม บาเลอร์สามารถเอาชนะโรลลินส์ไปได้ ทำให้เป็นแชมป์ยูนิเวอร์แซลคนแรก[13][14] แต่ในรอว์คืนต่อมา บาเลอร์ได้ตัดสินใจสละแชมป์เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ระหว่างการปล้ำกับโรลลินส์ ทำให้ในคืนนั้นได้มีการประกาศว่าในรอว์วันที่ 29 สิงหาคม จะมีการชิงแชมป์ยูนิเวอร์แซลในแมตช์ Fatal 4 Way ประกอบไปด้วยนักมวยปล้ำ 4 คนได้แก่ เซท โรลลินส์, บิ๊กแคส, เควิน โอเวนส์ และโรแมน เรนส์ หากนักมวยปล้ำคนใดเอาชนะคู่แข่งได้ทั้งหมดก็จะได้เป็นแชมป์คนใหม่ในทันที ผลปรากฏว่าเป็นโอเวนส์ที่ชนะได้ครองแชมป์ยูนิเวอร์แซล[15]

ในเดือน ตุลาคม ค.ศ. 2019 เข็มขัดแชมป์ยูนิเวอร์แซล ได้กลายมาเป็นกรรมสิทธิ์ของค่าย สแมคดาวน์ เป็นครั้งแรก เมื่อ "เดอะฟีนด์" เบรย์ ไวแอ็ตต์ ที่ถูกดราฟท์ไปยังค่าย สแมคดาวน์ ก่อนหน้านี้ ได้เอาชนะ เซท โรลลินส์ ในศึก คราวน์ จูเอ็ล (2019) ได้เป็นแชมป์ยูนิเวอร์แซล คนใหม่ เข็ดขัดจึงถูกย้ายค่ายไปโดยปริยาย พร้อมทั้งเปลี่ยนรูปแบบแชมป์ซึ่งเป็นสีที่เคลือบอยู่บนตัวเข็มขัดทั้งเส้นจาก แดง เป็น น้ำเงิน เพื่อให้สอดคล้องกับทางค่าย สแมคดาวน์ อีกด้วย ซึ่งหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน บร็อก เลสเนอร์ ที่กำลังครองแชมป์โลก WWE ก็ได้นำแชมป์ออกจาก สแมคดาวน์ ไปสู่ รอว์ เพื่อสะสางบัญชีแค้น กับ เรย์ มิสเตอริโอ ต่อไป