ดาวเวกา (
อังกฤษ: Vega) หรือ
แอลฟาพิณ (
อังกฤษ: Alpha Lyrae) เป็น
ดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดใน
กลุ่มดาวพิณ ดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดเป็นอันดับห้าในท้องฟ้าราตรี และดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดเป็นอันดับสองในซีกฟ้าเหนือ รองจาก
ดาวอาร์คตุรุส ดาวเวกาอยู่ค่อนข้างใกล้โลก ระยะห่างจากโลก 25 ปีแสง และดาวเวกา กับดาวอาร์คตุรุสและ
ดาวซิริอุส เป็นหนึ่งในกลุ่มดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในย่าน
ดวงอาทิตย์นักดาราศาสตร์ศึกษาดาวเวกาอย่างละเอียด ทำให้ได้ชื่อว่า "อาจเป็นดาวฤกษ์ที่สำคัญที่สุดในท้องฟ้ารองจากดวงอาทิตย์"
[11] ดาวเวกาเคยเป็น
ดาวเหนือเมื่อราว 12,000 ปีก่อน ค.ศ. และจะกลับมาเป็นดาวเหนืออีกราว ค.ศ. 13727 เมื่อมุมบ่ายเบนเป็น +86°14'
[12] ดาวเวกาเป็นดาวฤกษ์ดวงที่สองที่มีการถ่ายภาพ ถัดจากดวงอาทิตย์ และเป็นดาวแรกที่มีการบันทึกสเปคตรัม เป็นหนึ่งในดาวฤกษ์ดวงแรก ๆ ที่มีการประเมินระยะห่างด้วยการวัด
พารัลแลกซ์ ดาวเวกาเป็นเส้นฐานสำหรับการปรับมาตรความสว่างของการวัดแสง (photometry) และเคยเป็นดาวฤกษ์ที่ใช้นิยามค่ามัธยฐานสำหรับระบบวัดแสงอัลตราไวโอเล็ตบีดาวเวกาอายุได้หนึ่งในสิบของดวงอาทิตย์ แต่ใหญ่กว่า 2.1 เท่า อายุขัยคาดหมายอยู่ที่หนึ่งในสิบของดวงอาทิตย์ ปัจจุบัน ดาวฤกษ์ทั้งสองกำลังย่างเข้าจุดกึ่งกลางอายุคาดหมายของพวกมัน ดาวเวกามีความอุดมของ
ธาตุที่มี
เลขอะตอมสูงกว่า
ฮีเลียมต่ำผิดปกติ
[8] และยังต้องสงสัยว่าเป็น
ดาวแปรแสงซึ่งอาจมีความสว่างผันแปรน้อยมากในลักษณะเป็นคาบ
[13] ดาวเวกาหมุนเร็ว โดยมีความเร็ว 274 กิโลเมตรต่อวินาทีที่เส้นศูนย์สูตร ส่งผลให้เส้นศูนย์สูตรโป่งออกเพราะผลหนีศูนย์กลาง และมีความผันแปรของอุณหภูมิทั่วโฟโตสเฟียร์ (photosphere) ของดาวโดยมีอุณหภูมิสูงสุดที่ขั้วทั้งสอง ดาวเวกาสังเกตจากโลกได้โดยทิศทางของขั้วดาว
[14]ดาวเวกาดูเหมือนว่ามีแผ่นจานดาวฤกษ์ฝุ่น สังเกตได้จากการปล่อยรังสีอินฟราเรดที่สังเกต ฝุ่นนี้มีแนวโน้มเป็นผลจากการชนกับวัตถุในแผ่นฝุ่นที่โคจรอยู่ ซึ่งเปรียบได้กับ
แถบไคเปอร์ใน
ระบบสุริยะ[15] ดาวฤกษ์ที่แสดงอินฟราเรดเกินเพราะการปล่อยฝุ่นเรียก ดาวฤกษ์คล้ายเวกา
[16] ความผิดปกติในแผ่นของเวกานี้แนะว่าอาจมีดาวเคราะห์อย่างน้อยหนึ่งดวง ซึ่งน่าจะมีขนาดราว
ดาวพฤหัสบดี[17] โคจรรอบดาวเวกาอยู่
[18]