ดิออฟสปริง (
อังกฤษ: The Offspring) เป็นวงร็อกอเมริกันที่ก่อตั้งใน
ฮันติงตันบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ในปี ค.ศ. 1984
[1] ตั้งแต่ก่อตั้งวง สมาชิกของวงคือ เดกซ์เตอร์ ฮอลแลนด์ (ร้องนำ กีตาร์), นูเดิลส์ (กีตาร์ลีดและกีตาร์ริธึม, ร้องประสาน) และเกรก เค. (เบส และร้องประสาน) วงยังมี รอน เวลตี (กลอง เพอร์คัชชัน) ส่วนมือกลองล่าสุดคือ พีต พาราดา อดีตสมาชิกวงเฟซทูเฟซ และเซฟส์เดอะเดย์ ที่อยู่กับวงมาตั้งแต่ปี 2007วงดิออฟสปริงได้รับการยกย่องร่วมกับวง
พังก์แคลิฟอร์เนียอย่าง
กรีนเดย์และ
แรนซิด ที่นำกระแสพังก์ร็อกกลับมาฟื้นฟูใหม่ในสหรัฐอเมริกาในช่วงระหว่างกลางคริสต์ทศวรรษ 1990
[6] จนปัจจุบัน ดิออฟสปริงออกผลงานสตูดิโออัลบั้ม 8 ชุด อัลบั้มรวมเพลง 1 ชุด อีพี 4 ชุด และดีวีดี 3 ชุด
[7] พวกเขามียอดขายอัลบั้มทั่วโลกกว่า 34 ล้านชุด
[8] ทำให้พวกเขาเป็นวงพังก์ร็อกที่มียอดขายมากที่สุดตลอดกาล โดยอัลบั้มตั้งแต่ปี 1994 ทุกอัลบั้มมียอดขายเกินล้านชุด
[9]ตั้งแต่ออกผลงานอัลบั้มชุด Smash ที่ถือเป็นอัลบั้มเพลงจากค่ายอิสระที่ขายดีที่สุดตลอดกาล
[8][10][11] ดิออฟสปริงประสบความสำเร็จด้านยอดขายมากกว่า 5 อัลบั้ม มีซิงเกิ้ลดังอย่าง "Come Out and Play", และ "Self Esteem" อัลบั้มถัดมา 3 อัลบั้ม
Ixnay on the Hombre,
Americana และ
Conspiracy of One ก็ประสบความสำเร็จ ที่ Ixnay on the Hombre และ Conspiracy of One ได้รับแผ่นเสียงทองคำขาว
[12][13] อดีตมือกลอง รอน เวลตีออกจากดิออฟสปริงไปในต้นปี 2003 และได้อตอม วิลลาร์ดมาแทน ต่อมาปีนั้นวงออกอัลบั้มถัดมาชุด
Splinter ที่ได้รับยอดขายที่ดีและได้เสียงวิจารณ์ที่ดีพอควร ในปี 2005 วงออกอัลบั้มรวมฮิตและออกทัวร์เพื่อสนับสนุนอัลบั้มรวมเพลงนี้ อัลบั้มล่าสุดของพวกเขาชุด
Rise and Fall, Rage and Grace ออกขายเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2008 มีซิงเกิ้ลฮิตอย่าง "You're Gonna Go Far, Kid" และ "Hammerhead" พวกเขามีแผนจะออกสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 9 ในปี 2010
[14]