ประวัติการศึกษาและการทำงาน ของ ดิเรกสิน_รัตนสิน

  • พ.ศ. 2532 โรงเรียนอนุบาลนารานุบาล ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี (อ.1-อ.3)
  • พ.ศ. 2535 โรงเรียนดาราสมุทร ศรีราชา (ป.1)
  • พ.ศ. 2536 โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ เพชราวุธวิทยา (ป.2)
  • พ.ศ. 2537 โรงเรียนไผทอุดมศึกษา (ป.3-ป.6)
  • พ.ศ. 2541 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา (ม.1-ม.4)
  • พ.ศ. 2545 โรงเรียนเตรียมทหาร (รุ่น 45)
  • พ.ศ. 2548 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (รุ่นที่ 56/2551 เหล่าทหารราบ)
  • พ.ศ. 2552 ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี (ว่าที่/ร้อยตรี)
  • พ.ศ. 2552 ผู้บังคับการหมวดปืนเล็กสังกัดหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 ที่อำเภอโคกโพธิ์ (ตำแหน่งในสนาม)
  • พ.ศ. 2553 รองผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบาที่ 3 กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี (ร้อยโท)
  • พ.ศ. 2553 รองผู้บังคับกองร้อย ฐานปฏิบัติการทหารราบที่ 15312 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานีที่ 25 (ตำแหน่งในสนาม)

ขณะศึกษาที่โรงเรียนเตรียมทหาร

เมื่อครั้งอยู่ที่โรงเรียนเตรียมทหารคุณพ่อคุณแม่เฝ้ารอการกลับบ้านครั้งแรกของลูกอย่างใจจดใจจ่อด้วยความคิดถึงมาก เพราะไม่เคยให้จากไปอยู่ที่อื่นมาก่อนในชีวิต เมื่อลูกกลับมาเห็นหน้าลูกก็ดีใจ แต่เห็นลูกผิวดำคล้ำไปมากและท่าทางลูกเปลี่ยนไปมาก ตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่ลังเลใจมากว่า ตัดสินใจให้ลูกเรียนที่นี่จะดีแน่หรือไม่ เพราะเห็นว่าลูกต้องฝึกหนักมากและทางบ้านก็ไม่เคยเลี้ยงลูกมาแบบนี้เลย อยู่บ้านลูกมีพร้อมทุกอย่างมีชีวิตที่สุขสบาย ทุกเรื่องไม่เคยต้องเจอกับความยากลำบากพ่อแม่จึงเพียรถามลูกว่าจะลาออกไหม เพราะพ่อแม่ไม่เสียใจที่ลูกจะออก และอันที่จริงพ่อแม่เองก็บอกจะไปลาออกที่โรงเรียนหลายครั้ง จนลูกร้องไห้ขอร้องว่าลูกจะไม่ลาออกขอเรียนต่อที่นี่ไม่ออกไปไหน พ่อแม่ก็บอกว่าเมื่อลูกตัดสินใจแบบนั้นพ่อแม่ก็ต้องยอม พ่อแม่ก็เห็นใจในความมานะอดทนของลูก จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร และไปศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

ขณะศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

ก่อนที่จะมาอยู่โรงเรียนนายร้อยพ่อแม่เคยบอกพี่เอกว่าจบเตรียมทหารแล้วมาสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้ แต่พี่เอกไม่สอบโดยกล่าวว่ามีเพื่อนรุ่นเดียวกันมาสอบแล้วก็สอบได้คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่พี่เอกจะเรียนนายร้อยถ้าพี่เอกมาสอบแล้วสอบได้กลัวว่าพ่อแม่จะบังคับให้เรียนมหาวิทยาลัย เมื่อเรียนในชั้นปีที่ 1 พี่เอกฝึกหนักมาก จนพ่อแม่บอกว่าถ้าจะลาออกพ่อแม่ก็ยินดี และหาที่เรียนใหม่ได้ แต่พี่เอกกลับบอกว่า

ถึงจะโดนหนักยิ่งกว่านี้ก็ไม่มีวันลาออก และถ้านักเรียนคนไหนคิดจะลาออกก็คงต้องอายพี่เอกเพราะพี่เอกโดนหนักสุดๆยังไม่คิดจะออก ขนาดพี่เอกมีพ่อแม่เลี้ยงมาขนาดนี้แทบจะเป็นคุณหนูอยู่แล้วยังอดทนได้เลย คนอื่นก็ต้องอดทนได้

เมื่อลูกพูดเช่นนี้พ่อแม่และญาติพี่น้องก็ยอมรับว่าลูกนั้นกล้าหาญและอดทนมากตลอดจนยอมเสียสละความสุขสบายส่วนตัวเพื่ออุดมการณ์ที่แน่วแน่พี่เอกปฏิบัติหน้าที่หลายอย่างในสมัยเป็นนักเรียนนายร้อย บางครั้งเป็นงานทางด้านพัฒนาชุมชน ช่วยเหลือชาวบ้าน หาตลาดส่งผลิตภัณฑ์มาจำหน่าย เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า นอกจากนี้พี่เอกยังมีความรู้ดีทางด้านภาษาอังกฤษมีความเชี่ยวชาญดีกว่าเด็กผู้ชายคนอื่นๆทั่วไป และเคยพูดอย่างภูมิใจว่า “พี่เอกเป็นลูกแม่” พี่เอกต้องการรักษาชื่อเสียง เพราะพี่เอกภูมิใจว่าแม่จบการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงต้องพยายามรักษาความสามารถทางภาษาอังกฤษนี้ไว้ ในเวลาต่อมาพี่เอกเป็นประธานชมรมตรีเพชรและพี่เอกได้จัดทำเอกสารประกอบภาพการฝึกการใช้อาวุธพร้อมคำอธิบาย โดยมีจุดประสงค์ว่าจะทำไว้เพื่อให้นักเรียนรุ่นหลังๆได้ใช้เป็นตำราและยังหาซื้ออุปกรณ์ข้าวของต่างๆมาใช้เพื่อให้การฝึกมีประสิทธิภาพ ครอบครัวเห็นว่าพี่เอกทุ่มเททั้งกายทั้งใจทำหน้าที่ให้ดีในทุกๆเรื่องเมื่อครั้งเป็นนักเรียนนายร้อยทำงานทุกอย่างโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยเสมอมา

ใกล้เคียง

ดิเรก ชัยนาม ดิเรก อมาตยกุล ดิเรกสิน รัตนสิน ดิเรก ลาวัณย์ศิริ ดิเรก อิงคนินันท์ ดิเรก เจริญผล ดิเรกคุณาภรณ์ ดิเกร์ ฮูลู ดาเรกะโนะทาเมนิ-ว็อตแคนไอดูฟอร์ซัมวัน?- ดิเอกซ์แฟกเตอร์