ประวัติศาสตร์ ของ ด้านมืดของพลัง

ชาวราคาทานกับการสร้างสตาร์ ฟอร์จ

"เจไดที่ถูกฝึกโดยแสงสว่างจะตกลงสู่ด้านมืดได้อย่างไร?"
"มันเกิดขึ้นมากกว่าหนึ่งครั้ง โชคดีที่มันไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก อุลลิคลูกข้า ขอให้มันไม่เกิดขึ้นกับเจ้า— อุลลิค เคลโดรม่าและอาร์คา เจธ

ด้านมืดเป็นหนทางของพลังและเหมือนกับด้านสว่าง มันเกิดขึ้นก่อนสิ่งมีชีวิตใดๆ เมื่อมีคนค้นพบมัน มันเต็มไปด้วยปริศนา แต่ผู้ที่รู้กันว่าเป็นพวกแรกที่ใช้มันก็คือจักรวรรดิราคาทานเมื่อ 49,000 ปีก่อนยุทธการยาวิน พวกเขาพบและใช้พลังของมันเพื่อครอบครองกาแลกซี่ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมไปในทางที่พวกเขาเห็นสมควร ท้ายสุด จักรวรรดิก็ล้มสลายเมื่อประมาณ 25,000 ปีก่อนยุทธการยาวิน คาดกันว่าเป็นเพราะการที่พวกเขานำด้านมืดมาใช้ พวกเขาสูญเสียความสามารถในการใช้พลังพอๆ กับการใช้เครื่องจักรพลังของพวกเขาอย่างเตาหลอมดาว เตาหลอมดาวเป็นสุดยอดอาวุธและโรงงานที่สามารถสร้างอะไรก็ได้ที่อยู่ใกล้ๆ โดยการใช้พลังจากดาวและด้านมืด ในสงครามกลางเมืองเจได เรแวนและมาลัคพบเตาหลอมดาวและใช้มันเพื่อสร้างกองยานขนาดใหญ่สำหรับจักรวรรดิซิธของพวกเขา ต่อมามีการดัดแปลงเทคโนโลยีนี้ให้สร้างอย่างอื่น เช่น ไฮเปอร์ไดรฟ์

การค้นพบด้านมืดของเจได

กลัวเป็นหนทางสู่ด้านมืด กลัวนำไปสู่โกรธ โกรธนำไปสู่ความเกลียดชัง ความเกลียดชังนำไปสู่ทุกข์— โยดาพูดกับอนาคิน สกายวอล์คเกอร์

เมื่อ 24,000 ปีก่อนยุทธการยาวิน ได้มีเจไดกลุ่มหนึ่งแยกออกจากนิกายเจได เรียกตนเองว่ากลุ่มเลททอว์ นำโดยเซนดอร์ อัศวินเจไดและเจไดมืดคนแรก กลุ่มเลททอว์มีชื่อเสียงเรื่องการพัฒนารูปแบบไนแมน/จาร์ไค เน้นไปที่อารมณ์มากกว่าการใช้สมาธิในการต่อสู้เพื่อเป็นแหล่งพลัง นิกายเจไดเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่อันตรายที่เจไดไม่ควรทำในขณะทำภารกิจของพวกเขา ความขัดแย้งนี้นำไปสู่การแตกแยกครั้งใหญ่ ซึ่งแบ่งเจไดออกจากเจไดมืด ในช่วง 7,000 ปีก่อนยุทธการยาวิน ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ในช่วงร้อยปีแห่งความมืดมน ผู้สืบต่อจากเจไดมืดผู้ซึ่งถูกขับไล่จากนิกายเจไดได้กลายมาเป็นซิธ

เซนดอร์ เจไดมืดคนแรก

ตลอดประวัติศาสตร์ของกาแลกติก ผู้ที่ทรงพลังในด้านมืดที่สุดก็คือซิธ ด้วยความสามารถที่มากมายเกินกว่าที่เจไดทำได้ เจไดปฏิเสธด้านมืดและทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับมัน เชื่อว่ามันนำไปสู่หายนะและความวุ่นวาย ซิธยึดมั่นในด้านมืด ใช้มันเพื่อหลอกลวง, ควบคุม, และทำลาย การแสดงตนของด้านมืดดูเหมือนเป็นสิ่งที่ดึงดูดและทำให้เสื่อม เป็นศาสตร์ด้านพลังอย่างหนึ่งแต่ไม่มีผู้ตาม ดูเหมือนจะหายไปในไม่กี่พันปี

จักรวรรดิซิธ

จักรวรรดิซิธจะมอดไหม้เหมือนซุปเปอร์โนว่า กำจัดสาธารณรัฐ เราจะมีทั้งกาแลกซี่ในกำมือ— นาก้า ชาโดว์

เผ่าพันธุ์ซิธถูกปราบและผู้ครอบครองพวกมันก็นำชื่อไปใช้สร้างจักรวรรดิซิธ จักรวรรดิใหม่นี้ มันใหญ่โตแต่ก็กระจัดกระจายไปทั่วกาแลกซี่จนกระทั่งมหาสงครามไฮเปอร์สเปซ มันคงอยู่หลายศตวรรษจนถึงสงครามซิธเก่า เมื่อพวกเขาถูกทำลาย จักรวรรดิซิธต่อๆ มามากมายสร้างขึ้นในไม่กี่พันปีต่อมา แต่ก็พ่ายแพ้ในสงคราม ทำให้เจไดเชื่อซิธได้หมดสิ้นไปแล้ว แต่ต่อมาก็ได้รู้ว่าซิธได้ใช้ชีวิตแบบลึกลับมากขึ้น

ผลของจักรวรรดิซิธสามารถพบในคอริบานและซิออซ ที่ซึ่งเติมเต็มด้วยพลังงานจากด้านมืดของพลัง สัตว์อย่างเทเรนทาเทค ถูกทำให้เปลี่ยนรูปร่างโดยด้านมืด ท่องเที่ยวไปตามถ้ำและอุโมงค์เพื่อหาแหล่งพลังที่มาจากข้างใน รวมทั้งยังมีหุบเขาแห่งลอร์ดมืด สุสานที่สะท้อนให้เห็นถึงด้านมืดที่ออกมาจากอุโมงค์และถ้ำมากมายซึ่งครั้งหนึ่งมีวัตถุของซิธอยู่ ที่นั่นซิธจะปรากฏตัวเป็นวิญญาณพลัง อย่าง อาจุนทา พอล สิงสถิตในสุสานของเขาในรูปแบบวิญญาณจนกระทั่งเขาไปสู่สุขคติเมื่อดาบของเขาได้ไปอยู่ในที่ใหม่

กฎแห่งสอง

จงจำเอาไว้: ลำพังเพียงพลังอำนาจก็ไม่พอ ความอดทน ไหวพริบ ความลับ คือเครื่องมือที่เราจะใช้เพื่อเอาชนะเจได ตอนนี้ซิธจะมีเพียงสองเท่านั้น—หนึ่งอาจารย์และหนึ่งศิษย์ ไม่มีมากกว่านี้— ดาร์ธ เบนพูดกับซานนาร์

ในช่วง 990 ก่อนยุทธการยาวิน ซิธลอร์ดนามว่าดาร์ธ เบนได้ค้นพบโฮโลครอนของซิธที่ทำโดยดาร์ธ เรแวน ลอร์ดมืดที่ตายไปนานและผู้สร้างจักรวรรดิซิธที่สอง จากสิ่งที่มันบรรจุไว้ เขาเชื่อว่าซิธไม่สามารถร่วมกับพันธมิตรใดๆ ได้และได้สร้างกฎแห่งสองขึ้น ทำให้มีลอร์ดมืดพร้อมกันทีเดียวสองคน เขาเลิกการที่มีซิธลอร์ดมากเกินไปในเวลาเดียวและมุ่งเน้นไปที่บุคคลเพียงสองคน: อาจารย์และศิษย์ หากลูกศิษย์มีความแข็งแกร่งกว่าอาจารย์ก็จะต้องสังหารอาจารย์ของตนเสียแล้วตั้งตนเป็นอาจารย์และหาลูกศิษย์ที่แข็งแกร่งกว่าต่อไปอย่างเรื่อยๆ แต่หากลูกศิษย์อ่อนแอไร้ความสามารถก็จะต้องสอนต่อไปหรือไม่ก็ต้องสังหารเสียทิ้งเพื่อหาลูกศิษย์คนใหม่ที่มีความแข็งแกร่งกว่าตนให้ได้

ซิธชำระแค้น

ซิธสูญหายไปเป็นพันๆ ปีแล้ว— คิ อดิ มันดิ

หลายพันปีก่อนที่จักรวรรดิกาแลกติกจะถือกำเนิด ซิธได้หายไปจากกาแลกซี่จนกระทั่งเกิดการรุกรานนาบู เมื่อศิษย์ซิธนามว่าดาร์ธ มอลได้สังหารอาจารย์เจไดไควกอน จิน ด้วยระยะห่างของอาจารย์ของดาร์ธ มอล ดาร์ธ ซีเดียส ทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย ด้วยวิธีนั้เขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนสาธารณรัฐให้กลายเป็นจักรวรรดิกาแลกติก ด้วยข้อได้เปรียบนี้ เจไดจึงต้องเล่นไปตามสงครามที่ซิธก่อขึ้นและเพียง 13 ปี ซิธก็ครองกาแลกซี่อีกครั้ง

การกลับมาของเจได

ลูกชายของสกายวอล์คเกอร์จะต้องไม่กลายเป็นเจได— ดาร์ธ ซีเดียส

ซิธได้กลับมาครอบครองกาแลกซี่อีกครั้งได้ 25 ปีและแน่ใจว่าด้านมืดได้ชนะแล้ว อย่างไรก็ตาม เจไดที่รอดชีวิตได้ฝึกเจไดคนหนึ่งเพื่อทำลายซิธที่ปกครองจักรวรรดิ ภายใน 6-10 ปี การปกครองของซิธก็สิ้นสุดลงและนิกายก็ถูกทำลาย อย่างไรก็ดี ศิษย์ซิธหลายคนหลบหนีไปได้เพื่อให้นิกายยังคงอยู่รอดต่อไป

กฎแห่งหนึ่งเดียว

ดาร์ธ ไครต์และลูกมือของเขา ดาร์ธ ทาลอน

แทนที่จะมีถึงสอง ตอนนี้มีเพียงหนึ่งแล้ว—คือตัวนิกายซิธเอง ข้าได้สร้างซิธขึ้นมาอีกครั้ง ลอร์ดเบน เช่นเดียวกับที่ท่านทำ ข้าได้ให้เจตนารมณ์แก่มัน ทำไมจะใช้พลังโดยปราศจากอีกคนไม่ได้กันเล่า?— ดาร์ธ ไครต์พูดกับโฮโลครอนของดาร์ธ เบน

ประมาณ 30 ปีหลังยุทธการยาวิน ดาร์ธ ไครต์ได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นลอร์ดมืดแห่งซิธและเริ่มสร้างนิกายซิธใหม่บนคอริบาน หลายปีต่อมา จากบทสรุปของสงครามจักรวรรดิของซิธเมื่อ 130 ปีหลังยุทธการยาวิน นิกายของไครต์ได้ผงาดถึงจุดสูงสุด แทนที่นิกายของดาร์ธ เบนและผู้ที่ดำเนินรอยตาม ไม่เหมือนกับนิกายของเบน ซิธใหม่นี้ปฏิบัติภายใต้กฎแห่งหนึ่งเดียว คนๆ เดียวคือซิธทั้งนิกาย ไครต์ทรยศต่อพันธมิตรของเขา จักรพรรดิโรอัน เฟล ผู้ที่ได้ช่วยทำลายพันธมิตรกาแลกติกและกลายเป็นจักรพรรดิคนใหม่ อีกครั้งที่ลอร์ดมืดแห่งซิธได้ครองกาแลกซี่ อย่างที่ดาร์ธ ซีเดียสทำไว้เมื่อ 150 ปีก่อน การเกิดของจักรพรรดิซิธคนใหม่นี้เปรียบได้กับว่านิกายซิธใหม่นี้ได้ทำลายนิกายเจไดใหม่ทั้งหมด ผู้ที่รอดก็กระจัดกระจายไปทั่งกาแลกซี่ แม้ว่าเจไดจะมีการต่อต้าน แต่จักรพรรดิไครต์ก็ยังมีอำนาจอยู่ในช่วง 137 ปีหลังยุทธการยาวิน