การเปลี่ยนแปลงช่องรายการ ของ ทรูสปอร์ต

ทรูสปอร์ตเริ่มออกอากาศเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2538 ภายใต้ชื่อ SuperSport โดยออกอาก าศจำนวน 2 ช่อง (ในสมัย ไอบีซี) โดยให้บริการบนจานดาวเทียมระบบ DStv แพ็กเกจวาไรตี้มาตรฐาน 29 ช่อง + ช่องกีฬาพิเศษ 2 ช่อง และแพ็กเกจพิเศษ 37 ช่องในขณะนั้น ในปี พ.ศ. 2541 เมื่อไอบีซีควบรวมรวมกิจการกับยูทีวี มาเป็นยูบีซี ทั้ง 2 ช่องให้บริการทั้งระบบ CAtv และ DStv ในแพ็กเกจ Basic Package + ช่องกีฬา 2 ช่อง และ Premium Package มกราคม พ.ศ. 2542 ยูบีซียุบแพ็กเกจ Basic กับ Premium มาเป็น Gold และได้จัด 2 ช่องรายการดังกล่าวอยู่ในหมวดช่องกำนัลพิเศษ (Bonus) ซึ่งสามารถรับชมได้ฟรีจนกว่าจะมีกำหนดการเปลี่ยนแปลงการให้บริการ ในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2542 เปลี่ยนชื่อช่องรายการซูเปอร์สปอร์ตใหม่ทั้ง 2 ช่อง แล้วให้บริการเป็นช่องรายการหลักตามแพ็กเกจแทน หลังจากนั้น ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2547 เปิดตัว 2 ช่องรายการใหม่คือ ยูบีซี ซ็อกเกอร์ และ ยูบีซี สปอร์ตพลัส พร้อมกับปรับปรุงเนื้อหาและช่องรายการซูเปอร์สปอร์ตที่มีอยู่ใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง ทั้ง 2 ช่อง พ.ศ. 2550 เปลี่ยนชื่อทั้งหมดเป็น ทรู สปอร์ต มาจนถึงปัจจุบัน และเปลี่ยนผังช่องรายการกีฬาเดิม ที่มีแค่ 4 ช่อง โดยวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา, และ เพิ่ม 4 ช่องรายการกีฬาเป็น 24 ชั่วโมง โดยรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงช่องรายการตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีดังนี้

  • SuperSport เป็น True Sport 1 เริ่มออกอากาศช่องนี้ในชื่อ SuperSport (ออกอากาศครั้งแรกที่ช่อง 30) พฤษภาคม พ.ศ. 2542 เปลี่ยนเป็น SuperSport Gold แล้วขึ้นสถานะเป็นช่องรายการหลักเฉพาะโกลด์แพ็กเกจ เป็นช่องรายการกีฬาช่องแรกในประเทศไทยที่ออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง นำเสนอและถ่ายทอดสดรายการกีฬาจากทั่วมุมโลกทุกชนิด ทุกทัวร์นาเมนท์ที่คนไทยชื่นชอบและถูกใจมากที่สุด อาทิ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ , ฟุตบอลลาลีกา สเปน , ฟุตบอลกัลโช่ ซีเรีย อา อิตาลี , ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี , เทนนิสเอทีพี เวิลด์ ทัวร์ , กอล์ฟพีจีเอ ทัวร์ , รักบี้ , อเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล จนกระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2547 เปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อข้างต้นอีกครั้ง ปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอโดยถ่ายทอดสดฟุตบอลคู่ใหญ่ทั้งลาลีกา, กัลโช่ ซีเรีย อา และบุนเดสลีกา สัปดาห์ละรวมกัน 3-4 คู่ รายการมอเตอร์สปอร์ต ต้นปี พ.ศ. 2548 เพิ่มลงในแพลทินัมแพ็กเกจ พร้อมกับย้ายไปออกอากาศช่อง 35 จนถึงต้นปี พ.ศ. 2550 ย้ายไปออกอากาศที่ช่อง 61 เฉพาะระบบดิจิตอล ออกอากาศไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคมปีเดียวกัน แล้วเปลี่ยนเป็น True Sport 1 ในวันต่อมา พร้อมกับปรับเปลี่ยนผังรายการใหม่ทั้งหมดโดยการนำเสนอรายการที่เกี่ยวกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 9 รายการ ถ่ายทอดสดแมตซ์การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจำนวน 5-6 คู่/สัปดาห์ และถ่ายทอดสดฟุตบอลแมตซ์ที่ดีที่สุด เช่น ลาลีกา สเปน รายการฟุตบอลจากสถานีโทรทัศน์สโมสรฟุตบอลชั้นนำในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ อาทิ MUTV , LFC TV , Arsenal TV และ Chelsea TV เป็นต้น และรายการที่ทรูวิชั่นส์ผลิตเอง (ในนาม บจก.ซินีเพล็กซ์) อาทิ Uncut, Show Clip, Heart of Goals ฯลฯ
  • SuperSport Action เป็น True Sports 2 เริ่มออกอากาศช่องนี้ในชื่อ SuperSport 2 (ออกอากาศทางช่อง 31) พฤษภาคม พ.ศ. 2542 เปลี่ยนชื่อเป็น SuperSport แล้วขึ้นสถานะเป็นช่องรายการหลักทุกแพ็กเกจ เป็นช่องรายการกีฬาเสริมเพิ่มเติมจากช่อง SuperSport Gold (หรือ SuperSport ยุคแรก) ในเดือนพฤศจิกายน 2547 เปลี่ยนชื่อช่องเป็นชื่อข้างต้น ในต้นปี พ.ศ. 2548 เพิ่มลงในแพลทินัมแพ็กเกจพร้อมกับย้ายไปออกอากาศที่ช่อง 36 (ในปี พ.ศ. 2549 เพิ่มลงในทรู-โนวเลจ แพ็กเกจ) จนถึงต้นปี พ.ศ. 2550 ย้ายไปออกอากาศที่ช่อง 62 เฉพาะระบบดิจิตอล เปลี่ยนชื่อช่องเป็นชื่อปัจจุบันเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปีเดียวกัน นำเสนอรายการเกี่ยวกับมวยชิงแชมป์โลก มวยไทย มวยปล้ำดับเบิลยูดับเบิลยูอี ทั้งรอว์ , สแมคดาวน์! , อาฟเตอร์เบิร์น (ไฮไลต์จากรายการ สแมคดาวน์!) , บอททอมไลน์ (ไฮไลต์จากรายการ รอว์) และรายการดับเบิลยูดับเบิลยูอี เอ็กซ์เพอร์เรี๊ยนส์ อัลติเมตไฟท์ติ้งแชมเปี้ยนชิพ รวมทั้งกีฬาแอ็คชั่น ขี่ม้า วาไรตี้กีฬาทั้งที่ผลิตโดยผู้ผลิตรายการไทยและต่างประเทศ และกีฬาภายในประเทศ เช่น เจ็ทสกี ไทคัพ นอกจากนี้ยังนำเสนอรายการข่าวกีฬาในชื่อรายการว่า Sports Today (เดิมชื่อ SuperSport News และ Sports Update จนถึงปี พ.ศ. 2556) ซึ่งจะมี 2 ช่วงเวลา คือ แบบ Extra (ทุกวันจันทร์-ศุกร์ในเวลากลางวัน) (ภายหลังได้เปลี่ยนกลับมาใช้ชื่อ Sports Update อีกครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว) และแบบปกติ (ทุกเย็นวันจันทร์-ศุกร์ และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ในเวลากลางวัน (ภายหลังได้เพิ่ม Sports Weekend ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์))
  • True Sport Plus เป็น True Sport 3 เริ่มออกอากาศช่องนี้ในชื่อ UBC Sport Plus เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2547 (ออกอากาศครั้งแรกที่ช่อง 28 ในแพ็กเกจโกลด์ระบบดิจิตอล แบบมีเวลาเปิด-ปิดสถานี แล้วเพิ่มลงในแพลทินัมแพ็กเกจพร้อมกับย้ายไปออกอากาศที่ช่อง 37 ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2548) นำเสนอการถ่ายทอดสดฟุตบอลลาลีกา, กัลโช่ ซีเรีย อา คู่รอง เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นชื่อข้างต้นเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2550 (หลังจากเปลี่ยนชื่อจากยูบีซี-ทรู เป็น ทรูวิชั่นส์-ยูบีซี) แล้วย้ายไปออกอากาศที่ช่อง 63 จนกระทั่งในวันที่ 1 สิงหาคม 2550 เปลี่ยนชื่อช่องอีกครั้งเป็น True Sport 3 แล้วเพิ่มเวลาการออกอากาศเป็น 24 ชั่วโมง นำเสนอรายการกีฬาฟุตบอลลีกยุโรป เช่น ลาลีกา สเปน , กัลโช่ ซีเรีย อา อิตาลี , บุนเดสลีกา เยอรมนี , ลีกเอิง ฝรั่งเศส และ เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ (เฉพาะไฮไลท์) ตลอดจนการ ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 3 คู่/สัปดาห์ รายการฟุตบอลจากสถานีโทรทัศน์สโมสรฟุตบอลชั้นนำในสเปน อาทิ Barcelona TV , Real Madrid TV และถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกยุโรปคู่ที่มีเวลาชนกันกับคู่อื่นๆ รวมทั้งกีฬาว่ายน้ำ กรีฑา ขี่จักรยาน สนุกเกอร์ มอเตอร์สปอร์ตรายการต่างๆ อาทิ เวิลด์แรลลี่แชมเปี้ยนชิพ โมโต้จีพี ซูเปอร์คาร์ไทยแลนด์ เอฟไอเอ็มสปีดเวย์ ฯลฯ (ย้ายมาจาก SuperSport ยุคสาม)
  • True Zoccer เป็น True Sport 4 เริ่มออกอากาศช่องนี้ในชื่อ UBC Zoccer เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2547 ที่ช่องหมายเลข 29 ในแพ็กเกจโกลด์ระบบดิจิตอล นำเสนอรายการฟุตบอลจากสถานีโทรทัศน์สโมสรฟุตบอลทั้ง 4 สโมสรใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ซึ่งประกอบไปด้วย MUTV (สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) , LFC TV (สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล) , Arsenal TV (สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล) และ Chelsea TV (สโมสรฟุตบอลเชลซี) โดยออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง (ภายหลังนำเสนอเพียง 2 สโมสรเท่านั้น คือ MUTV และ Arsenal TV เนื่องจาก LFC TV ย้ายไปช่อง SuperSport (ยุคสาม) และ Chelsea TV ย้ายไปช่อง Sport Plus) พร้อมทั้งการถ่ายทอดสดฟุตบอลสกอตติชพรีเมียร์ลีก 2 คู่ต่อสัปดาห์ ตลอดจนไฮไลท์การแข่งขันสกอตติชพรีเมียร์ลีกทุกคู่ ต้นปี พ.ศ. 2548 ย้ายไปออกอากาศที่ช่อง 38 แล้วเพิ่มลงในแพลทินัมแพ็กเกจ เปลี่ยนชื่อช่องเป็นชื่อข้างต้นเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2550 (หลังจากเปลี่ยนชื่อจากยูบีซี-ทรู เป็น ทรูวิชั่นส์-ยูบีซี) แล้วย้ายไปออกอากาศที่ช่อง 64 จนกระทั่งวันที่ 1 สิงหาคม 2550 เปลี่ยนชื่อช่องอีกครั้งเป็น True Sport 4 พร้อมกับปรับเปลี่ยนการนำเสนอรายการมาเป็นรายการถ่ายทอดสดกีฬาเทนนิสเอทีพีเวิลด์ทัวร์ เทนนิสดับเบิ้ลยูทีเอทัวร์ เทนนิสแกรนด์สแลมบางรายการ เช่น เฟรนซ์โอเพ่น และยูเอสโอเพ่น รวมไปถึงกอล์ฟพีจีเอทัวร์ กอล์ฟเอเชียนทัวร์ กอล์ฟชิงแชมป์โลกระดับทีมชาติ เช่น ไรเดอร์คัพ , เดอะเพรสซิเดนท์คัพ อเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล (ย้ายรายการมาจาก SuperSport (ยุคสาม)) แบตมินตัน วอลเลย์บอล และเทเบิลเทนนิส
  • มิถุนายน 2550 ทรูวิชั่นส์ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 ฤดูกาล (2007 - 2010) โดยถ่ายทอดสดผ่านทางทรูวิชั่นส์ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 โดยถ่ายทอดสด 380 แมตช์ต่อฤดูกาลผ่านทางทรูวิชั่นส์ (เริ่มเดือนสิงหาคม 2550 เป็นต้นไป) และ 17 แมตช์ต่อฤดูกาลทางช่อง 3 และช่อง 7 (เริ่มเดือนกันยายน 2550)
  • 1 สิงหาคม 2550 ได้เพิ่มช่อง True Sports 5 (ช่อง 68 ในระบบดิจิตอล) โดยออกอากาศในแพลทินัมแพ็กเกจ และโกลด์แพ็กเกจ และช่องกีฬาเฉพาะกิจ True Sport Extra 1 (ช่อง 69 ในระบบดิจิตอล) และ True Sport Extra 2 (ช่อง 70 ในระบบดิจิตอล) สำหรับแพลทินัมแพ็กเกจ (ภายหลังเพิ่มลงในโกลด์แพ็กเกจด้วย) ซึ่งทั้ง 3 ช่องในขณะนั้นเป็นช่องสำหรับรองรับการถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกคู่อื่นๆ และถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาอื่นๆ ที่มีเวลาชนกัน (ถ้ามีความจำเป็น)
  • 11 สิงหาคม 2550 ได้เพิ่มช่อง True Sport 3 และ True Sport 4 ลงในแพ็กเกจโกลด์ระบบอนาล็อกอีกระบบหนึ่ง ที่ช่องหมายเลข 37 และ 38 ตามลำดับ
  • กันยายน 2551 ได้ย้ายการออกอากาศช่องรายการทรูสปอร์ต 1-5 ไปยังช่องหมายเลข 59-63 และ Extra 1-2 ไปยังช่องหมายเลข 66-67 ในระบบดิจิตอล
  • ปี 2552 เปิดตัวช่อง True Sport Club Channel ซึ่งมีอยู่ 4 ช่อง สำหรับแมตช์พรีเมียร์ลีกของทีมนั้นๆ โดยให้ True Sport Club Channel M เป็นช่องถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกคู่ที่ Manchester United ลงเตะ, True Sport Club Channel L เป็นช่องถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกคู่ที่ Liverpool FC ลงเตะ, True Sport Club Channel C เป็นของ Chelsea และ True Sport Club Channel A เป็นของ Arsenal FC โดยทั้ง 4 ช่องดังกล่าวให้บริการเฉพาะซิลเวอร์แพ็กเกจลงมาถึงทรูไลฟ์ฟรีวิวแพ็กเกจ
  • ต้นปี 2553 ได้เปลี่ยนแปลงหมายเลขช่องรายการทรูสปอร์ตอีกครั้ง โดยให้ทรูสปอร์ต 1-5 ออกอากาศที่ช่อง 101-105 และทรูสปอร์ต Extra ทั้ง 2 ช่อง ออกอากาศที่ช่อง 121-122
  • 1 เมษายน 2553 ได้ยุติการออกอากาศช่อง True Sport Extra 2 โดยแทนที่ด้วยช่อง True Sports 6 ที่หมายเลขช่อง 122 ซึ่งนำเสนอรายการฟุตบอลลีกยุโรป เติมเต็มให้ครบถ้วน แล้วออกอากาศตั้งแต่แพ็กเกจซิลเวอร์ขึ้นไป โดยเปิดตัวช่องรายการนี้พร้อมกับช่องทรูไทยฟิล์ม
  • 1 พฤษภาคม 2553 ได้เพิ่มช่อง True Sports HD (ช่อง 122 บนแพ็กเกจตามสั่งรวมช่องเอชดีขนาด 3 ช่องสำหรับแพลทินัมและโกลด์แพ็กเกจ) โดยเปิดตัว ฟุตบอลโลก 2010 โดยถ่ายทอดสด ในระบบ HD ครั้งแรกในประเทศไทย (ถ่ายทอดสดร่วมมือกับอาร์เอส) ซึ่งเปิดตัวช่องนี้ พร้อมกับ Reality HD แล้วย้ายการออกอากาศช่อง True Sport 6 และ True Sport Extra 1 ไปยังช่องหมายเลข 106 และ 107 ตามลำดับ
  • กรกฎาคม 2554 เริ่มออกอากาศช่อง True Sports HD2 ในระบบเคเบิลใยแก้วเพียงระบบเดียวบนแพ็กเกจตามสั่งรวมช่องเอชดีขนาด 11 ช่องสำหรับสมาชิกแพลทินัมแพ็กเกจ และโกลด์แพ็กเกจ ซึ่งออกอากาศโดยเชื่อมสัญญาณจากช่อง Premier League Channel โดยออกอากาศครั้งแรกที่ช่องหมายเลข 123
  • มกราคม 2555 ช่อง True Sport Extra 1 ได้เปลี่ยนมานำเสนอรายการโดยถ่ายทอดจากช่อง Setanta Sports (แต่ยังคงมีการถ่ายทอดสดกีฬาที่มีเวลาชนกันอยู่เหมือนเดิม)
  • มีนาคม 2555 ได้เพิ่มช่อง True Sports 5 และ True Sport Extra 1 ลงในแพ็กเกจโกลด์ไลท์ (แพ็กเกจโกลด์ไลท์นี้เพิ่มเติมมาจากแพ็กเกจซิลเวอร์เดิมในขณะนั้น)
  • 17 กรกฎาคม 2555 ได้เพิ่มช่อง True Sports HD2 ลงในแพ็กเกจ แพลทินัม เอชดี และแพ็กเกจตามสั่งรวมช่องเอชดีทั้งขนาด 10 และ 17 ช่อง สำหรับโกลด์แพ็กเกจ พร้อมย้ายการออกอากาศช่อง True Sport HD ทั้ง 2 ช่องไปยังช่องหมายเลข 134-135 พร้อมกับถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ครั้งแรกในประเทศไทยในระบบ HD แล้วย้ายการออกอากาศช่อง True Sport 2 และ Special Sport บนเครื่องรับสัญญาณรุ่น MPEG-2 ไปยังช่อง 59 และ 68 ตามลำดับ
  • สิงหาคม 2555 ได้นำช่อง True Sports HD2 และ ลงในแพ็กเกจซูเปอร์สปอร์ตส์ (แพ็กเกจนี้เพิ่มเติมมาจากแพ็กเกจทรู-โนวเลจในขณะนั้น) และเริ่มถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษทางทรูวิชั่นส์ร่วมกับสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 อีกครั้งหนึ่ง ในฤดูกาล 2012-13
  • กันยายน 2555 เริ่มถ่ายทอดสดฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ร่วมกับสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ตามลำดับ
  • 1 พฤศจิกายน 2555 ได้ยุติการออกอากาศช่อง Special Sports และแทนที่โดยช่อง True Sports 7 (ออกอากาศตั้งแต่ทรู-โนวเลจ (เดิมออกอากาศตั้งแต่ทรูไลฟ์ ฟรีวิวแพ็กเกจ)) ที่ช่องหมายเลข 161 โดยเริ่มต้นนำเสนอเทปการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยูฟ่า ยูโรป้า ลีก, รายการฟุตบอลจากสโมสรฟุตบอลต่างประเทศผ่านรายการ GOAL TV และการถ่ายทอดสดกีฬาที่มีเวลาชนกับช่องอื่นๆ
  • 19 เมษายน 2556 ย้ายการออกอากาศช่อง True Sport HD ทั้ง 2 ช่อง ไปยังช่องหมายเลข 150 และ 151 ตามลำดับ ส่วน True Sport 7, True Sport Extra 1 ย้ายไปออกอากาศที่ช่องหมายเลข 107 และ 117 ตามลำดับ และนำ True Sports 5 และ True Sports 6 มาออกอากาศตั้งแต่ซูเปอร์สปอร์ตส์แพ็กเกจขึ้นไป (ปัจจุบันเป็นสปอร์ตส์แฟมิลี่เอชดีแพ็กเกจ) (เฉพาะเครื่องรับสัญญาณรุ่น MPEG4) และ True Sport 2 ย้ายไปช่อง 67 (เครื่องรับสัญญาณรุ่น MPEG-2)
  • 1 กรกฎาคม 2556 ได้ยุติการออกอากาศช่อง True Sport Extra 1 และเปลี่ยนชื่อช่องเป็น True Sport 8
  • 12 กันยายน 2556 ย้ายการออกอากาศช่อง True Sport 5-7 ไปออกอากาศที่ช่อง 104-106 และ True Sport HD 1-2 ไปยังช่องหมายเลข 115-116 True Sport 8 ได้ยกระดับการส่งสัญญาณเป็น True Sports HD4 (ออกอากาศทางช่องหมายเลข 118) , True Sport 4 ได้ยกระดับการส่งสัญญาณเป็น True Tennis HD (ออกอากาศที่ช่อง 119) และเปลี่ยนมาออกอากาศรายการเกี่ยวกับเทนนิสทั้งผังรายการ พร้อมกับเริ่มออกอากาศช่อง True Sports HD3 ในวันเดียวกัน (ที่ช่องหมายเลข 117) แล้วนำทั้ง 3 ช่องไปออกอากาศตั้งแต่นิว ซูเปอร์สปอร์ตส์แพ็กเกจขึ้นไป (แพ็กเกจของ บจก.ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ซึ่งให้บริการโดยขึ้นตรงกับสำนักงาน กสทช.), True Sports 5 ได้เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอรายการจากเดิมที่ถ่ายทอดสดเฉพาะกีฬามวยโลกมาเป็นการนำเสนอเกี่ยวกับรายการที่เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟทุกรายการ พร้อมกับรายการ ATP Uncovered และ Transworld Sports
  • มกราคม 2557 True Sports 5 และ True Sports 6 ได้เพิ่มลงในนิว ทรู โนวเลจ แพ็กเกจ (ปัจจุบันเป็นแฮปปี้ แฟมี่ลี่ ซึ่งให้บริการโดย บจก.ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป โดยขึ้นตรงกับสำนักงาน กสทช.) ทั้งแบบเอสดี และเอชดีจนถึงปัจจุบัน, True Sports 6 ได้เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอมาเป็นเกี่ยวกับกีฬาการต่อสู้แบบต่างๆ และหันมาถ่ายทอดสดมวยชิงแชมป์โลกแทน True Sports 7 (เนื่องจาก True Sports 7 เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอมาเป็นการถ่ายทอดสดกีฬาที่นักกีฬาไทยลงแข่งในรายการนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นแบดมินตัน วอลเลย์บอล และสนุ้กเกอร์ชิงแชมป์โลกรวมถึงสนุ้กเกอร์รายการระดับยูโรเปี้ยนทัวร์)
  • 22 เมษายน 2557 หลังจากที่ทรูวิชั่นส์ได้ปรับปรุงและส่งสัญญาณเพิ่มช่องทีวีดิจิตอลแล้ว ได้ย้ายการออกอากาศช่องทรูสปอร์ตในระบบ HD จำนวน 5 ช่องไปยังช่อง 666-670 และในระบบ SD จำนวน 6 ช่องไปยังช่องหมายเลข 681-685 (เครื่องรับสัญญาณรุ่น MPEG4) และย้ายไปออกอากาศที่ช่องหมายเลข 77-79 (เครื่องรับสัญญาณรุ่น MPEG-2) (ยกเว้น True Sport 7 ย้ายไปออกอากาศที่ช่องหมายเลข 9) สำหรับแพ็กเกจของทรูวิชั่นส์-ทรูวิชั่นส์ เคเบิล (ภายใต้สัญญากับ บมจ.อสมท) และทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป (ภายใต้สำนักงาน กสทช.)
  • 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.30 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ได้ประกาศรัฐประหารในนาม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อมา เวลา 19.00 น.คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกประกาศฉบับที่ 4/2557 ให้ทรูสปอร์ตทุกช่อง รวมทั้งช่องรายการอื่นๆ ที่ออกอากาศทางทรูวิชั่นส์, ดิจิตอลทีวีทุกช่องงดการออกอากาศชั่วคราว แล้วให้เชื่อมสัญญาณออกอากาศจากทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกเท่านั้น
  • 24 พฤษภาคม 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยกเลิกประกาศฉบับที่ 14/2557 และ ฉบับที่ 18/2557 ให้ดิจิตอลทีวี (ยกเว้น วอยซ์ทีวี), ทรูวิชั่นส์ทุกช่อง รวมไปถึงทรูสปอร์ตทุกช่องกลับมาออกอากาศอีกครั้ง โดยจะต้องแสดงสัญลักษณ์ คสช. ไว้ที่มุมบนทางขวามือ เพื่อเป็นการยืนยันการอนุโลมให้กลับมาออกอากาศอีกครั้ง
  • มิถุนายน 2557 เริ่มถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ณ ประเทศบราซิลผ่านทางช่อง 8 (ช่องหมายเลข 37 ในขณะนั้น) จำนวน 25 แมตช์ , ทรูวิชั่นส์ ช่อง 99 และ True Sport HD3 (ช่อง 668) จำนวนช่องละ 56 แมตช์ และ ASN 2 (ช่อง 678) จำนวน 8 แมตช์
  • 10 เมษายน 2558 ย้ายการออกอากาศช่อง True Sport 7 ไปยังช่องหมายเลข 686
  • สิงหาคม 2559 True Sport 1 เปลี่ยนมานำเสนอรายการกีฬาแบบ Rewind ซึ่งประกอบไปด้วย Snooker Rewind, WTA Rewind และ BWF Rewind สำหรับฟุตบอลลีกต่างประเทศ ย้ายไปอยู่ช่อง BeIN Sports 1-6 (ยกเว้นรายการ THE FOOTBALL REVIEW และ FIFA FOOTBALL MUNDIAL ซึ่งยังคงออกอากาศตามปกติจนถึง 31 ธันวาคม 2559) แต่ยังคงถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก 2 เหมือนเดิม และเพิ่มช่อง True Sports 2, True Sports HD2 และ True Sports HD3 ลงในแพ็กเสริมดูบอล ทรู ซูเปอร์ ซอคเกอร์
  • 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.00 น. เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงสวรรคต ทำให้ช่องรายการทุกช่อง ต้องงดออกอากาศไปก่อน พร้อมกับเชื่อมโยงสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเป็นเวลา 30 วัน สำหรับวันที่ 15 ตุลาคม 2559 ทางทรูวิชั่นส์จึงให้ทุกช่องในระบบเครือข่ายดังกล่าว ยกเว้นช่องทีวีดิจิตอล ออกอากาศสารคดีสั้นจาก TNN ในขณะเดียวกัน หลังจากที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้ออกอากาศรายการต่างๆ ได้เฉพาะประเภท รวมทั้งรายการกีฬา จึงทำให้บางช่องรายการและช่องทรูสปอร์ตทุกช่องกลับมาออกอากาศอีกครั้งด้วยผังรายการปกติ แต่ทว่าไม่มีการใช้ ident ช่องแต่อย่างใด อีกทั้งช่วงแจ้งรายการต่อไปของช่อง True Sports HD3 ก็จะเปลี่ยนจากเสียงเพลงเดิมมาเป็นเพลงไว้อาลัย และปรับโลโก้ทุกช่องเป็นสีขาวดำอยู่ส่วนล่างขวาของจอจนถึงวันที่ 22 มกราคม 2560 นอกจากนี้ โปรโมทีเซอร์รายการไม่มีการใช้แบบปกติ แต่ใช้เสียงเพลงไว้อาลัยแทนจนถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 และในช่องทรูสปอร์ตทุกช่อง (ยกเว้น True Sports HD4) มีการออกอากาศเพลงสรรเสริญพระบารมี ของ ร.9 ทุกวันเวลา 00.00 น. ก่อนรายการต่อไปของแต่ละช่อง (ยกเว้นกรณีรายการนั้นจบหลังเวลา 00.00 น.) และไม่มีรายการแมทช์การแข่งขันพรีเมียร์ลีกในช่วงวิเคราะห์เกมการแข่งขันในช่อง BeIN Sports 1 แต่ยังคงสามารถถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้เหมือนเดิมจนครบกำหนดไว้อาลัย 30 วัน
  • ธันวาคม 2559 ทรูสปอร์ตทุกช่อง (ยกเว้น True Sports HD4) รวมทั้งทุกช่องรายการที่ผลิตโดยทรูวิชั่นส์และช่องทรูโฟร์ยู ได้เปลี่ยนมาใช้เพลงสรรเสริญพระบารมีในเวอร์ชัน ร.10 โดยยังคงออกอากาศในเวลา 00.00 น. ของทุกวันก่อนรายการต่อไปตามผังรายการจนถึงปัจจุบัน (ยกเว้นกรณีรายการนั้นจบหลังเวลา 00.00 น.) และนำช่อง True Sports HD2 และ True Sports 2 ลงในเอ็นจอยแพ็กเกจ (แพ็กเกจทรูวิชั่นส์ใช้คู่ทรูมูฟเอช ทรูออนไลน์)
  • 1 มกราคม 2560 True Sport 1 เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอรายการอีกครั้ง จากเดิมที่นำเสนอรายการกีฬาแบบ Rewind มาเป็นรายการกีฬาจากผังรายการจากช่อง True Sports HD, True Sport 3 ใช้ผังรายการร่วมกับช่อง True Sports HD3 แต่ยังคงออกอากาศรายการแยกช่องต่างหากแค่บางรายการอยู่เหมือนเดิม
  • 13 มีนาคม 2560 ย้ายการออกอากาศช่อง True Sport 2-7 ไปยังช่องหมายเลข 67-70 (เฉพาะเครื่องรับสัญญาณรุ่น MPEG-2 เท่านั้น)
  • มิถุนายน 2560 ทรูสปอร์ตได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลเมจิ ยาซุดะ เจ 1 ลีก และเมจิ ยาซุดะ เจ 2 ลีก
  • 25-27 ตุลาคม 2560 ทรูสปอร์ตทั้ง 11 ช่องยังคงออกอากาศตามผังรายการปกติ แต่จะมีการตัดเข้าการถ่ายทอดสดพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จาก ทรท. ถ้ามีการถ่ายทอดสดนั้นๆ
  • 8 มิถุนายน 2561 ทรูสปอร์ต 1 และ ทรูสปอร์ต 3 ยุติออกอากาศ เนื่องจากมีการใช้ผังร่วมกันกับ True Sports HD และ True Sports HD3 มาตลอดทุกรายการ จึงไม่มีความจำเป็นต้องออกอากาศต่อไป
  • 14 มิถุนายน 2561 ทรูสปอร์ต เอชดี 3 หันมานำเสนอเกี่ยวกับรายการและการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 (ถ่ายทอดสดร่วมกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5, ทรูโฟร์ยู และอมรินทร์ทีวี)
  • ตั้งแต่ 17 มิถุนายน 2561 ทรูสปอร์ตเอชดี 2 และ 3 ยกเลิกการออกอากาศรายการภาคบังคับของคสช. โดยในช่วงเวลาดังกล่าวจะแสดงตัวอักษรวิ่งแจ้งในช่วงเวลานั้นแทน(โดยปกติจะแสดงในช่วงการถ่ายทอดสดเท่านั้น)
  • กลางเดือนกรกฎาคม 2562 ทรูสปอร์ตทุกช่อง (รวมทั้งทุกช่องรายการของทรูวิชั่นส์ รวมไปถึงช่องดิจิตอลทีวี และช่องทรูโฟร์ยู) ยกเลิกรายการภาคบังคับของ คสช. โดยถาวร เนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ยุติการทำหน้าที่ พร้อมกับยกเลิกคำสั่งหลายฉบับแล้ว
  • สิงหาคม 2562 ได้เพิ่มช่องทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 1-5 ซึ่งเป็นกลุ่มช่องรายการถ่ายทอดสดแมตช์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตลอดจนรายการต่างๆ ของพรีเมียร์ลีก ออกอากาศที่ช่องหมายเลข 600 602-605 และเพิ่มช่อง True Sports HD2 ไปไว้ที่หมายเลข 606 อีกหมายเลข พร้อมกับการจำหน่ายแพ็กเกจเสริมใหม่ ทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล พลัส และยกเลิกออกอากาศช่อง BeIN Sports ทั้ง 6 ช่องในวันที่ 10 สิงหาคม และในช่วงสิ้นเดือนบนแอปพลิเคชันทรูไอดี และถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกผ่านทางช่อง True Premier Football HD ทั้ง 5 ช่อง และ True Sports HD2 ร่วมกับพีพีทีวี
  • ตุลาคม 2562 มีการเปลี่ยนอัตลักษณ์ช่องใหม่ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้นทุกช่อง (ยกเว้น True Tennis HD ที่ยังคงใช้อัตลักษณ์ดั้งเดิมอยู่) แต่ยังคงใช้ไอเดนท์ตัวเดิมตามปกติ พร้อมกับปล่อยโฆษณาชุด กีฬาเชื่อมชีวิต เชื่อมความรู้สึก (Passion makes Connection) เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม
  • 29 มกราคม 2563 Discovery Networks Asia-Pacific ในนามเครือข่าย Eurosport Asia (เจ้าของสถานีโทรทัศน์ Setanta Sports Asia) ได้ตัดสินใจยุติการออกอากาศช่อง Setanta Sports ผ่านทางช่อง True Sports HD4 (ประเทศไทย) พร้อมกับในประเทศฮ่องกง, ไต้หวัน, ศรีลังกา, มาเลเซีย, บรูไนดารุสซาราม, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มองโกเลีย และฟิลิปปินส์ แล้วนำสัญญาณจากช่อง Rugby Pass TV ซึ่งเป็นช่องรายการรักบี้ที่เคยออกอากาศในระบบ OTT มาออกอากาศต่อทันที โดยในประเทศไทยยังสามารถรับชมได้ผ่านทางช่อง True Sports HD4 (ช่องหมายเลข 669) เช่นเดิม
  • ปลายเดือนตุลาคม 2563 หลังจากที่ทรูสปอร์ตส์ยุติบทบาทการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกแล้ว True Sports HD2 มีการปรับเปลี่ยนผังรายการโดยเอารายการเทนนิส WTA Tour มาออกอากาศแทนรายการแมตช์ฟุตบอลไทยลีก แต่ยังคงรายการ THIS IS ฟุตบอลไทยไว้เหมือนเดิม ส่วน True Sports 2 ปรับเปลี่ยนผังรายการโดยเอารายการอเมริกันเกมส์มาออกอากาศแทน แต่ยังคงรายการแบงค็อก ยูไนเต็ด ทีวี และรายการข่าวกีฬาเหมือนเดิม