เรื่องย่อ ของ ทะมะกะซุระ

เดือนปีผ่านไปไม่ทำให้เก็นจิลืมยูงะโอะ คนรักที่จู่ๆก็เสียชิวิตกระทันหันเนื่องจากวิญญาณคนเป็นของอดีตพระชายาโระคุโจ บุตรสาวของยูงะโอะเองนั้น ไม่ทราบว่ามารดาของตนได้จากไปแล้ว นางถูกพี่เลี้ยงและแม่นมพาตัวไปเลี้ยงดูที่จังหวัดดะไซฟุที่ห่างไกล ในคิวชิว ตั้งแต่อายุได้ 4 ชวบ เพราะไม่มีใครทราบชะตากรรมของยูงะโอะ นายหญิงของตนที่หายตัวไปพร้อมอุคน สามีของแม่นมนั้นได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้าเมืองดะไซฟุ ดังนั้นทั้งครอบครัวจึงตามเขาไปที่ดะไซฟุ แม่นมนั้นไม่อยากส่งท่านหญิงน้อยให้โทโนะจูโจผู้เป็นบิดา เพราะเกรงว่ามารดาเลี้ยงจะกลั่นแกล้งท่านหญิงน้อย เช่นเดียวกับข่มขู่ยูงะโอะจนต้องหนีมาแล้ว ขณะที่ทุกคนลงเรือเดินทางไปดะไซฟุ ท่านหญิงน้อยถามแม่นมด้วยความไร้เดียงสาว่า

จะพาเราไปหาท่านแม่ใช่ไหม


พอแม่นมและครอบครัวได้ยิน ก็อดที่จะพากันร้องไห้ไม่ได้ แต่ต้องข่มกลั้นไว้ เพราะหากร้องไห้ขณะโดยสารเรือนั้น ถือเป็นลางร้าย ครอบครัวแม่นมใช้ชีวิตที่ดะไซฟุ เวลาผ่านไป ท่านหญิงน้อยเติบโตเป็นสตรีสาวรูปโฉมงดงามและมีสง่าราศีเหนือมารดา มีขุนนางหัวเมืองพากับมาเกี้ยวพา เสนอจะแต่งงานด้วยมากมาย ทว่า แม่นมและสามีไม่อาจยกสตรีชาติกำเนิดสูงให้สมรสกับขุนนางต่ำชั้นได้ จึงอ้างว่านางนั้นร่างกายไม่ปกติ ไม่เหมาะเป็นภรรยาใคร ตั้งใจจะให้นางบวชชี สามีของแม่นมเองเกิดเสียชิวิตลง โดยทิ้งให้ทั้งครอบครัวขาดที่พึ่ง คำสั่งเสียของเขาคือ ให้นำท่านหญิงสาวเข้าเมืองหลวงให้ได้

ทว่าวันเวลาผ่านไป โดยแม่นมและครอบครัวไม่สามารถพาท่านหญิงน้อยสู่นครหลวงได้ ใช้ชีวิตตั้งรกรากเรื่อยมาในคิวชิว ยังมีขุนนางหัวเมืองคนหนึ่ง คือ ไทฟุโนะเก็น เมโมถือฤกษ์กำหนดการสมรสระหว่างเขากับทะมะคะสีระตามแต่ใจตนฝ่ายเดียวแถมยังเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น บุตรชายคนโตของแม่นม จึงตัดสินใจพาท่านหญิงน้อยหนีไปเกียวโตพร้อมแม่นม อะเตะกิ และนางกำนัลรับใช้ โดยทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลัง


กระแสลมพัดพาให้เรือของแม่นมและครอบครัว หนีพ้นการติดตามของ ไทฟุโนะเก็นและพรรคพวก เข้าถึงปากน้ำโยะโดะ ด่านหน้าของเกียวโต หลังจากจากนครหลวงไปกว่า 10 ปี บุคคลทั้งหมดใช้ชีวิตอย่างลำบากและไม่คุ้นเคยในเมืองหสวง โดยไร้เบาะแสของยูงะโอะ และไม่ทราบว่าจะติดต่อโทโนะจูโจอย่างไร ดังนั้นทั้งหมดจึงคิดหาที่พึ่งทางใจด้วยการไปแสวงบุญด้วยการเดินเท้าไปสู่วัดฮะเสะเดระ ด้วยความไม่เคยคุ้นกับการเดินเท้าเป็นเวลานาน ท่านหญิงน้อยก็ไม่อาจที่จะเดินได้แบบปกติประกอบกับมืดค่ำแล้ว ขบวนทั้งหมดจึงพักค้างแรมในโรงเตี๊ยมแถบ ซึคุบะอิจิ บังเอิญพวกเขาพบกับขบวนแสวงบุญของอุคน อดีตพี่เลี่ยงของยูงะโอะ ซึ่งมาไหว้พระเพื่อบนบานให้พบกับท่านหญิงน้อยบุตรีของยูงะโอะ ที่นางเรียกว่า ฟุจิวะระ รุริงิมิ ซึ่งเข้าพักในโรงเตี๊ยมเดียวกัน

อุคนนั้น ขณะนี้เก็นจิรับนางไว้ทำงานเป็นนางกำนัลรับใช้ของมุระซะกิ ปกติอุคนจะเดินมาวัดฮะเสะเดระ เพื่อมาบนบานให้พบเจอท่านหญิงน้อย ฟุจิวะระ รุริงิมิ อย่างสม่ำเสมอ หลังจากที่นางพยายามสืบหาเบาะแสของท่านหญิงน้อยทุกวิถีทาง หลังจาก ยูงะโอะ นายหญิงของนางตายจากไป


อุคนจำเสียงของนางกำนัลของทะมะคะซึระได้ ทั้งสองได้พบกันและรู้ตวามจริงทั้งหมดว่าท่านหญิงน้อยได้เติบโตเป็นสตรีสาวผู้งดงามแล้ว ทั้งหมดไหว้พระที่ฮะเซะเดระ และนัดแนะ บอกกล้าวที่อยู่ในเมืองหลวงไว้เพื่อที่จะได้หากันเจออีกครั้ง อุคนเอ่ยเรื่องบุตรีของยูงะโอะให้เก็นจิรับรู้ เกนจิรับปากจะดูแลนางโดยอ้างว่าเป็นบุตรสาวที่เขาเพิ่งพบโดยบังเอิญ เก็นจิเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับยูงะโอะให้มุระซะกิฟังทั้งหมด พร้อมกับฝากฝังให้ ฮะนะจิรุซะโตะ ดูแลบุตรีของยูงะโอะในคฤหาสน์โระคุโจ


ค่ำวันหนึ่ง เก็นจิ เข้าพบบุตรีของยูงะโอะ เขาเลิกม่านขึ้นมอง นางตกใจจึงเบือนหน้าหลบด้วยความอาย เก็นจิพึงใจในความงามของนาง นางมีส่วนคล้ายยูงะโอะ จนทำให้เขาหวนระลึกถึงอดีต ทั้งสองพูดคุยกัน ทะมะคะซึระถึงกับหลั่งน้ำตา เก็นจิจึงเช็ดน้ำตาให้นางอย่างอ่อนโยน และบอกนางว่า ไม่เคยมีวันใดเลยที่เขาจะลืมเรื่องของนางและมารดา[4] เขาตั้งใจดูแลนางเหมือนบุตรสาวแท้ๆ และแต่งร้อยกรองถึงนางว่า


โคะฮิวะตะรุ มิฮะโซะเระนะเระโดะ ทะมะคะซึระ อิกะนะรุสุจิโวะ ทะสึเนะคิสึระมุ

อะฮะเระ


อาวรณ์มาแสนนาน ถึงโฉมสคราญผู้ล่วงลา ฤๅมาลัยแก้วศิรา เชื่อมร้อยผูกพันโชคชะตา นำพบพาสุดาแห่งนาง


คำว่า ทะมะคะซึระ ในบทร้อยกรองนี้ จึงกลายเป็นคำแทนชื่อของนาง ส่วนยูงิรินั้น หลังจากจบการศึกษาในวิทยาลัย ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น จูโจ เขาได้รับการบอกเล่าว่า ทะมะคะซึระ นั้นคือ พี่สาวต่างมารดาของเขา[5]