ทับ จำเกาะ เป็น
นักมวยไทยฝีมือดีจาก
จังหวัดนครราชสีมา ถูกส่งตัวเข้ามาชกในกรุงเทพฯในยุค
สนามมวยสวนกุหลาบเมื่อ พ.ศ. 2464 เพื่อเก็บเงินซื้อปืนให้
กองเสือป่า การเดินทางเข้ามาชกมวยของนายทับครั้งนั้นได้สร้างชื่อเสียงเป็นที่กล่าวขวัญในวงการมวยยุคนั้นว่า "หมัดนายจีน ตีนนายทับ"เมื่อเข้ามาชกมวยในกรุงเทพฯ
กรมหลวงชุมพรฯรับอุปการะให้เข้าพักใน
วังเปรมประชากร นายทับขึ้นชกครั้งแรกกับนักมวยจาก
จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งปรากฏว่านายทับเตะเป็นชุด จนนักมวยจากมหาสารคามลุกไม่ขึ้น ยอมแพ้แค่ยกแรกจากชัยชนะในครั้งแรก ฝ่ายผู้จัดการแข่งขันได้คัดเลือกนักมวยขึ้นสู้กับนายทับ ครั้งแรก ม.ร.ว. มานพฯ เสนอ
บังสะเล็บ ศรไขว้ แต่นายทับไม่สู้ ดังนั้นจึงประกบคู่ให้นายทับพบกับประสิทธิ์ บุณยารมณ์ ครูพลศึกษาซึ่งนายทับตอบตกลงต่อมาเมื่อนายทับรู้ภายหลังว่าได้คู่กับนายประสิทธิ์ซึ่งเป็นมวยนักเรียนพลศึกษา และมีชื่อในทางชนะนักมวยหัวเมืองด้วยอิทธิพล นายทับถอดใจไม่ยอมซ้อมจนกรมหลวงชุมพรรับสั่งให้หา เมื่อทราบว่านายทับกลัวอิทธิพลจึงปลอบใจให้สู้และเชิญ
หลวงพ่อศุข วัดมะขามเฒ่ามาประกอบพิธีแต่งตัวให้นายทับเพื่อให้เกิดขวัญกำลังใจ หลังจากนั้นขวัญกำลังใจของนายทับจึงดีขึ้น ซ้อมมวยได้ตามปกติ เมื่อถึงวันชกที่สนามมวยสวนกุหลาบ โดยมีพระยานนทิเสนสุรภักดี แม่กองเสือป่า เป็นคนนำเป่าปี่บรรเลง
[2] การแข่งขันปรากฏว่านายทับใช้ชั้นเชิงในจังหวะที่ประสิทธิ์ต่อยพลาด เข้าเตะประสิทธิ์เป็นชุดแบบเดียวกับที่ใช้ในการชกครั้งแรก จนนายประสิทธิ์หมดสติ ถูกจับแพ้ไปหลังจากการชกในครั้งนั้น มีผู้เสนอนักมวยที่จะเป็นคู่ชกรายต่อไปของนายทับหลายคน เช่น
สุวรรณ นิวาสะวัต อินทร์ ศักดิ์เดช แต่ในระหว่างที่รอคู่ชกอยู่ นายทับมีความจำเป็นต้องกลับภูมิลำเนา กรมหลวงชุมพรทรงอนุญาตให้กลับได้ นายทับยังคงชกมวยตามหัวเมืองต่อมา แต่ไม่ได้เข้ามาชกมวยในกรุงเทพฯอีกเลย อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของนายทับ ยังเป็นที่จดจำของชาวกรุงเทพฯ เมื่อครั้งที่
อภิเดช ศิษย์หิรัญโด่งดัง ยังมีผู้ตั้งฉายาให้เขาว่า "ทับ จำเกาะคนใหม่" แม้ว่าเวลาจะห่างกันถึง 40 ปีก็ตาม
[3]