ประวัติ ของ ทัสเคนเรดเดอร์

ขอแค่รู้ไว้ว่าพวกมันคือทัสเคนก็พอ— อัลคารา

ทัสเคนเรดเดอร์เข้าโจมตีค่ายของจาว่า

ครั้งหนึ่งชาวคุมัมกาห์เคยอาศัยอยู่ในเมืองขนาดใหญ่ไปทั่วทาทูอีนที่อุดมสมบูรณ์ หลายพันปีต่อมาพวกเขาก็เริ่มเดินทางออกสู่อวกาศและทาทูอีนก็กลายมาเป็นจุดน่าสนใจของจักรวาล โชคไม่ดีที่มันได้ดึงดูดความสนใจจากราคาทาและพวกเขาก็เริ่มบุกรุกเข้ามา ดังนั้นขบวนการกบฏของชาวคุมัมกาห์จึงเริ่มเกิดขึ้น

เรื่องเล่ายืนยันว่าชาวคุมัมกาห์ได้ท้าทายจักรวรรดินิรันดร์ประมาณปีที่ 50,000 และ 25,000 ก่อนยุทธการยาวิน และถูกลงโทษด้วยการระดมยิงจากวงโคจร ซึ่งทำให้ผิวหน้าของทาทูอีนราบเป็นหน้ากลอง ส่งผลให้เวลาต่อมามันได้กลายมาเป็นทะเลทราย อย่างไรก็ดี ขณะที่การแทรกแซงของจักรวรรดินิรันดร์ถูกเชื่อว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงดาวอื่นๆ อย่าง คาชีคหรือมานาอัน มันก็เป็นไปได้ที่ราคาทานำไอน้ำของทาทูอีนไปไว้บนดาวที่เป็นมหาสมุทร ไม่มีใครรู้แน่ชัดถึงความแตกต่างที่เกิดขึ้นระหว่างทัสเคนที่ตัวสูงและจาว่าที่ตัวเตี้ย

หลังจากที่ทาทูอีนถูกค้นพบอีกครั้งโดยสาธารณรัฐกาแลกติกประมาณ 5,000 ปีก่อนยุทธการยาวิน มนุษย์รุ่นแรกๆ ที่มาตั้งรกรากมีชื่อเรียกว่ากอร์ฟา จากนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้พวกเขากลายมาเป็นมนุษย์ทราย เพื่ออยู่รอด พวกเขาเริ่มสร้างเทคโนโลยีให้กับอาณานิคมของพวกเขาขึ้นมา ประมาณ 4,000 ปีก่อนยุทธการยาวิน พวกเขาได้ทำสงครามเล็กๆ กับผู้ตั้งรกราก รวมทั้งกับยริษัทเซอร์คาที่หวังจะมาทำเหมืองแร่บนทาทูอีน และทำให้จาว่าได้เข้าครอบครองแซนด์ครอเลอร์ของชาวเมืองโดยบังเอิญ เป็นการทำให้อีกหนึ่งเผ่าพื้นเมืองของทาทูอีนผงาดขึ้น


ดูเหมือนว่าทาทูอีนจะถูกลืมไปจากกาแลกซี่ในไม่กี่พันปีถัดมา และอันที่จริง ดาวนี้ได้ถูกค้นพบอีกครั้งในปีที่ 1,100 ก่อนยุทธการยาวิน เมื่อถึงศตวรรษที่หกก่อนยุทธการยาวิน อย่างไรก็ตาม อาณานิคมทำเหมืองได้ถูกสร้างขึ้นมา และประวัติศาสตร์ของมนุษย์ทรายและความสัมพันธ์ของพวกเขากับผู้ที่มาจากดาวอื่นก็ได้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 550 ก่อนยุทธการยาวิน เมื่อพวกเขาเข้าปะทะกับผู้มาเยือนนามว่าอัลคารา

สุสานของชาวทัสเคนบนทาทูอีน

ในตอนแรกนั้น อัลคาราได้ทำงานในสำนักงานชาติพันธุ์และระบบสังคม โดยศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ทรายและดูเหมือนได้รับความเชื่อใจจากพวกเขา ในที่สุด อย่างไรก็ตาม เขาได้ทรยศต่อาณานิคมและเป็นเจ้าของป้อมปราการในทะเลทราย ซึ่งต่อมาได้ถูกใช้โดยแจ็บบา เดอะ ฮัทท์ ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าการก่ออาชญากรรมของเขากับมนุษย์ทรายนั้นมีความเกี่ยวข้องกันมากแค่ไหน แต่เหตุการณ์ที่เสื่อมเสียที่สุดในอาชีพของเขาก็คือการที่เขาเสนอตัวเป็นมิตรกับกลุ่มมนุษย์ทราย ผู้ซึ่งตั้งค่ายอยู่บนที่ราบสูงเมซรา เพื่อกำจัดกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นเขาก็หักหลังมนุษย์ทรายและทำลายค่ายของพวกเขา สิ่งนี้ถูกกล่าวว่าเป็นเหตุของความขัดแย้งอันรุนแรงระหว่างชาวพื้นเมืองกับผู้มาเยือนจากต่างดาว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานั้นไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามนุษย์ทรายโกรธเคืองเรื่องอะไร อัลคาราได้จากดาวไปเมื่อประมาณ 516 ปีก่อนยุทธการยาวิน และอาณานิคมทำเหมืองก็จบลงหลังจากนั้น นอกจากนี้ยังไม่มี่ใครรู้ว่าเผ่าที่อยู่บนที่ราบสูงเมซราเป็นมนุษย์ทรายกลุ่มเดียวเท่านั้นที่ทำงานกับอัลคารา หรือเป็นเพียงพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด และประเพณีที่เล่าต่อด้วยปากเปล่าของมนุษย์ทรายก็อาจทำให้เรื่องซับซ้อนขึ้นและมีแนวโน้มที่สร้างความเกลียดชังต่อผู้ตั้งรกรากที่ไม่ใช่ชนพื้นเมือง

เมื่อมีการตั้งรกรากแบบถาวรของผู้ที่มาจากดาวอื่นดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นในปีที่ 100 ก่อนยุทธการยาวิน ด้วยการมาถึงของยานโดแวกเกอร์ควีนจากดาวเบนไทน์ 4 เมืองหลวงแห่งใหม่ของดาวได้ถูกตั้งชื่อว่าเบสไทน์ และการตั้งรกรากครั้งที่สองถูกเรียกว่าป้อมทัสเคนก็ถูกสร้างขึ้นที่ทางตอนเหนือของจันด์แลนด์ ในตอนแรก ชาวอาณานิคมรุ่นใหม่ไม่ได้ระวังพวกมนุษย์ทราย แต่การโจมตีเป็นระยะของพวกเขาในระหว่างปีที่ 98-98 ก่อนยุทธการยาวินบังคับให้ต้องอพยพออกจากป้อมทัสเคน และจากจุดนั้นเอง ผู้ตั้งรกรากที่เป็นมนุษย์บนทาทูอีนก็เรียกชาวพื้นเมืองว่า"ทัสเคนเรดเดอร์"หรือผู้รุกรานทัสเคนนั่นเอง

ใกล้เคียง