รับศึกหนักเยอรมัน ของ ที-34

ในเบื้องต้น ที-34 ผลิตกันที่เมืองคาร์คอฟ โดยโรงงานอื่นๆส่งส่วนประกอบต่างๆมาสนับสนุน ต่อมามีการย้ายฐานการผลิตไปเมืองอื่น ก่อนที่นาซีเยอรมันจะบุกสหภาพโซเวียตในสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่องนี้กดดันให้ประเทศต้องเร่งผลิตที-34 ออกมาเต็มกำลังหลังจากที่ก่อนหน้านี้ถกเถียงกันว่า ควรหันไปผลิตรถถังรุ่นเก่า หรือไม่ก็หันพัฒนารุ่นที่ก้าวหน้ามากกว่า ช่วงที่ประเทศเข้าสู่สงคราม ที-34 มีสัดส่วนแค่ 4 เปอร์เซ็นต์ของรถถังของประเทศ

การปรากฏตัวของที-34 ในฤดูร้อน ค.ศ. 1941 ทำให้ทหารเยอรมันประหลาดใจ และตกใจอย่างมากแม้คาดว่าจะเจอการตอบโต้อย่างหนักจากฝ่ายศัตรูมาอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ที-34 ยุคแรกก็มีข้อบกพร่องทางด้านเครื่องยนต์มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบเกียร์และคลัทช์ ความสูญเสียของที-34 ในฤดูร้อนปีนั้น ครึ่งหนึ่งเกิดจากความบกพร่องของมันเอง มากกว่าที่จะเป็นจากฝ่ายข้าศึก

จากการสูญเสียมากมายในช่วงแรกของฝ่ายโซเวียต จึงได้คิดหาวิธีทำให้ค่าใช้จ่ายในการผลิตรถถูกลง แต่รถถังยังใช้งานได้ดี เช่นเรื่องการทำให้โลหะแข็งขึ้น ในที่สุดในเวลาแค่ 2 ปี ค่าใช้จ่ายในการผลิตรถที-34ก็ลดลงจากคันละ 269,500 รูเบิ้ลในปี ค.ศ. 1941 เหลือแค่ 135,000 รูเบิ้ล ระยะเวลาในการสร้างก็ลดลงครึ่งหนึ่ง ใช้เวลาในการผลิต1200คันต่อเดือน แม้คนงานส่วนมากจะเป็นผู้หญิง คนสูงอายุ และเด็ก

ที-34 เหนือกว่ารถถังเยอรมันอย่างมากเมื่อสามารถลุยได้ทั้งในสภาพพื้นผิวทีเป็นโคลนหนา หรือน้ำแข็ง อาวุธของฝ่ายทหารราบเยอรมันก็ทำอะไรมันไม่ได้ แต่ที่ทำให้ ที-34 ไม่ประสบควมสำเร็จขนานใหญ่ก็เพราะพลประจำรถถังที่ได้รับการฝึกน้อย และฝ่ายบัญชาการที่มีข้อบกพร่อง ฝ่ายเยอรมันได้แก้เกมด้วยการผลิตปืนต่อสู้รถถัง และรถถังที่ใหญ่กว่า แม้ทหารเยอรมันบอกว่าที่พวกเขาต้องการก็คือให้เยอรมันผลิต ที-34 ออกมาสู้กับที-34 ของโซเวียต