ประวัติ ของ ที.ไอ.

ที.ไอ. เกิดที่แอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย เริ่มแร็ปตั้งแต่อายุ 9 ปี จากนั้นได้เซ็นสัญญากับ อริสต้าเรคคอร์ด ค่ายย่อยลาเฟซ เดิมใช้ชื่อว่า ที.ไอ.พี. (T.I.P.) แต่ย่อลงเหลือเป็น ที.ไอ. เพื่อเคารพแร็ปเปอร์ Q-Tip ศิลปินร่วมค่าย

มีผลงานชุดแรกคือ I'm Serious ออกเดือนตุลาคม 2001 สามารถเข้าชาร์ทได้ใน 30 อันดับแรกของ Top R&B Hip-Hop หลังจากนั้นได้ร่วมในค่ายเพลงแอตแลนต้าเรคคอร์ดส มีผลงานชุด Trap Muzik วางขายเมื่อ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2003 สามารถขึ้นชาร์ทได้ที่อันดับ 4 ของชาร์ทบิลบอร์ดอัลบั้มใน Billboard 200 เขายังร่วมงานกับศิลปินฮิปฮอปหลายคนอย่าง B.G., Nelly, Lil Wayne, plus Mannie Fresh ในอัลบั้มชุดที่ 3 ชื่อว่า Urban Legend สามารถขึ้นชาร์ทอัลบั้ม Billboard 200 ที่อันดับ 7 ด้วยยอดชาย 1.3 ล้านชุดในอเมริกาอย่างเดียว และถือเป็นอัลบั้มที่มียอดขายเร็วที่สุดของศิลปินชาวใต้ในอเมริกา มีเพลงฮิตอย่าง "Bring Em Out" (อันดับ 9), "U Don't Know Me", และ "ASAP" และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ในสาขา ศิลปินแร็ปเดี่ยวยอดเยี่ยมจากซิงเกิล "U Don't Know Me" ในปี 2006

จากนั้น ที.ไอ. ออกอัลบั้มชุด King วางขาย สามารถขึ้นอันดับ 1 ชาร์ทบิลบอร์ดอัลบั้มได้ และมีเพลงดังติดท็อปเท็นอย่าง "What You Know" ต่อมาได้ออกอัลบั้มชุดที่ 5 ชื่อชุดว่า T.I. vs. T.I.P. อัลบั้มนี้ก็สามารถขึ้นอันดับ 1 ชาร์ทอัลบั้มบนบิลบอร์ดได้อีกครั้ง ได้ร่วมงานกับ Jay-Z, Busta Rhymes, Wyclef Jean, Nelly, และ Eminem

ในปี 2008 ที.ไอ.ยังได้ร่วมงานกับมารายห์ แครี ในเพลง "I'll Be Lovin' U Long Time" ซึ่งเพลงนี้ถูกปล่อยออกมาเป็นซิงเกิลที่ 3 ในอัลบั้มของมารายห์ ต่อมาไม่นาน ที.ไอ. ได้ออกอัลบั้มใหม่ชื่อว่า Paper Trail ที่มีซิงเกิลแรก "Whatever You Like" กระโดดจากอันดับ 71 มาอันดับ 1 ในสัปดาห์ที่ 3 และถือเป็นซิงเกิลอันดับ 1 เพลงแรกของที.ไอ. บนบิลบอร์ด[3] อัลบั้ม Paper Trail วางขายเมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2008 ซึ่งมีความหมายถึงว่าเนื้อเพลงที่เขาเขียนนั้นเขียนลงบนกระดาษ อัลบั้มเข้าชาร์ทบิลบอร์ด 200 ที่อันดับ 1 ด้วยยอดขายในสัปดาห์แรกในอเมริกา 568,000 ชุด ซิงเกิลถัดมา "Live Your Life" ที่ได้ริฮันน่ามาร่วมร้อง เข้าชาร์ทบิลบอร์ดฮ็อต 100 กระโดดจาก 80 มาที่อันดับ 1 ทำลายสถิติเพลงเดิม.[4]

ปี 2014 ได้ซิงเกิ้ล No Mediocre เป็นซิงเกิ้ลหลัก ได้ อิกกี อาซาเลีย เด็กสร้างของ ที.ไอ. มาร่วมแจม และปล่อยอัลบั้ม Paperwork ภายใต้การดูแลของ Columbia และได้ผู้อำนวยการสร้างอย่าง ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ มาทำอัลบั้มนี้