ศาสนาพุทธ ของ ท้าวเวปจิตติ

ศาสนาพุทธเชื่อว่าท้าวเวปจิตติเป็นจอมอสูร อาศัยในเมืองสุทัศน์ บนยอดเขาพระสุเมรุ ต่อมาถูกมฆมานพซึ่งมาเกิดเป็นท้าวสักกะและบริวารมอมเหล้าจนไม่ได้สติ จึงถูกจับโยนลงมาอยู่ใต้เขาพระสุเมรุ ด้วยอำนาจบุญเก่าจึงเกิดเป็นเมืองใหม่ลักษณะเหมือนเมืองสุทัศน์ อยู่ใต้เขานั้นเป็นที่อาศัยของเหล่าอสูร พวกอสูรเข้าใจว่าตนยังอยู่บนเขาพระสุเมรุ จนเมื่อเห็นต้นแคฟอยในเมืองผลิดอก อสูรจึงระลึกได้ว่าตนเองอยู่ใต้เขา เพราะในเมืองสุทัศน์มีต้นปาริชาต[3] ท้าวเวปจิตติจึงแต่งกองทัพอสูรยกไปหมายจะชิงเอาเมืองสุทัศน์คืน เกิดเป็น "เทวาสุรสงคราม" (สงครามระหว่างเทพกับอสูร) ทั้งสองฝ่ายผลัดกันแพ้ชนะเรื่อยมา ฝ่ายใดแพ้ก็จะหนีกลับเข้าเมือง ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถตีเข้าเมืองได้ ต้องยกทัพกลับไป ทั้งสองเมืองจึงได้ชื่อว่าอยุชฌปุระ (เมืองที่ไม่มีใครรบชนะได้)

ท้าวเวปจิตติมีธิดาอยู่องค์หนึ่งคือพระแม่สุชาดา ต่อมากลายเป็นชายาเอกของท้าวสักกะ

ใกล้เคียง

ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร ท้าวเวสวัณ ท้าวเวปจิตติ ท้าวเมืองตน ท้าวเนมิราช ท้าวสุรนารี ท้าวทองกีบม้า (มารี กีมาร์) ท้าวนาง ท้าววนิดาพิจาริณี (บาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) ท้าวกุเวร