นกหวีด (
อังกฤษ: whistle หรือ call) เป็น
เครื่องเป่าลม ที่สร้างเสียงจากการไหลของอากาศ โดยทำให้เกิดลมเคลื่อนผ่านส่วนที่มีลักษณะเป็นใบแคบๆ (ฟิบเปิล, fipple) ทำให้เกิดเป็นลมหมุนวนจนกระทั่งอากาศสั่นสะเทือนกลายเป็น
คลื่นเสียง [1]เครื่องมือส่งเสียงในลักษณะเดียวกับนกหวีด มีมาตั้งแต่สมัยคริสต์สตวรรษที่สาม [
ต้องการอ้างอิง] ทหารยามจีนโบราณใช้การเป่าลมผ่านส่วนบนของเปลือกผล
โอค [2] ส่งเสียงแจ้งเตือนการโจมตีของข้าศึกชาว
มองโกล ส่วนชาว
อียิปต์โบราณ [
ต้องการอ้างอิง] ใช้ใบ
พาไพรัสสองใบประกบกันด้วย
ฝ่ามือ เป่าให้เกิดเสียงดัง นกหวีดที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ถือกำเนิดขึ้นโดยโจเซฟ และเจมส์ ฮัดสัน ชาวเมือง
เบอร์มิงแฮม ได้ประดิษฐ์นกหวีดทำด้วย
ทองเหลือง มีชื่อว่า "Acme City" ซึ่งได้ใช้โดย
ผู้ตัดสินในการแข่งขัน
ฟุตบอลเอฟเอคัพระหว่าง
นอตทิงแฮมฟอเรสต์กับ
เชฟฟิลด์ [3] เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 1878 แทนการใช้
ผ้าเช็ดหน้าที่ใช้มาแต่เดิม ต่อมาโจเซฟ ฮัดสันได้ค้นพบโดยบังเอิญว่า ถ้าบรรจุเมล็ดถั่วเล็กๆ ลงไป จะทำให้นกหวีดส่งเสียงดังไปได้ไกลกว่าเดิมมาก จึงเป็นต้นกำเนิดของนกหวีด "Acme Thunderer" ใช้ไม้
คอร์กกลมช่วยให้เกิดเสียงดัง
[4] ที่ใช้งานโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษ และกลายเป็นนกหวีดที่มีการใช้งานมากที่สุดจนถึงปัจจุบันในการแข่งขันกีฬา ปัจจุบันนิยมใช้นกหวีด "Fox 40" ที่ประดิษฐ์โดย รอน ฟ็อกครอฟต์ ชาว
แคนาดา ในปี 1987 เป็นนกหวีดที่ไม่มีการใช้ลูกไม้คอร์ก และแก้ปัญหาข้อผิดพลาดจากการชำรุดของนกหวีดแบบเดิม
[5]