พุทธศาสนา ของ นักพรตหญิง

ดูบทความหลักที่ ภิกษุณี แม่ชีตี่ละฉิ่นชาวพม่าในย่างกุ้ง

พระพุทธศาสนาทุกนิกายมีนักพรตหญิง แต่จะมีสถานะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ พระไตรปิฎกระบุว่าภิกษุณีเกิดขึ้นครั้งแรกหลังจากพระพุทธองค์ตรัสรู้ได้ 5 พรรษา โดยการประทานครุธรรมแปดประการแก่พระนางมหาปชาบดีโคตมีและเจ้าหญิงศากยะ 500 องค์ ณ เมืองเวสาลี การอุปสมบทแบบนี้เรียกว่า ครุธัมมปฏิคคหณูปสัมปทา ภายหลังทรงบัญญัติ อัฏฐวาจิกาอุปสัมปทาขึ้นใช้ในแทน คือให้ผู้ขอบวชได้รับจตุตถกรรม 2 ครั้ง คือจากฝ่ายภิกษุณีสงฆ์ก่อน แล้วจึงรับจากภิกษุสงฆ์ เมื่อครบแล้วจึงจะเป็นภิกษุณีโดยสมบูรณ์ ตามพระวินัยปิฎกเถรวาทกำหนดให้ภิกษุณีรักษาสิกขาบท 311 ข้อ ส่วนสามเณรและสามเณรีต้องรักษาศีล 10 ข้อ รวมทั้งเสขิยวัตรอีก 75 ข้อ รวมเป็นสิกขาบท 85

ปัจจุบันภิกษุณีสงฆ์คงเหลืออยู่แต่ในนิกายมหายานและวัชรยาน เพราะในนิกายเถรวาทสายภิกษุณีสงฆ์ซึ่งมีเฉพาะที่ลังกาได้ขาดช่วงสืบทอดไปตั้งแต่สมัยถูกโปรตุเกสยึดครอง[2] ทำให้ไม่สามารถทำการบวชภิกษุณีให้ถูกต้องตามพระไตรปิฎกเถรวาทได้ ปัจจุบันนี้สตรีในประเทศที่นับถือนิกายเถรวาทจึงเลือกบวชเป็นแม่ชีแทน และรักษาเพียงศีลแปดข้อ ในประเทศไทยแม่ชีหลายท่านยังสามารถก้าวขึ้นมามีบทบาทในด้านการสอนและปฏิบัติธรรมได้ไม่ต่างจากพระภิกษุ เช่น แม่ชีกนิษฐา วิเชียรเจริญ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต เป็นต้น ปัจจุบันในประเทศไทยมีความพยายามรื้อฟื้นภิกษุณีสงฆ์ในเถรวาท แต่ยังไม่ได้รับการยอมรับจากมหาเถรสมาคม