ประวัติ ของ นางเบญกาย

นางเบญกาย เป็นธิดาของพิเภก กับนางตรีชฎา[1][2][3] โดยพิเภกเป็นน้องชายของทศกัณฐ์[4] เบญกายจึงเป็นหลานลุงของทศกัณฐ์ด้วย

ทศกัณฐ์ผู้เป็นลุงได้สั่งให้เธอแปลงกายไปเป็นนางสีดาโดยทำเหมือนว่านางสีดาเป็นศพลอยตามน้ำยังหน้าพลับพลาของพระรามหวังทำลายขวัญและกำลังใจฝ่ายตรงข้าม เมื่อรับคำสั่งนั้นนางเบญกายจึงไปเฝ้าดูนางสีดาแล้วแปลงกายเป็นนางสีดาอย่างแนบเนียน แม้แต่ทศกัณฐ์เองก็จำไม่ได้ ดังปรากฏความตอนหนึ่ง ความว่า[2]

เมื่อนั้นนางเบญกายยักษี
เห็นพระราชาอสุรีเสด็จลงจากที่บัลลังก์ทรง
ด้วยได้เห็นรูปนางนิมิตคิดว่าสีดานวลหง
ดำเนินเข้ามาเคียงองค์ใหลหลงประโลมด้วยวาจา

จากนั้นนางก็ทำตามคำบัญชาของทศกัณฐ์ เมื่อพระรามเห็นศพนางสีดาลอยน้ำมาก็เสียใจมากที่ต้องมาสูญเสียนางอันเป็นที่รักไป พาลต่อว่าหนุมานที่เข้าไปเผากรุงลงกาในคราวนั้น ทศกัณฐ์คงเจ็บใจและสังหารนางสีดาทิ้งเสีย แต่หนุมานทูลให้พระรามเห็นพิรุธนานาประการ อาทิ ศพที่ลอยน้ำจะต้องเป็นศพที่เน่าเปื่อย และศพนางสีดานี้ลอยทวนน้ำขึ้นมานั้นผิดวิสัยของศพที่จะต้องลอยตามกระแสน้ำ จึงทูลขอศพนางสีดานั้นไปเผาไฟ นางเบญกายก็ทนร้อนไม่ไหวจึงกลับคืนร่างเดิมและเหาะขึ้นฟ้าไป แต่หนุมานก็เหาะตามไปจับตัวนางมาได้[1][2]

โทษของนางเบญกายนั้นถึงประหารชีวิต แต่เนื่องจากพระรามได้ทราบว่านางเบญกายเป็นบุตรสาวของพิเภกผู้มีความยุติธรรม จึงได้ปล่อยนางเบญกายไป โดยให้หนุมานไปส่งนางเบญกายที่กรุงลงกา แต่ระหว่างทางที่หนุมานพานางเบญกายไปส่งยังกรุงลงกานั้น หนุมานซึ่งมีจิตปฏิพัทธ์นางเบญกายแต่แรกที่พบกัน จึงได้เกี้ยวพาราสีนางจนได้นางเบญกายเป็นภรรยา[1][3][5]

ในคราวที่หนุมานมาปราบท้าวมหาบาลซึ่งบุกมาที่กรุงลงกา หนุมานได้เข้าไปพำนักกับนางเบญกายด้วย ทำให้ในเวลาต่อมา นางเบญกายได้ให้กำเนิดบุตรชายนามว่า อสุรผัด[1][3] มีหน้าเป็นวานร และมีกายเป็นยักษ์

ครั้นเมื่อทศกัณฐ์ทำพิธีตั้งอุโมงค์บำเพ็ญตบะ หนุมาน, สุครีพ และนิลนนท์ ได้รับมอบหมายให้ไปทำลายพิธี โดยนำน้ำล้างเท้าของนางเบญกายไปรดแผ่นหินที่ปิดปากอุโมงค์[2]