ประวัติตามท้องเรื่อง ของ นามิ

นามิเป็นต้นหนของเรือของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เธอเป็นตัวละครตัวแรกของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่โผล่มาในอนิเมะ เธอเป็นลูกเรือคนที่ 3 แต่หากนับการยอมร่วมกลุ่มแบบใจจริงเธอเป็นลูกเรือคนที่ 5 เนื่องจากเธอไม่ยอมรับการเป็นลูกเรือในตอนแรกแต่แค่ยอมร่วมมือด้วยเฉยๆ และเธอก็เป็นนักล่าสมบัติอีกด้วย นอกจากนี้เธอยังเป็นนักล้วงกระเป๋าที่ชำนาญมาก ๆ ด้วย สมญานาม "นางแมวขโมย"

นามิสามารถบ่งบอกความแตกต่างของอากาศได้ และ เข้าใจกระแสน้ำ ทำให้กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางหลุดพ้นจากอากาศแสนวุ่นวายของแกรนด์ไลน์ได้ แต่สำหรับการเดินเรือในแกรนด์ไลน์เธอไม่ชำนาญในบางเรื่อง เช่น เธอไม่ทราบว่าต้องใช้ ล็อกโพส หรือ เอเทอนอลโพสในการเดินทาง พึ่งมาทราบจากคำแนะนำของคร็อกคัสที่เฝ้าประภาคาร และ มนุษย์เงือก (แนะนำล็อกโพส3เข็ม) เธอมีนิสัยตระหนี่ และ มักชอบใช้งานลูกเรือคนอื่นให้ทำงานแทนเธอ ตอนเด็กเธอมีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อย เธอมีอยู่ 2 อย่างที่เธอชอบที่สุดนั่นคือ เงิน และ “Mikan” ซึ่งเป็นส้มชนิดหนึ่ง เพราะเธอรักเบลล์เมียร์ซึ่งคือแม่เลี้ยงของเธอ ความฝันของนามิคือการได้วาดแผนที่โลกที่สมบูรณ์แบบของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่สำเร็จ แผนที่แรกที่นามิวาดคือแผนที่ของเกาะที่หมู่บ้านโคโคยาชิอยู่

ลักษณะของนามิคือ มีรอยสักที่แขนด้านซ้ายของเธอ ซึ่งหมายถึง “Mikan” ซึ่งเป็นส้มชนิดหนึ่ง และเกวียน หมายถึงอดีตของเธอ ซึ่งตอนแรกจะเป็นรอยสักที่บ่งบอกว่าเป็นพวกของกลุ่มโจรสลัดอารอน เธอมีความสูง 169 เซนติเมตร สัดส่วน 36-22-36 อาจารย์โอดะเคยบอกว่านามิถูกเปรียบเทียบเหมือนกับแมว และสีที่บ่งบอกเกี่ยวกับเธอคือสีส้ม มีกลิ่นตัวเหมือนส้ม “Mikan” และ เงิน อาจารย์โอดะก็บอกด้วยว่า สิ่งที่นามิชอบกินที่สุดคือส้มและผลไม้ทุกชนิด

ในเรื่องของการต่อสู่ นามิไม่ชำนาญในด้านการต่อสู้เหมือนทุกคนในกลุ่ม แต่เธอก็ยังสามารถป้องกันตัวได้อย่างเล็กน้อยด้วยกระบองของเธอ และสามารถกำจัดโจรสลัดธรรมดาๆ หรือทหารเรือธรรมดาได้ แม้จะมีปัญหาเล็กน้อย เธอสามารถปล่อยพลังโจมตีที่ทั้งเร็วทั้งแรง และเมื่อเธออยู่ที่อลาบาสตาและหลังจากนั้น เธอใช้กระบองที่มีความสามรถเปลี่ยนสภาพอากาศอยู่ข้างในที่อุซปสร้างให้ ตอนแรกๆ กระบองถูกสร้างมาเพื่อใช้ในงานปาร์ตี้ แต่เมื่อนำท่าต่างๆ มาใช้ร่วมกันแล้ว นามิเปลี่ยนกระบองที่ใช้ในงานปาร์ตี้มาเป็นกระบองที่แสนอันตราย แต่หลังจากนั้น กระบองคุริมะได้กลายเป็น “กระบองคุริมะ ฉบับสมบูรณ์” ซึ่งกระบองนี้สามารถทำลายกลุ่มทหารเรือได้กลุ่มใหญ่เลย เทคนิคบางอย่าง คือ “ทันเดอร์โบลท์ เทมโป” ที่ใช้คูลบอลกับฮีทบอลผสมกันให้เป็นเมฆ และส่งทันเดอร์บอลไปบนเมฆทำให้เกิดสายฟ้าฟาดขนาดใหญ่และสามารถสร้างภาพมิราจ เป็นต้น แต่ต่อมาอีก 2 ปี นามิได้อยู่บนเกาะท้องฟ้าที่ใช้วิทยาศาสตร์ในการควบคุมสภาพอากาศกระบองคุริมะจึงเปลี่ยนเป็น "กระบองคุริมะซอคเซรี่" แล้วพอจบศึกเดรสโรซ่าอุซปได้ดัดแปลงให้กระบองคุริมะมีความสามารถที่ดียิ่งกว่าเดิม แต่อุซปลืมใส่ไป 1 อย่าง