พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก กรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิของสถาบันพระปกเกล้า อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม อดีตราชองครักษ์พิเศษ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อิยพระจุลจอมเกล้า เมื่อ พ.ศ. 2521 ( หลักสูตร 5 ปี ) ได้รับปริญญาตรีวิทยาศาสตร์บัณฑิต เป็นผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ทหารเสือราชินี ชลบุรี ปฏิบัติราชการสานมชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างรับราชการสอบชิงทุนไปศึกษาระดับชั้นนายร้อยทหารราบที่ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างเหตุการณ์ความไม่สงบ 1-3 เมษายน 2524 ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าชุดปฎิบัติการ " ทหารเสือราชินี " เมื่อ 2 เมษายน 2524 ราว 1030 น. ร้อยโท นิพัทธ์ ทองเล็ก ได้รับคำสี่งให้นำกำลังชุดปฎิบัติการพิเศษ 4 นาย เข้าควบคุมตัว พันเอกประจักษ์ สว่างจิตร และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายก่อการยึดอำนาจ ณ บริเวณที่ทำการ SEATO ( ปัจจุบัน คือ ที่ตั้งกระทรวงการต่างประเทศ ) ต่อมาสอบชิงทุนไปเรียนระดับชั้นนายพันที่ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อได้รับพระราชทานยศพันตรี พ.ศ. 2528 เข้าศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ได้รับคัดเลือกเป็นอาจารย์โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รับผิดชอบการสอนวิชาข่าวกรอง เรียบเรียงตำราวิชาข่าวกรองการเรียบเรียงหนังสือทำเนียบกำลังรบของกองทัพโซเวียต เอกสารหลักการรบของกองทัพเวียดนามเหนือ เพื่อแจกจ่ายในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ต่อมาสอบชิงทุนไปศึกษาต่อในโรงเรียนเสนาธิการทหารบกสหรัฐอเมริกา ฟอร์ตเลฟเวนเวิธ มลรัฐแคนซัส ( Fort Leavenworth , Kansas ) รุ่นปี คศ. 1989- 1990 และศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ด้านการบริหาร จากมหาวิทยาลัย Webster, รัฐ Missouriกลับมารับราชการในตำแหน่งอาจารย์โรงเรียนเสนาธิการทหารบก เมื่อติดยศ พันเอก ขอย้ายไปดำรงตำแหน่ง เสนาธิการ กรมทหารราบที่ 161 ซึ่งเป็นกองพลหนุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเตรียมใช้กำลังพลสำรอง หากมีภัยคุกคามจากกองทัพประเทศเพื่อนบ้าน[1] อดีตเจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม ตุลาการศาลทหารสูงสุด[2]เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 ถึง วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557 ในเหตุการณ์วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 ได้รับโปรดเกล้า ฯ เป็นปลัดกระทรวงกลาโหมเมื่อ 1 ตุลาคม 2556 ต่อมาเกิดการยึดอำนาจเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ต่อมาเมื่อ 24 พฤษภาคม 2557 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คลช. มีคำสั่งที่ 9/2556 ให้ย้ายจากปลัดกระทรวงกลาโหมไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี