ตัวอย่างจากนิราศนรินทร์ ของ นิราศนรินทร์

๑. ๏ ศรีสิทธิ์พิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์ จรรโลงโลกกว่ากว้าง แผนแผ่นผ้างเมืองเมรุ ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า แจกแสงจ้าเจิดจันทร์ เพียงรพิพรรณผ่องด้าว ขุนหาญห้าวแหนบาท สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน ส่ายเศิกเหลี้ยนล่งหล้า ราญราบหน้าเภริน เข็ญข่าวยินยอบตัว ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว ทุกไทน้าวมาลย์น้อม ขอออกอ้อมมาอ่อน ผ่อนแผ่นดินให้ผาย ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว เลี้ยงทแกล้วให้กล้า พระยศไท้เทิศฟ้า เฟื่องฟุ้งทศธรรม ท่านแฮ ๚ะ

๒.๏ อยุธยายศล่มแล้วลอยสวรรค์ ลงฤๅ
สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร-เจิดหล้า
บุญเพรงพระหากสรรค์ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ
บังอบายเบิกฟ้าฝึกฟื้นใจเมือง ๚ะ

(กรุงศรีอยุธยาแตกไปแล้ว แต่กลับลอยลงมาจากสวรรค์อีกหรืออย่างไร มีปราสาทพระราชวังอันงดงามตระการตา ด้วยบุญบารมีของพระมหากษัตริย์ช่วยทะนุบำรุงพระศาสนาให้รุ่งเรือง ปัดเป่าทุกข์ให้แก่ไพร่ฟ้าชาวประชา)

นักวรรณคดีมักเปรียบเทียบโคลงบทนี้ กับโคลงดั้นจากโคลงกำสรวล ซึ่งขึ้นบาทแรกด้วยสำนวนคล้ายกัน ดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็นบทชมพระนครเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ผู้แต่งอาจชื่นชมโคลงจากโคลงกำสรวล ซึ่งชื่นชมพระนครเมื่อครั้งยังรุ่งเรือง

๑. ๏ อยุธยายศยิ่งฟ้าลงดิน แลฤๅ
อำนาจบุญเพรงพระก่อเกื้อ
เจดียลอออินทรปราสาท
ในทาบทองแล้วเนื้อนอกโสรม ๚ะ
๗. ๏ อยุธยายศโยกฟ้าฟากดิน
ผาดดินพิภพดยวดอกฟ้า
แสนโกฎบยลยินหยากเยื่อ
ไตรรัตนเรืองรุ่งหล้าหลากสรรค ๚ะ
(โคลงกำสรวล)


นอกจากนี้ในโคลงหมายเลข ๒๒. ยังถือเป็นแม่แบบของโคลงสี่สุภาพบทหนึ่งด้วย


๒๒. ๏ จากมามาลิ่วล้ำลำบาง
บางยี่เรือราพลางพี่พร้อง
เรือแผงช่วยพานางเมียงม่าน มานา
บางบ่รับคำคล้องคล่าวน้ำตาคลอ ๚ะ


ด้วยโคลงบทนี้ใช้คำเอก 7 โท 4 และที่เหลือเป็นคำสุภาพทั้งหมด จึงใช้เป็นแม่แบบสำหรับการแต่งโคลงสี่สุภาพได้เป็นอย่างดี

ในตอนท้ายๆ ผู้แต่งยังได้เอ่ยถึงวรรณคดีรุ่นเก่าอีกสองเรื่อง คือ กำสรวลศรีปราชญ์ และทวาทศมาส ซึ่งเป็นนิราศคำโคลงเช่นเดียวกัน

๑๒๔. ๏ กำสรวลศรีปราชญ์พร้องเพรงกาล
จากจุฬาลักษณ์ลาญสวาทแล้ว
ทวาทศมาสสารสามเทวษ ถวิลแฮ
ยกทัดกลางเกศแก้วกึ่งร้อนทรวงเรียม ๚ะ

โคลงบทสุดท้าย (๑๔๔) ผู้แต่งได้ระบุชื่อตนเอาไว้ด้วย ดังนี้

๑๔๔. ๏ โคลงเรื่องนิราศนี้นรินทร์อิน
รองบาทบวรวังถวิลว่าไว้
บทใดปราชญ์ปวงฉินเชิญเปลี่ยน แปลงพ่อ
ปรุงเปรียบเสาวคนธ์ไล้เลือกลิ้มดมดู ๚ะ