ประวัติ ของ นิเชา

นิเชาเป็นคนในชนเผ่าซาน (San) หรือรู้จักในชื่อบุชเม็น (Bushmen) เขาสามารถพูดภาษา Juǀʼhoan, ภาษาเฮเรโร, และภาษา Tswana ได้เป็นอย่างดี และพูดภาษาแอฟริคานส์ได้บ้าง[3] นิเชาไม่ทราบอายุที่แท้จริงของตัวเอง[2][3] ก่อนหน้าที่เขาจะปรากฏตัวในภาพยนตร์ เขามีประสบการณ์การใช้ชีวิตสมัยใหม่เพียงเล็กน้อย เช่น เขามีโอกาสได้พบคนผิวขาวเพียงสามคนเท่านั้นก่อนเข้าวงการ[2] และเขาไม่รู้จักค่าของธนบัตร รายได้จากการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก เทวดาท่าจะบ๊องส์ เขาก็ปล่อยทิ้งให้ปลิวไปกับลม[2][3] เขาได้ค่าตัวจากภาพยนตร์ เทวดาท่าจะบ๊องส์ เพียงไม่กี่ร้อยดอลลาร์สหรัฐ แต่ภาพยนตร์เรื่องต่อมาเขาก็เจรจาเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนสูงขึ้น และถึงแม้เขาจะได้รับรายได้ที่เพียงพอ[2] เขาก็ไม่มีความสามารถในการจัดการรายได้[3] แม้ว่าเขาใช้เงินบางส่วนซื้ออิฐมาสร้างบ้าน ต่อน้ำประปาและไฟฟ้าให้ครอบครัว[2]

นอกจาก เทวดาท่าจะบ๊องส์ (The Gods Must Be Crazy) นิเชายังมีผลงานภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง อาทิ เทวดาท่าจะบ๊องส์ 2 (The Gods Must Be Crazy II), เทวดาท่าจะบ๊องส์ ภาคพิสดาร (Crazy Safari), Crazy Hong Kong และ The Gods Must Be Funny in China ครั้งหนึ่ง นิเชาเคยเป็นนายแบบโฆษณาให้กับกระเบื้องห้าห่วงที่ประเทศไทย โดยมีบทพูดเป็นภาษาไทยว่า "ห้าห่วง ทนหายห่วง" หลังจากเขาเลิกอาชีพนักแสดง เขากลับนามิเบียเพื่อไปทำไร่ข้าวโพด ฟักทอง ถั่ว และเลี้ยงวัวควาย นิเชาเสียชีวิตวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 จากวัณโรคที่ดื้อยาหลายขนาน ซึ่งติดโรคมาจากการล่าสัตว์[3] ชนพื้นเมืองประกอบพิธีฝังศพของนิเชาเมื่อ 12 กรกฎาคม ที่ Tsumkwe ถัดจากหลุมศพภรรยาคนที่สอง[3]