อาชีพ ของ นี-โย

1998-2005: เริ่มงานเพลง

นี-โย เป็นที่รู้จักครั้งแรกในวงการเพลงในฐานะสมาชิกวงจากลาสเวกัส 4 คนที่ชื่อ เอนวี[11] หลังจากแตกวงไปในปี 2000 นี-โยเซ็นสัญญากับค่ายโคลัมเบียเรเคิดส์ แต่หลังจากบันทึกเสียงอัลบั้มชุดแรก ทางค่ายก็ยกเลิกผลงานชิ้นนี้ ก่อนที่จะได้วางจำหน่าย[12] มากส์ ฮิวสตัน นักร้องอเมริกันได้มีโอกาสฟังเพลงของนี-โย "แดตเกิร์ล" ที่คาดว่าจะเป็นซิงเกิลเปิดตัวของอัลบั้มที่ไม่ได้ออกวางขายของนี-โย ฮิวสตันได้นำเพลงนี้มาบันทึกเสียงใหม่และออกซิงเกิลนี้ ซึ่งก็บรรจุอยู่ในอัลบั้มชุด เอ็มเอช[11] การออกเพลงนี้ ทำให้นี-โย เป็นที่รู้จักในฐานะนักแต่งเพลง และยังทำให้เขาตัดสินใจที่จะเขียนเพลงให้กับศิลปินอื่นต่อไป[11]

และในอีก 2 ปี ในชีวิตวัยรุ่นของ นี-โย เขาก็ยังเขียนเพลงต่อไป ซึ่งบางเพลงก็ไม่ได้ออกอย่างเป็นทางการ[11] เขาแต่งหลาย ๆ เพลงให้กับนักร้อง ทีดรา มอเซส ในอัลบั้มปี 2004 ชุด คอมเพล็กซ์ซิมพลิซิตี, เพลงในอัลบั้ม อิตส์อะเบาต์ไทม์ ของคริสตินา มิเลียน และแต่งเพลงให้วงบอยแบนด์สัญชาติอเมริกา วงยังสทาวน์[13] แต่ที่กล่าวมาก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร[11] นี-โย ยังแต่งเพลงให้กับ นักร้องชาวอเมริกัน แมรี เจ. ไบลจ์, บีทูเค, เฟธ อีแวนส์ และมิวสิก โซลไชลด์[14]

จน นี-โย เป็นที่รู้จักในฐานะนักแต่งเพลงหลังจากแต่งเพลง "Let Me Love You" ให้มาริโอ ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ยาวนานถึง 9 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเพลงที่เล่นบ่อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา[15][13] หลังจากความสำเร็จครั้งนี้ ทีนา เดวิส อดีตผู้จัดหาศิลปิน (A&R) ของค่ายเดฟแจม ได้จัดประชุมกับหัวหน้าค่าย คือ แอล.เอ. รีด [11] เดิมที นี-โย ไม่ได้รับทำสัญญาใหม่ แต่เมื่อเขาแสดงความสามารถให้พวกเขาเห็น เขาก็ได้เซ็นสัญญากับศิลปินฮิปฮอป เจย์-ซี ที่ต่อมาคือกรรมการผู้จัดการของค่ายเดฟแจม[12][14]

2006-2007:อินมายโอนเวิดส์ และบีคอสออฟยู

ต้นปี 2006 นี-โย ออกผลงานอัลบั้มแรกชุด อินมายโอนเวิดส์ กับค่ายเดฟแจม มีเพลงดังในซิงเกิลที่สองของอัลบั้มอย่างเพลง "โซซิก" ที่อัลบั้มวางขายและเข้าชาร์ตบิลบอร์ด 200 ที่อันดับ 1 ด้วยยอดขายกว่า 301,000 ชุดในสัปดาห์แรก[16] และในสัปดาห์เดียวกันนี้ ซิงเกิล "โซซิก" ก็ขึ้นไปถึงอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100[15] และต่อมาเมื่อออกซิงเกิล "เว็นยัวร์แมด" และ "เซ็กซีเลิฟ" ก็ขึ้นชาร์ตไปได้สูงสุดที่อันดับ 15 และอันดับ 7 ตามลำดับ[17] อัลบั้มมีได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาวจากสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา (อาร์ไอเอเอ) ด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านชุด[18]

นี-โย ประชาสัมพันธ์ผลงานในอัลบั้ม บีคอสออฟยู

ผลงานอัลบั้มที่ 2 ชุด บีคอสออฟยู ออกวางขายเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 เปิดตัวที่อันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ด 200 ด้วยยอดขาย 251,000 ชุดในสหราชอาณาจักร ซึ่งถือว่าเป็นอัลบั้มอันดับ 1 ชุดที่ 2 ของนี-โย[19] ซิงเกิลแรกจากอัลบั้มรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาวนี้ มีชื่อเดียวกับอัลบั้ม ขึ้นชาร์ตสูงสุดที่อันดับ 2[17] แม้อัลบั้มประสบความสำเร็จจากเพลง "บีคอสออฟยู" แต่ซิงเกิลต่อมาติดอันดับชาร์ตไม่สูงนักและไม่สามารถติดใน 20 อันดับแรกบนชาร์ตได้[17] อัลบั้มได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาวจากอาร์ไอเอเอ ด้วยยอดขายมากกว่า 1 ล้านชุด[18] เอนเทอร์เทนเมนต์วีกลี วิจารณ์อัลบั้มนี้ไว้ว่า "อัลบั้มชุดนี้เป็นความพยายามที่ไม่ผิดพลาด ที่มุ่งไปในทางผลงานยุคแรกของไมเคิล แจ็กสัน"[20] ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2007 นี-โยและกู กู ดอลส์ ในคอนเสิร์ตหารายได้เพื่อผู้สมัครประธานาธิบดี บารัก โอบามา ในขณะนั้น[21]

2008-2010:เยียร์ออฟเดอะเจนเทิลแมน และ ไลบราสเกล

ผลงานอัลบั้มชุดที่ 3 ของนี-โย ชุด เยียร์ออฟเดอะเจนเทิลแมน ออกวางขายเมื่อวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 2008 นี-โยอธิบายกับนักเขียน พีต ลูอิส จากนิตยสารบลูส์แอนด์โซล เกี่ยวกับแนวคิดของชื่ออัลบั้มนี้ว่า "สำหรับผม เยียร์ออฟเดอะเจนเทิลแมน เป็นอัลบั้มเกี่ยวกับภาพลักษณ์ ของล้ำค่า และเสน่ห์ ผมทำการประเมินธุรกิจดนตรี และในความเห็นส่วนตัวของผมนั้น ขณะนี้ แก่นของความเป็นสุภาพบุรุษเริ่มขาดหายไป ทุกคนดูเหมือนกันไปหมด ทุกคุณทำเหมือนกันไปหมด ทุกคนหยาบคายและหลงตัวเอง ขณะที่สุภาพบุรุษต้องใจเย็น สุภาพ ใจดี มีเสน่ห์ ดังนั้นชื่ออัลบั้มจึงเป็นตัวแทนผมที่พยายามเป็นตัวอย่าง และแสดงให้คนเหล่านั้นเห็นว่าจะเป็นสุภาพบุรุษได้อย่างไรในธุรกิจเช่นนี้"[22]

อัลบั้มขายได้ 250,000 ชุดในสัปดาห์แรกในสหรัฐอเมริกา เปิดตัวบนชาร์ตบิลบอร์ด 200 ที่อันดับ 2[23] คำวิจารณ์ของอัลบั้มนี้เป็นในทางบวก หนึ่งในนั้น คารีน แกนซ์ จากนิตยสาร โรลลิงสโตน เขียนไว้เกี่ยวกับอัลบั้ม เยียร์ออฟเดอะเจนเทิลแมน ว่า "มีแนวคิดอัลบั้มที่ดีเลิศ เกี่ยวกับการเป็นเพื่อนชายที่ยอดเยี่ยม ที่เขา (นี-โย) สามารถเป็นได้"[24] นิตยสารไวบ์ เขียนวิจารณ์ผลงานอัลบั้มนี้ไว้ว่า "เป็นอัลบั้มที่ได้รับอิทธิพลบางส่วนจากเพลงป็อปร่วมสมัย อย่าง เดอะบีทเทิลส์และบิลลี โจเอล"[25]

ซิงเกิล 2 ซิงเกิลแรก "โคลเซอร์" และ "มิสอินดีเพนเดนต์" ขึ้นชาร์ตสูงสุดอันดับ 7 ในบิลบอร์ดฮอต 100 อัลบั้มนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ในสาขา อัลบั้มอาร์แอนด์บีร่วมสมัยยอดเยี่ยมและอัลบั้มยอดเยี่ยม ในปี 2009 และ "โคลเซอร์" ยังเข้าชิงในสาขาผลงานนักร้องชายแนวป็อปยอดเยี่ยม และ "มิสอินดีเพนเดนต์" ได้เข้าชิงผลงานนักร้องชายแนวอาร์แอนด์บีและเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม[26] เยียร์ออฟเดอะเจนเทิลแมน ยังได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาวจากอาร์ไอเอเอ ด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านชุด[18]

อัลบั้ม ไลบราสเกล วางจำหน่ายวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์แต่ล้มเหลวในเชิงพาณิชย์ อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับ 9 บนชาร์ตบิลบอร์ด 200 ขายได้น้อยกว่าอัลบั้มสามอัลบั้มที่แล้ว นี-โยกล่าวว่า "อัลบั้มมีเนื้อเรื่องตามเรื่องสั้นของตัวละครสามตัวที่ถูกบังคับให้เลือกระหว่าง เงิน อำนาจ และชื่อเสียง กับความรัก ซึ่งเป็นเหตุที่ผมเรียกชุดนี้ว่า 'ไลบราสเกล' คุณรู้ไหม แนวคิดของมันตั้งอยู่บนคำถามเกี่ยวกับศีลธรรม ซึ่งถ้าคุณชั่งน้ำหนักสิ่งเหล่านั้นบนตาชั่ง คุณจะเลือกสิ่งไหน"[27] อัลบั้มไลบราสเกลขายได้ 112,000 ชุดในสัปดาห์แรก ในสหราชอาณาจักร อัลบั้มเปิดตัวอันดับ 11 บนชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร ขณะที่เปิดตัวอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงอาร์แอนด์บีของสหราชอาณาจักร

2011-2012:อาร์.อี.ดี.

นี-โย ในห้องอัดเสียง ค.ศ. 2011

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 ขณะทัวร์ในสหราชอาณาจักร เขากล่าวว่าอัลบั้มใหม่มีชื่อว่า เลิฟแอนแพสชัน และจะออกในเดือนกันยายน แต่ที่กล่าวมาไม่เป็นความจริงเนื่องจากชื่ออัลบั้มยังไม่ยืนยัน แร็ปเปอร์ชาวอเมริกัน แฟโบลัส ให้สัมภาษณ์ว่าเขาวางแผลทำอัลบั้มร่วมกับนี-โยด้วย นี-โยยังเคยเขียนเพลงในอัลบั้มใหม่ของแมรี เจ. ไบลจ์ เจบี บียอนเซ่ โมนิกา อเล็กซานดรา เบิร์ก เชอริล โคล และวิลโลว์ สมิธ นี-โยแสดงในภาพยนตร์ 2 เรื่อง ได้แก่ เสืออากาศผิวสี ออกฉายต้นปี ค.ศ. 2012 และวันยึดโลก ออกฉายในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2011 นี-โยเขียนเพลงให้นักร้องป็อปชาวอเมริกัน สังกัดร็อกเนชัน ชื่อ อเล็กซิส จอร์แดน ในอัลบั้มแรกของเธอ และอัลบั้มที่สองของเจนนิเฟอร์ ฮัดสัน ชื่อ ไอรีเมมเบอร์มี ที่วางขายในอเมริกาเหนือในวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 2011 นี-โยปรากฏในรายการเด็ก เดอะเฟรชบีตแบนด์ และเป็นหนึ่งในศิลปินที่ไม่ยกเลิกคอนเสิร์ตหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น ค.ศ. 2011[28]

ในฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 2011 นี-โยร่วมร้องในเพลง "กิฟมีเอฟรีทิง" กับแร็ปเปอร์ชาวอเมริกัน พิตบูล และเนเยอร์ ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 กลายเป็นซิงเกิลอันดับหนึ่งเพลงที่สองของนี-โย และเป็นเพลงแรกในฐานะนักร้องรับเชิญ นี-โยเปิดเผยในบทสัมภาษณ์ว่าเขาอยากร่วมงานกับคริส บราวน์ ลิล เวย์น และเดรก ในอัลบั้มถัดไป

นี-โยร้องเพลงจากอัลบั้ม อาร์.อี.ดี. ใน ค.ศ. 2012

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2012 มีรายงานว่านี-โย และสังกัดของเขา คอมพาวด์เอนเตอร์เทนเมนต์ ย้ายจากค่ายเดฟแจมเรคอร์ดิงส์ ไปโมทาวน์เรเคิดส์[29][30] เขานัดพบกับรองประธานอาวุโสของฝ่ายจัดหาศิลปินของค่ายที่เขาจะรับหน้าที่ "โปรดิวเซอร์เพลงและผู้ดูแลนักร้องในสังกัด และมองหานักร้องหน้าใหม่ที่มีพรสวรรค์เข้าสังกัด"[31] นี-โยคาดว่าจะออกสตูดิโออัลบั้มที่ห้าชื่อ อาร์.อี.ดี. (ย่อจาก "Realizing Every Dream") ในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2012[32][33] เดิมอัลบั้มมีชื่อว่า เดอะแคร็กส์อินมิสเตอร์เพอร์เฟกต์[34] ซิงเกิลแรกชื่อ "เลซีเลิฟ" ออกขายในวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 2012[35] ขึ้นอันดับ 42 ในชาร์ตฮอตเพลงอาร์แอนด์บี/ฮิปฮอปของบิลบอร์ด ซิงเกิล "เล็ตมีเลิฟยู (อันทิลยูเลิร์นทูเลิฟยัวร์เซลฟ์)" ร่วมแต่งโดยนักร้องนักแต่งเพลงชาวออสเตรเลีย เซีย เฟอร์เลอร์ ออกขายในวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 2012

ในวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 2012 นี-โยร่วมกับนักร้องอาร์แอนด์บี เมลานี ฟิโอนา ในคอนเสิร์ตฉลองวันคล้ายวันเกิด 54 ปีของไมเคิล แจ็กสัน ในชื่อ เอ็มเจเบิร์ธเดย์คอนเสิร์ต ได้รับการสนับสนุนโดยเป๊ปซี่และนิตยสารบิลบอร์ด เขาร้องเมดเลย์เพลงดัง รวมถึงเพลง "เดอะเวย์ยูเมกมีฟีล" "สมูทคริมินัล" "ไอจัสต์คานต์สต็อปเลิฟวิงยู" จากอัลบั้ม แบด ของไมเคิล แจ็กสัน เพื่อเตรียมออกอัลบั้ม แบด 25 ในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2012 คอนเสิร์ตจัดขึ้นที่ก็อตแฮมฮอลล์ ในนครนิวยอร์ก[36] อัลบั้ม อาร์.อี.ดี. วางขายวันที่ 5 พฤศจิกายน ในสหราชอาณาจักร และวันที่ 6 พฤศจิกายน ในอเมริกาเหนือ[37]

ใน ค.ศ. 2012 นี-โยได้รับรางวัลฮัลเดวิดอะวอร์ดสาขาหอเกียรติยศนักแต่งเพลง ที่มอบให้แก่นักแต่งเพลงที่มีพรสวรรค์ที่ถึงจุดสุดยอดในอาชีพ และสร้างอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมดนตรีด้วยเพลงต้นฉบับ[38]

2013-ปัจจุบัน: นอนฟิกชัน และ กูดแมน

ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2013 นี-โยร่วมงานกับเอค่อนในซิงเกิล "เพลย์ฮาร์ด" ของเดวิด เกตตา จากอัลบั้มนัตทิงบัตเดอะบีต 2.0 ในเดือนเมษายน นี-โยร่วมงานกับเชอร์ ลอยด์ ในซิงเกิล "อิตส์ออลกูด" ซึ่งต่อมาได้ประกอบภาพยนตร์โฆษณาไอศกรีมฟรุตทาเร่ ในคราวเดียวกัน เขาและเซลีน ดิออน บันทึกเพลง "อินเครดิเบิล" ใส่อัลบั้ม เลิฟด์มีแบ็กทูไลฟ์ "อินเครดิเบิล" ออกเป็นซิงเกิลในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 และมิวสิกวิดีโอเริ่มฉายในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2014

ในวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 นี-โยกล่าวว่าสตูดิโออัลบั้มที่หกจะมีชื่อว่า นอนฟิกชัน ในวันเดียวกันนั้น เขาออกซิงเกิลใหม่ "มันนีคานต์บาย" ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2014 นี-โยส่งซิงเกิลแรกเข้าคลื่นวิทยุในชื่อ "ชีโนส์" ร้องรับเชิญโดยจูซี เจ หลายเดือนต่อมา นี-โยประกาศว่าอัลบั้ม นอนฟิกชัน จะวางขายวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2015 ในอัลบั้ม นี-โยได้ร่วมงานกับพิตบูลและชาริส มิลส์ อัลบั้มขึ้นอันดับที่ 5 บนชาร์ตบิลบอร์ด 200

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2015 นี-โยร่วมงานกับดิมิทรีเวกัสแอนด์ไลก์ไมก์ในเพลงใหม่ชื่อ "ไฮเออร์เพลซ" เป็นเพลงประจำเทศกาลทูมอร์โรว์แลนด์[39] ในปี ค.ศ. 2016 นี-โยร่วมงานกับยูเนลและเจ อัลวาเรซ ในซิงเกิล "ซีนมีเอโด" ออกจำหน่ายในวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 และร่วมงานกับไดมอนด์แพลตนัมซ์ ในซิงเกิล "แมร์รียู" ออกจำหน่ายในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017

ในวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 นี-โยออกซิงเกิล "เอิร์นยัวร์เลิฟ" จากอัลบั้มที่เจ็ด และประกาศว่าอัลบั้มใหม่จะวางจำหน่ายในปี ค.ศ. 2017[40][41] ซิงเกิล "อะนาเธอร์เลิฟซอง" ออกจำหน่ายในวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2017[42]

ใกล้เคียง

นี-โย นีโม...ปลาเล็ก หัวใจโต๊...โต นีโอมัยซิน นโยบายการขอรับลงตราของประเทศไทย นีโครโนมิคอน นีโก วิลเลียมส์ นีโอดิเมียม นโยบายไวต์ออสเตรเลีย นีโอบอมเบอร์แมน นีโค ร็อสแบร์ค

แหล่งที่มา

WikiPedia: นี-โย http://www.soulshine.ca/news/newsarticle.php?nid=4... http://www.accessmylibrary.com/coms2/summary_0286-... http://www.allmusic.com/artist/ne-yo-p737022 http://www.billboard.com/articles/columns/hip-hop/... http://www.billboard.com/articles/columns/the-juic... http://www.billboard.com/bbcom/esearch/article_dis... http://www.billboard.com/bbcom/esearch/article_dis... http://www.billboard.com/bbcom/esearch/article_dis... http://www.billboard.com/bbcom/news/article_displa... http://www.billboard.com/bbcom/news/article_displa...