ค่าน้ำประปา ของ น้ำประปา

อัตราค่าน้ำประปาในประเทศไทย ของการประปานครหลวง จะคำนวณตามหน่วยของน้ำที่ใช้ โดย 1 หน่วย = 1,000 ลิตร โดยแต่ละเดือน ตัวเลขในมาตรวัดน้ำจะถูกจด โดยเศษของหน่วยจะถูกตัดทิ้ง แต่จะสมทบไปในการคิดค่าน้ำเดือนถัดไป เช่น เดือนแรก ใช้ 2.7 หน่วย (2,700 ลิตร) ค่าน้ำเดือนแรกจะคิด 2 หน่วย อีก 0.7 หน่วย จะทดในเดือนถัดไป เช่นเดือนที่สอง ใช้ 2.5 หน่วย (2,500 ลิตร) ค่าน้ำจะคิด 2.5 + 0.7 = 3.2 หน่วย คิดค่าน้ำ 3 หน่วย อีก 0.2 ทดไปเดือนถัดไป เป็นต้น

  • ค่าน้ำตามจำนวนหน่วยที่ใช้ ในส่วนนี้ จะแบ่งการคิดคำนวณออกเป็น 2 ส่วน คือ R1 สำหรับเคหสถานประเภทที่อยู่อาศัย และ R2 สำหรับเคหสถานประเภทธุรกิจ ราชการ รัฐวิสาหกิจ อุตสาหกรรม และอื่นๆ
หน่วยที่ค่าน้ำ R1 (บาท/หน่วย)ค่าน้ำ R2 (บาท/หน่วย)
1-108.509.50
11-2010.70
21-3010.95
31-4010.0313.21
41-5010.3513.54
51-6010.6813.86
61-7011.0014.19
71-8011.33
81-9012.5014.51
91-10012.82
101-12013.1514.84
121-16013.4715.16
161-20013.8015.49
201 ขึ้นไป14.4515.81

ทั้งนี้ มีค่าน้ำขั้นต่ำ คือ 45 บาท สำหรับ R1 และ 90 บาท สำหรับ R2

  • ค่าน้ำดิบ คิดในอัตราคงตัว หน่วยละ 0.15 บาท
  • ค่าบริการรายเดือน คิดตามขนาดมาตรวัดน้ำ โดยจะมีขนาดมาตรวัดน้ำ 11 ขนาด ซึ่งขนาดที่เล็กลง จะทำให้น้ำไหลเข้าถังน้ำช้าลง แต่ค่าบริการรายเดือนจะถูกลงด้วย การเลือกขนาดมาตรวัดน้ำจึงควรเลือกให้เหมาะสม หากเลือกขนาดมาตรใหญ่เกินไป จะเป็นการเสียค่าบริการมากเกินไปโดยใช่เหตุ แต่ถ้าเล็กเกินไป น้ำอาจไหลเข้าถังน้ำน้อยกว่าความต้องการของอาคารได้ ค่าบริการรายเดือนของมาตรแต่ละขนาดเป็นดังนี้
ขนาดมาตรวัดน้ำ (นิ้ว)ค่าบริการรายเดือน (บาท/เดือน)
0.525
0.7540
150
1.580
2300
3400
4500
6900
81,100
123,500
165,000
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม คำนวณจาก ค่าใช้จ่ายใน 3 ส่วนแรก รวมกัน แล้วคูณด้วย 0.07
บทความนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยเพิ่มข้อมูล