เรื่องย่อ ของ บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร

เนื้อหาส่วนนี้เข้าข่ายว่าอาจละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจคัดลอกมาจากแหล่งข้อมูลอื่น โปรดช่วยกันตรวจสอบลิขสิทธิ์
หากคุณเป็นผู้เขียนต้นฉบับเดิมและต้องการเผยแพร่ในวิกิพีเดีย ให้เขียนคำอธิบายในหน้าอภิปรายแล้วนำป้ายนี้ออกได้
กรุณาศึกษาวิธีเขียนไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์ หากคุณทราบว่าเนื้อหาส่วนนี้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้ลบเนื้อหาดังกล่าวออก

ละครเรื่องนี้สร้างขึ้นจากชีวิตจริงของเด็กสาวชาวญี่ปุ่นวัยสิบห้าปีชื่ออะยะ คิโต ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสียการประสานงานจากสมองน้อยและไขสันหลัง ซึ่งเป็นโรคที่ไร้หนทางเยียวยา กระทั่งตายเมื่อวัยยี่สิบห้า บทละครอ้างอิงบันทึกประจำวันที่อะยะเขียนขึ้นกระทั่งไม่สามารถจับปากกาอีกต่อไปได้

ละครเริ่มต้นจากสมัยที่อะยะกำลังจะสอบเข้าโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เธอนั่งหลับบนรถจนเลยโรงเรียนไปเกือบจะเข้าสอบไม่ทัน อะยะต้องวิ่งสุดชีวิตเพื่อไปเข้าสอบให้ทันและระหว่างนั้นได้ไปพบกับฮะรุโตะ (Haruto Aso) ซึ่งกำลังคิดจะไม่เข้าสอบอยู่พอดี แต่ด้วยความสงสารอะยะจึงต้องถีบจักรยานไปส่งเธอที่สนามสอบท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ผลปรากฏว่าในที่สุดทั้งสองคนจึงได้เข้าสอบและผ่านเข้าไปเรียนในชั้นเรียนเดียวกัน เนื่องจากทั้งสองเป็นนักเรียนหญิงและนักเรียนชายที่เป็นชื่อแรกของห้องเรียน ทั้งสองจึงถูกคุณครูเลือกให้เป็นตัวแทนของชั้นเรียนในการประสานงานกิจกรรมของห้อง

ความผิดปกติค่อยๆ เกิดขึ้นกับอะยะทีละเล็กทีละน้อยมีแต่มารดาของอะยะซึ่งมีอาชีพในการให้คำปรึกษาสุขภาพเท่านั้นที่สังเกตรับรู้ได้ แม่ของอะยะเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบและเอาใจใส่ครอบครัว เธอพบว่าหลายครั้งที่อายะล้มนั้นจะไม่เอามือยันพื้นเหมือนคนทั่วไป ตลอดจนการหยิบจับสิ่งของก็ไม่ถนัดนัก เคยคีบอาหารหล่นอยู่บ่อยๆ และรินเหล้าหกใส่คุณพ่อในวันสำคัญ จนกระทั่งวันหนึ่งอะยะล้มลงอย่างแรงขณะวิ่งไปโรงเรียนยามเช้า คางแตกเพราะกระแทกถนน มารดาของอะยะจึงรุดพาตัวไปโรงพยาบาลและถือโอกาสนี้ในการตรวจหาสาเหตุที่เกิดขึ้น

งานชิ้นแรกที่อะยะและฮะรุโตะได้รับมอบหมายนั้นก็คือการประกวดร้องเพลงประสานเสียง ฮารุโตะแรกเริ่มนั้นมีท่าทีเย็นชาและไม่สุงสิงกับผู้คนจึงไม่ร่วมมือกับอะยะเท่าที่ควร อะยะต้องรับบทผู้อำนวยเพลงถือไม้บาตองกำกับการร้องประสานเสียงของชั้นเรียน ระหว่างที่การฝึกซ้อมดำเนินไป อะยะก็ต้องเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลประกอบกันไป บางครั้งในการฝึกซ้อมอาการของโรคได้กำเริบขึ้นมาจนผิดสังเกตจนอายะพลั้งทำโน้ตเพลงหล่นกระจัดกระจายทั่วพื้นห้อง แต่ก็ไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้น วันสุดท้ายก่อนการแสดงนั้นพ่อแม่ของอะยะไปที่โรงพยาบาลและรับทราบแล้วว่าอะยะป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสียการประสานงานจากสมองน้อยและไขสันหลังซึ่งเป็นโรคที่ไม่อาจรักษาให้หายได้ แต่อะยะยังไม่รู้ความจริงดังกล่าวนี้และยังขึ้นอำนวยเพลงอย่างเต็มภาคภูมิอย่างคนปกติเป็นครั้งสุดท้าย

หลังจากนั้นเมื่อเธอทราบความจริงเกี่ยวกับโรคร้ายและอาการของโรคได้ปรากฏเด่นชัดขึ้น ความรักครั้งแรกกับรุ่นพี่ ยุจิ คะวะโมะโตะ (Yuji Kawamoto) ในโรงเรียนก็ค่อยๆ สิ้นสุดลง เพราะรุ่นพี่หลีกเลี่ยงที่จะคบกับเธอที่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ ในทางตรงข้ามฮะรุโตะที่เคยเป็นคนเฉยเมยไม่ไม่ใส่ใจใครก็กลับมาเอาใจใส่เธอมากขึ้น ครั้งหนึ่งรุ่นพี่คนนี้ทอดทิ้งให้อะยะต้องรอท่ามกลางสายฝนที่สวนสัตว์แต่ฮะรุโตะก็รู้ว่ารุ่นพี่จะไม่มาจึงได้ไปพาอะยะกลับโรงพยาบาล จากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็แนบแน่นขึ้นเป็นลำดับ

อะยะได้เรียนรู้ว่าฮะรุโตะไม่ใช้คนเย็นชาอย่างไม่มีเหตุผล แต่เป็นเพราะพี่ชายของเขาได้เสียชีวิตไปอย่างกะทันหันทำให้เขาหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตและเคยคุยกับอะยะว่ามนุษย์นี่เห็นแก่ตัวที่อยากจะมีชีวิตอยู่ไปไม่รู้จักจบสิ้นในขณะที่พืชและสัตว์ดูเหมือนจะมีช่วงชีวิตของมัน ครั้งหนึ่งอะยะถึงกับถามฮะรุโตะว่าชีวิตใครจะเป็นจะตายมันไม่สำคัญกับเขาเลยหรือ ฮะรุโตะในตอนนั้นก็ตอบว่าไม่ แต่ต่อมาฮะรุโตะจึงได้เรียนรู้ความหมายของการดำรงอยู่นี้จากอะยะและตั้งใจเล่าเรียนเพื่อเป็นแพทย์ในอนาคต นับแต่ได้มาพบกับอะยะ ฮะรุโตะได้เปลี่ยนแปลงตนเองจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตั้งใจค้นคว้าตำราการแพทย์เจริญรอยตามบิดาที่เป็นอาจารย์แพทย์ประจำมหาวิทยาลัยโจนัน

แม้ว่าอาการของอะยะจะยิ่งทรุดลงแต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ยิ่งแนบแน่นขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งอะยะก็ไม่สามารถอยู่ที่โรงเรียนของคนปกติได้อีกต่อไปเธอต้องตัดสินใจย้ายไปเรียนที่โรงเรียนของผู้ทุพพลภาพ การตัดสินใจที่จะต้องจากโรงเรียนเดิมของเธอไปยังโรงเรียนแห่งใหม่นี้เธอกล่าวว่า "ต้องเสียน้ำตาถึงหนึ่งลิตร ถึงจะตัดสินใจได้"

การป่วยของอะยะส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างทุกคน และสะท้อนให้เห็นถึงความรักความเอาใจใส่ที่ครอบครัวมีให้กับเธอ ครั้งถึงแม่ของอะยะถึงกับกล่าวว่า "แม่ขอโทษที่เป็นโรคนี้แทนหนูไม่ได้" และน้องสาวของเธอที่เคยอิจฉาริษยาอายะมาโดยตลอดก็กลับตัวกลับใจตั้งใจเรียนเพื่อสอบเข้าโรงเรียนเดียวกับอะยะให้ได้ เพื่อสานฝันที่อะยะไม่อาจเดินทางไปจนสุดทาง น้องชายคนเดียวของอะยะก็ต้องกล้าหาญที่จะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกดูแคลนพี่สาวตัวเองและภูมิใจในพี่อะยะที่แม้จะป่วยพิกลพิการแต่ก็ฝึกสอนเขาเล่นฟุตบอลจนได้รับคัดเลือกให้ไปเล่นยิงประตูได้

ฮารุโตะเป็นคนรักธรรมชาติและชอบเลี้ยงสัตว์ อะยะชอบให้เขาเล่าเรื่องสัตว์ต่างๆ ให้ฟังอยู่เสมอ จนวันหนึ่งอารุโตะพาอะยะไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อะยะชอบปลาโลมานั้นสื่อสารกันได้ระยะใกล้โดยมิต้องใช้สุ้มเสียง ฮะรุโตะจึงซื้อที่ห้อยโทรศัพท์มือถือรูปปลาโลมาให้เป็นของขวัญ อะยะและฮะรุโตะจึงมีที่ห้อยโทรศัพท์รูปปลาโลมานี้เป็นเครื่องสื่อใจถึงกัน

เวลาที่ล่วงเลยไปค่อยๆ นำเอาความสามารถที่อะยะเคยมีไปทีละน้อย จากที่เคยเดินได้ทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงและโลกแห่งความฝัน ก็กลายเป็นต้องอยู่ในรถเข็นและในที่สุดแม้กระทั่งในความฝันอะยะก็เห็นตัวเองต้องนั่งอยู่ในรถเข็นเช่นกัน ด้วยโรคที่รุมเร้าทำให้เธอพูดได้ไม่ชัดเจนและไม่จบประโยค แต่คนที่ตั้งใจฟังอย่างฮะรุโตะก็เข้าใจเธอได้เสมอ เธอให้กำลังใจตัวเองว่าจะไม่พูดถึงสิ่งที่เคยทำได้ แต่จะพูดถึงที่ทำได้ในวันนี้ จนกระทั่งในปั้นปลายชีวิตของเธอ อะยะสื่อสารกับคนรอบข้างโดยการใช้นิ้วที่สั้นไหวชี้ตัวอักษรบนกระดานตัวอักษร แต่เธอก็ไม่เคยย่อท้อที่จะทำในสิ่งที่เธอยังทำได้อยู่

ด้วยเหตุที่ทราบว่าคงไม่อาจใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป ไม่มีอนาคตและไม่อาจแต่งงานได้ วันหนึ่งหลังจากที่กลับจากงานแต่งงานของคุณครูโรงเรียนผู้ทุพพลภาพ อะยะจึงคืนของขวัญที่ฮะรุโตะมอบให้ ตอนจบของเรื่อง อะยะเสียชีวิตลงโดยสงบ เรื่องราวของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยจำนวนมากมีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตต่อไป

ฟูจิทีวีได้ทำรายการตอนพิเศษเป็นเรื่องราวหลังจากที่อะยะเสียชีวิตไปแล้ว น้องสาวของอะยะได้เป็นพยาบาล ส่วนฮะรุโตะได้เป็นหมอที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่อายะเคยรักษาตัวอยู่ ฮะรุโตะต้องพบกับคนไข้ที่เป็นเด็กสาวที่ดื้อดึงไม่ร่วมมือในการรักษา จนในที่สุดฮารุโตะต้องนำเธอขึ้นไปบนดาดฟ้าโรงพยาบาลและเล่าเรื่องราวของอายะให้ฟัง รายการตอนพิเศษนี้เป็นการเล่าเรื่องราวย้อนในตอนที่ผ่านๆ มาและแสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ของอายะเป็นแบบอย่างให้กับคนอื่นๆ ได้อย่างไร

ใกล้เคียง

บันทึกแวมไพร์วานิทัส บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร บันทึกสถิติโลกกินเนสส์ บันทึกพระนามแห่งอไบดอส บันทึกใสจากวัยฝัน บันทึกลับของแอนน์ แฟรงค์ บันทึกมรณะ เกมล่าท้าอนาคต บันทึกสงครามของยัยเผด็จการ บันทึกรักเจ้าหญิงมือใหม่ บันทึกการเดินทางต่างโลกของท่านอัศวินกระดูก