การพบเห็นและความเชื่อ ของ บิ๊กฟุต

บิ๊กฟุตเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเป็นครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1811 ในประเทศแคนาดา โดย เดวิด ทอมป์สัน นักสำรวจ ระหว่างค้นหาทางน้ำระหว่างอ่าวฮัดสันจนถึงแม่น้ำโคลัมเบีย ซึ่งเรื่องนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเกี่ยวกับบิ๊กฟุต ทอมป์สันบันทึกว่า 7 มกราคม เราเริ่มเดินทางของเราต่อในตอนบ่าย และเราเจอร่องรอยของสัตว์ขนาดใหญ่ เป็นรอยเท้าที่กดบนพื้นหิมะลึกลงไปถึง 6 นิ้ว เขาวัดรอยเท้าขนาดใหญ่ที่มีทั้งหมด 4 นิ้ว และแต่นิ้วยาว 4 นิ้ว มีรอยเล็บสั้น ๆ ส่วนปลายของเท้าจมกว่านิ้วเท้า 3 นิ้ว ส่วนส้นของรอยเท้าไม่ชัดนัก ความยาว 14 นิ้ว คูณ 8 นิ้ว ตามกว้าง อินเดียนแดงผู้ติดตามเขาคิดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางอย่าง ส่วนทอมป์สันคิดว่าเป็นหมีกริซลีย์ตัวใหญ่ แต่ส่วนปลายของเท้าที่ใหญ่ไม่ใช่ของหมีเลย

เรื่องราวของบิ๊กฟุตที่โด่งดังและเหลือเชื่อที่สุด เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1924 โดย อัลเบิร์ต ออสแมน นักกิจกรรมชาวแคนาดา ในวัยหนุ่มเขาอ้างว่าขณะออกสำรวจป่าบริติชโคลัมเบียเพียงลำพังคนเดียว จนถึงวันที่ 6–7 เขารู้สึกว่าถูกอะไรบางอย่างติดตามและรังควานอย่างนั้นมา 3–4 คืนติดต่อกันแล้ว ทีแรกเขาคิดว่าเป็นเม่นหรือสัตว์อะไรบางอย่าง แต่เห็นชัดว่าไม่ใช่ จนกระทั่งคืนหนึ่งขณะนอนหลับ เขาก็ถูกบิ๊กฟุตตัวหนึ่งอุ้มตัวเขามาขณะที่นอนอยู่ในถุงนอน ที่ภายในบรรจุเสบียงอาหารไว้อยู่รวมถึงปืนไรเฟิลด้วย ออสแมนประมาณว่าบิ๊กฟุตอุ้มเขาไว้นานถึง 3–4 ชั่วโมง จนกระทั่งมันปล่อยเขาลงในที่ ๆ มันอยู่ซึ่งเป็นหุบเขา จนกระทั่งเขาตื่นขึ้นมาในเวลาที่คาดว่าเลย 04:00 น. มาเล็กน้อย เขาพบว่าตัวเองอยู่ในที่ ๆ มืดมาก แต่รอบตัวเขามีเสียงเหมือนพูดคุยเต็มไปหมด จนกระทั่งถึงเช้าเขาจึงได้เห็นภาพที่ชัดขึ้นว่ามันเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่มีขนดกปกคลุมทั้งตัว เนื้อตัวล่อนจ้อน อาศัยอยู่กันเป็นครอบครัว ตัวที่อุ้มเขามาเป็นบิ๊กฟุตตัวผู้ที่เป็นพ่อ มีบิ๊กฟุตตัวเมียที่เป็นแม่ และบิ๊กฟุตขนาดเล็กที่เป็นลูก ๆ อีก 2 ตัว ออสแมนเล่าว่าสัตว์เหล่านี้ไม่ได้ท่าทีกลัวเขาหรือคุกคามเขาเลย และมันคงมีเหตุผลที่อุ้มตัวเขามาคงเป็นเพราะได้กลิ่นอาหารและกาแฟสำเร็จรูปที่เขาติดมาเป็นเสบียงด้วย แต่เขาก็ไม่อาจหนีไปไหนได้ และจากที่มีอาหารเพียงพอ ออสแมนต้มน้ำเพื่อจะชงกาแฟดื่มและเปิดกล่องยานัตถุ์ออกมา บิ๊กฟุตซึ่งนั่งอยู่ห่างจากตัวเขาประมาณ 10 ฟุต ก็ยื่นมือออกมาหยิบและเททั้งหมดรวมกันและกลืนเข้าปาก และมันก็คว้ากาแฟของเขาไปดื่มจนหมดกระป๋อง ซึ่งจากผลลัพธ์ของยานัตถุ์และกาแฟ ทำให้บิ๊กฟุตตัวนั้นรีบวิ่งไปหาน้ำดื่มเพื่อดับรสชาติในปาก จังหวะนี้ออสแมนจึงหลบหนีออกมาได้ ซึ่งออสแมนได้ยืนยันเหตุการณ์นี้อีกครั้งด้วยการบันทึกเป็นคำบอกเล่าด้วยเทปบันทึกเสียงในปี ค.ศ. 1966[2]

ส่วนหลักฐานแรกสุดและเก่าแก่สุดที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของบิ๊กฟุต คือ ภาพเขียนสีบนผนังถ้ำของอินเดียนแดง ในเขตสงวนอินเดียนแดง ที่อยู่ห่างไปทางตอนเหนือของลอสแอนเจลิสเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง อายุก่อนการมาถึงทวีปอเมริกาเหนือของชาวยุโรปราว 500 ปี เป็นภาพของบิ๊กฟุตตัวผู้สูง 8 ฟุต และตัวเมียที่มีบิ๊กฟุตตัวเล็กที่เหมือนกับเป็นตัวลูกสูง 4 ฟุต อยู่ด้านข้างด้วย ซึ่งภาพนี้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เป็นสัตว์ที่ผู้วาดได้พบเห็นและมีตัวตนอยู่จริง ไม่ใช่เป็นสัตว์ในจินตนาการ และภาพยังบอกถึงสัดส่วนความสูงของแต่ละตัวด้วย [3][1]

แผนที่แสดงการพบเห็นบิ๊กฟุต ซึ่งพบแทบทั่วสหรัฐอเมริกาในตอนเหนือ

ความเชื่อเรื่องบิ๊กฟุตของอินเดียนแดงแต่ละชนเผ่าก็แตกต่างกันออกไป เช่น เชื่อว่าเป็นจิตวิญญาณผู้พิทักษ์ป่าและชาวอเมริกันพื้นเมือง หรือเชื่อว่าบิ๊กฟุตเป็นสัตว์ดุร้าย เมื่อเผชิญหน้าห้ามจ้องตาเพราะถือเป็นการท้าทาย เพราะบิ๊กฟุตอาจฆ่าผู้ที่จ้องตามันถึงตาย หรือเชื่อว่าบิ๊กฟุตเป็นสัตว์ดุร้าย จะออกสะพายตะกร้าหวายไว้ที่หลัง จับเด็ก ๆ ที่ออกมาเล่นไกลพ่อแม่ใส่ลงตะกร้าไปเป็นอาหารเย็นของตน และมีเรื่องเล่าบอกต่อกันมาว่าบิ๊กฟุตแท้จริงแล้วไม่ใช่สัตว์ แต่เป็นมนุษย์โบราณที่เลือกจะไม่อยู่ร่วมกับมนุษย์ยุคปัจจุบัน เพราะสิ่งที่มนุษย์ยุคปัจจุบันได้ทำเอาไว้ เป็นต้น อินเดียนแดงเผ่าอาปาเช่ ที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของรัฐอริโซน่า ก็มีคำสอนบอกต่อกันว่า หากเดินเข้าไปในป่าตอนกลางคืน ให้เคาะหินหรือเคาะไม้หรือผิวปาก เพราะมนุษย์ขนดกก็จะทำเหมือนกัน เป็นการแสดงให้ทราบถึงตำแหน่งที่อยู่ของตน[4] ซึ่งเชื่อกันว่าบิ๊กฟุตสื่อสารกันด้วยวิธีการเช่นนี้ อันเป็นวิธีการสื่อสารเดียวกันกับลิงใหญ่หรือเอปชนิดอื่น ๆ ด้วย[2]

โดยรายงานการพบเห็นบิ๊กฟุตมากที่สุดเกิดขึ้นที่บริเวณคาบสมุทรโอลิมปิก รัฐวอชิงตัน[5] และในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 มีผู้ค้นพบรอยเท้าของบิ๊กฟุตที่ริมทะเลสาบแห่งหนึ่ง ที่เมืองลอนดอน รัฐโอไฮโอ จำนวนมากถึง 122 รอย นับว่ามากที่สุดเท่าที่มีการบันทึกมา ซึ่งรอยเหล่านี้ได้ถูกหล่อปูนปลาสเตอร์ไว้[6]

แหล่งที่มา

WikiPedia: บิ๊กฟุต http://www.animalplanet.com/tv-shows/finding-bigfo... http://writer.dek-d.com/doraemon_1000_/story/view.... http://www.ranthong.com/smf/index.php?action=print... http://movie.sanook.com/41697/ http://www.tutorgohome.com/forum/index.php?topic=5... http://www.youtube.com/results?search_query=bigfoo... http://www.youtube.com/watch?v=3nP8MzDX_r4&feature... http://www.youtube.com/watch?v=r0ZzbRO3hmk http://www.bigfootbuzz.net/bigfoot-cave-paintings/ https://www.youtube.com/watch?v=73Xt_Q6nsxk