รูปลักษณ์ที่เด่น ของ ประตูนรก

ประติมากรรมต้นฉบับเหล่านี้ได้รับการขยายและกลายเป็นงานศิลปะชิ้นเอกลักษณ์

  • คนครุ่นคิด” หรือ “กวีฝรั่งเศส: Le Penseur) ตั้งอยู่ตอนบนของประตูเหนือบานประตู การตีความหมายหนึ่งกล่าวว่าเป็นภาพของดันเตมองลงมายังผู้คนในนรกภูมิ อีกความหมายหนึ่งก็ว่าผู้ที่เป็นแบบคือรอแด็งเอง ผู้กำลังครุ่นคิดถึงองค์ประกอบของงาน และบ้างก็เชื่อว่าเป็นภาพของอาดัมครุ่นคำนึงถึงความหายนะต่อมวลมนุษย์ที่ตนเป็นผู้นำมาหลังจากการกระทำบาปครั้งแรก
  • จูบฝรั่งเศส: Le Baiser เดิมเป็นภาพที่เป็นส่วนหนึ่งของประตู เช่นภาพ “ปาโอโลและฟรันเชสกาดารีมีนี” รอแด็งต้องการที่จะแสดงภาพของการเริ่มด้วยความปิติและการสิ้นสุดลงด้วยการถูกลงโทษ แต่ก็นำรูปลักษณ์นี้ออก และกลายมาเป็นประติมากรรมชิ้นที่รู้จักกันว่า “จูบ” เพราะเป็นงานที่แสดงความรู้สึกอันตรงกันข้ามกับรูปลักษณ์อื่นๆ บนบานประตู
  • อูโลลิโนและบุตร” (ฝรั่งเศส: Ugolin et ses enfants) เป็นประติมากรรมที่เป็นภาพของเคานต์ Ugolino della Gherardescaผู้ตามตำนานแล้วกินซากศพลูกของตนเองหลังจากที่ลูกตายจากการอดอาหาร[1] กลุ่มอูโลลิโนต่อมาหล่อเป็นประติมากรรมสัมริดอีกชิ้นหนึ่งในปี ค.ศ. 1882
  • Les trois Ombres” เดิมเป็นประติมากรรมเป็นรูปลักษณ์สามรูปแยกกันในปี ค.ศ. 1899 ต่อมารอแด็งเชื่อมเข้าด้วยกันที่มือ คล้ายกับเวอร์ชันขนาดเล็กกว่า เดิมรูปลักษณ์ชี้ไปที่วลี "Lasciate ogne speranza, voi ch'intrate" (ไทย: สิ้นความหวังจนหมดสิ้น, ท่านผู้ที่เข้ามา ณ ที่นี่ )[2]
  • ความรักเทียม” (ฝรั่งเศส: Fugit Amor) ตั้งอยู่บนบานขวาของประตู เป็นประติมากรรมรูปลักษณ์หลายรูปของคนรักที่เป็นสัญลักษณ์ของเพาโลและรูปลักษณ์ฟรานเชสคาดาริมินี ภาพชายรู้จักกันในชื่อ The Prodigial ด้วย
  • ปาโอโลและฟรันเชสกา” (อังกฤษ: Paolo and Francesca) เป็นประติมากรรมที่ตั้งอยู่บนบานซ้ายของประตู ปาโอโลพยายามดึงตัวฟรันเชสกาที่ดูเหมือนจะหลุดลอยไป
  • คำนึง” (อังกฤษ: Meditation) เป็นประติมากรรมที่อยู่ทางขวาสุดของหน้าบันของประตู ที่สร้างเป็นงานชิ้นใหญ่ในปี ค.ศ. 1896
  • ภรรยาสูงอายุ” (อังกฤษ: The Old Courtesan) เป็นประติมากรรมสำริดที่หล่อในปี ค.ศ. 1910 ของสตรีเปลือยสูงอายุ หรือที่เรียกว่า “Celle qui fut la belle heaulmière” (ไทย: เธอผู้ครั้งหนึ่งเป็นภรรยาคนงามของคนทำหมวกเกราะ) ซึ่งเป็นชื่อของบทกวีนิพนธ์โดยฟรองซัวส์ วิลลง
  • ฉันเป็นคนงาม” (ฝรั่งเศส: Je Suis Belle) เป็นประติมากรรมที่หล่อในปี ค.ศ. 1882 เป็นกลุ่มคนกลุ่มที่สองทางด้านขวาสุดของประตู
  • ฤดูใบไม้ผลิอันไม่สิ้นสุด” (อังกฤษ: Eternal Springtime) เป็นประติมากรรมที่หล่อในปี ค.ศ. 1884
  • อาดัมและอีฟ” รอแด็งของทุนเพิ่มขึ้นจากผู้อำนวยการในการสร้างงานประติมากรรมชิ้นนี้ โดยตั้งใจที่จะใช้ขนาบประตูสองข้าง