บทความนี้อ้างอิง
คริสต์ศักราช/คริสต์ทศวรรษ/คริสต์ศตวรรษ ซึ่งเป็นสาระสำคัญของเนื้อหา
ปราสาทมาร์กัต (
อังกฤษ:
Margat หรือ
Marqab,
อาหรับ:
قلعة المرقب (Qalaat al-Marqab หรือ ปราสาทแห่งหอยาม)) เป็นซาก
ปราสาทที่สร้างโดย
ทหารครูเสด ปัจจุบันตั้งอยู่ใน
ประเทศซีเรีย ปราสาทมาร์กัตเป็นที่ตั้งมั่นสำคัญของ
อัศวินเซนต์จอห์น ก่อตั้งเมื่อปี
ค.ศ. 1062ปราสาทมาร์กัตตั้งอยู่บนเนินสูงราว 500 เมตรจากระดับน้ำทะเลบน
ภูเขาไฟที่ดับแล้วริมถนนระหว่าง
ทริโปลิและ
ลาทาเคียราวสองกิโลเมตรจาก
ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนราว 6 กิโลเมตรจากทางใต้ของบันนิยาส เดิมคาดว่าเป็นป้อมโบราณแต่สิ่งก่อสร้างในทางการป้องกันทางการทหารเริ่มก่อสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1062 โดย
อาหรับผู้ยังรักษาป้อมต่อมาภายใน
นครรัฐอันติโอค (Principality of Antioch) ของคริสเตียนหลัง
สงครามครูเสดครั้งที่ 1 เมื่อนครรัฐพ่ายแพ้ในปี ค.ศ. 1104 ใน
ยุทธการฮาร์รัน (Battle of Harran)
จักรวรรดิไบแซนไทน์ก็ฉวยโอกาสยึดปราสาทมาร์กัตจากฝ่ายมุสลิม สองสามปีต่อมาปราสาทก็ถูกยึดโดย
ทานเคร็ด เจ้าชายแห่งกาลิลี (Tancred, Prince of Galilee) ผู้สำเร็จราชการของอันติโอคผู้รวมปราสาทมาร์กัตเข้าเป็นส่วนหนึ่งของนครรัฐอันติโอคในคริสต์ทศวรรษ 1170 เรย์นาลด์ที่ 2 มาซอร์แห่งอันติโอคก็ปกครองปราสาทมาร์กัตในฐานะที่เป็นปราสาทที่ขึ้นกับ
อาณาจักร์เคานท์แห่งทริโปลิ ปราสาทมีขนาดใหญ่โตมากจนต้องมีเจ้าหน้าที่ของตนเองและมีปราสาทอื่นที่มาขึ้นเป็นของตนเอง ลูกชายของ เรย์นาลด์ขายปราสาทให้กับ
อัศวินเซนต์จอห์นในปี ค.ศ. 1186 เพราะตระกูลมาซอร์ไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะบำรุงรักษา หลังจากการซ่อมแซมและขยายโดยฮอสพิทาลเลอร์แล้วมาร์กัตก็กลายเป็นศูนย์กลางของ
อัศวินเซนต์จอห์นในซีเรีย ภายใต้การควบคุมของอัศวินเซนต์จอห์นของปราสาทสิบสี่หอก็เป็นปราสาทที่เข้ายึดได้ยาก
ศอลาฮุดดีน[2]ล้อมปราสาทในปี ค.ศ. 1188 แต่ไม่สามารถยึดได้ และเป็นปราสาทในบรรดาดินแดนอีกเล็กน้อยที่ศอลาฮุดดีนไม่สามารถจะยึดได้หลังจากที่ได้รับชัยชนะส่วนใหญ่ต่อคริสเตียนเมื่อมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 13
อัศวินเซนต์จอห์นก็ปกครองอาณาบริเวณรอบๆ ปราสาทและถนนที่ผ่านปราสาท และสามารถทำรายได้ได้เป็นจำนวนมากจากนักเดินทางและนักแสวงบุญที่ต้องเดินทางผ่าน
ไอแซ็ค คอมเนนัสแห่งไซปรัส (Isaac Comnenus of Cyprus) ถูกจำขังไว้ที่ปราสาทนี้หลังจากที่ถูก
สมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษไปจับตัวมาจาก
ไซปรัสระหว่าง
สงครามครูเสดครั้งที่ 3 สังฆราชจากวาเลเนียเองก็ใช้มาร์กัตเป็นศูนย์กลางราวปี ค.ศ. 1240 มาร์กัตมีขนาดใหญ่เป็นที่สองรองจาก
ปราสาทเชวาลิเยร์มามลุค (Mamluk)
สุลต่านแห่งอียิปต์ คาลาวัน (Qalawun) เริ่มล้อมมาร์กัตเมื่อวันที่
25 เมษายน ค.ศ. 1285 และเพียงเดือนเดียวก็สามารถยึดมาร์กัตได้โดยการระเบิดกำแพงทางด้านเหนือของปราสาท เพราะความที่มีความนับถือในความมั่นคงของปราสาทและในความกล้าหาญของผู้ต่อสู้รักษาปราสาทไว้ คาลาวันจึงอนุญาตให้
อัศวินเซนต์จอห์นออกจากปราสาทได้โดยนำของติดตัวไปได้เท่าที่จะแบกไหวเท่านั้น และแทนที่จะทำลายปราสาทเช่นที่ทำลายปราสาทอื่นๆ ที่ผ่านมาก่อนหน้านั้น คาลาวันก็ใช้มาร์กัตเป็นที่ตั้งของกองทหารมามลุค