การตามล่าคำไขปริศนา ของ ปริศนาสมบัติอัจฉริยะ

การแตกหัก

ตระกูลคาฮิลล์เริ่มขึ้นที่ดับลิน ไอร์แลนด์ กิเดียนและโอลีเวียให้กำเนิดบุตรธิดา 4 คนราว ค.ศ. 1494 การแตกคอระหว่างพี่น้องคาฮิลล์ทั้ง 4 คนเริ่มขึ้นเมื่อกิเดียน คาฮิลล์ ค้นพบสิ่งที่ทรงพลังที่สุดในโลก และแบ่งคำไขปริศนาให้ลูกๆ ปี ค.ศ. 1507[18] บ้านถูกลอบวางเพลิง กิเดียนตายในกองเพลิงเพราะต้องการปกป้องผลงานของตนเอง บุตรทั้งสี่และมารดารอดชีวิต คาฮิลล์ทั้งสี่ทะเลาะกัน โทมัสกับแคทเธอรีนกล่าวหาว่าลุคเป็นคนวางเพลิง ทั้งสองเดินทางออกจากดับลินไปอังกฤษ ต่อด้วยไปยังโปรตุเกสเพื่อหลบหนีจากสายลับของลุค และสานต่อผลงานของพ่อ โทมัสแต่งงานกับหญิงชาวโปรตุเกส แต่ทอดทิ้งน้องสาวและครอบครัว จนสามปีให้หลังแคทเธอรีนทนไม่ไหวที่โทมัสเห็นเรื่องรักดีกว่าหน้าที่ จึงหนีไป พร้อมกับขโมยคำไขปริศนาจากพี่ชายไปด้วย ทำให้โทมัสโกรธมากและออกตามหาเธอ[19][20]

แคทเธอรีนหนีไปยังอียิปต์ ที่นั่นเธอได้ซื้อรูปปั้นเทพีเสคเมต 3 ตัว และจ้างวานนักปล้นสุสานให้พาเธอไปยังสุสานฟาโรห์ต่างๆ เพื่อซ่อนหนทางสู่คำไขปริศนา ซึ่งซ่อนอยู่ในช่องลับของรูปปั้น[21] จากนั้นก็ไม่มีข่าวจากเธออีกเลย

โทมัสในญี่ปุ่น

แม้จะมีความสามารถ แต่โทมัสก็หาแคทเธอรีนไม่พบ ในที่สุดก็ยอมแพ้และเริ่มชีวิตใหม่ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยอ้างว่าเพื่อศึกษาวัฒนธรรมซามูไร ที่นั่นเขาใช้ชื่อปลอมว่า "เออะมอน" (อังกฤษ: Yeamon) และแต่งงานกับเคโกะ หญิงสาวชาวญี่ปุ่น ซึ่งต่อมาได้ให้กำเนิดบุตรชายที่ต่อมาคือโทะโยะโทะมิ ฮิเดะโยะริ [20] ฮิเดโยชิต่อสู้กับสมาชิกสายตระกูลอีคาเทริน่าที่เป็นชาวนาในต่างจังหวัด และรวบรวมดาบจากชาวนาทุกคนเพื่อป้องกันการต่อต้าน[22] เมื่อเขาเข้ายึดเกาหลี เขานำดาบและทองคำไปซ่อนที่เขาบุกคันก่อนจะพ่ายแพ้ ทำให้เชื่อว่าฮิเดโยชิกำลังสร้างหินนักปรัชญาขึ้น[23] ผู้คุ้มกันของฮิเดโยชิต่อมาได้กลายเป็นกลุ่ม ยากูซ่า ปกป้องคำไขปริศนาในญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน

เบนจามิน แฟรงคลิน

เบนจามิน แฟรงคลินเดินทางจากสหรัฐอเมริกาไปฝรั่งเศสในฐานะทูตประจำฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1785 แฟรงคลินกลับมาจากฝรั่งเศส แต่ได้ทิ้งเบาะแสเป็นจัตุรัสกลสลักบนหัวกะโหลกในสุสานใต้ดินตรงทางเข้าจากสถานีดองแฟรฺ-รอชเชอโร [24] เป็นพิกัดเก่าแก่ของฝรั่งเศส ซึ่งพาไปยังโบสถ์แซง-ปีแอรฺ[25] หลุมศพหลุมหนึ่งนำไปสู่โถงในสุสานใต้ดินที่วาดภาพผู้นำสี่สายตระกูลหน้าบ้านที่ถูกไฟไหม้ แฟรงคลินซ่อนเบาะแสต่อไปซึ่งเป็นเพลงของโมซาร์ท รวมถึงหลอดบรรจุน้ำยาซึ่งทำงานเมื่ออัดไฟฟ้าจากฟ้าผ่าเข้าไป

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

พระนางมารี อังตัวเนต

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

บ็อป ทร็อปโป

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

คำไขปริศนากับราชวงศ์โรมานอฟ

พระเจ้าคอนสแตนตินที่ 1 แห่งรัสเซียสละสิทธิสืบต่อราชสมบัติให้นิโคลัส พระอนุชา เพื่อจะได้มีเวลาเสาะหาคำไขปริศนามากขึ้น ในปี ค.ศ. 1826 ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี คอนสแตนตินเขียนจดหมายถึงพระอนุชาว่าสามารถรวบรวมคำไขปริศนาได้เกือบครบทุกชิ้นแล้ว แต่ว่าวันที่ 7 ตุลาคม ก็ถูกมาดริกัลทำลายจนหมดสิ้น คอนสแตนตินเตือนนิโคลัสให้ระวังพระองค์ มาดริกัลอาจมุ่งร้ายมาที่พระองค์เป็นรายต่อไป[26]

ค.ศ. 1918 ราชวงศ์โรมานอฟถูกสังหารที่ยีคาเทอรินเบิร์ก[27] เอมี่เชื่อว่าอาจเป็นมาดริกัลที่สังหารราชวงศ์[26] ห้องอำพันซึ่งของราชวงศ์เดิมอยู่ที่วังแคเธอรีน หมู่บ้านซาร์สโกเย่ เซโล่ถูกย้ายไปยังโบสถ์ปีเตอร์แอนด์พอล เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่ลูเซี่ยนมีอิทธิพล พวกเขาย้ายมันกลับมาที่ยีคาเทอรินเบิร์ก ในสุสานที่ราชวงศ์ถูกสังหาร ต่อมาจึงมีการสร้างโบสถ์แห่งพระโลหิต (อังกฤษ: Church on the Blood) บนนั้น ภายในห้องอำพันเก็บเอกสารของลูเซี่ยนเอาไว้ส่วนหนึ่ง และคำไขปริศนาที่ลูเซี่ยนเก็บไว้เป็นความลับ คือ อำพันหลอมละลาย 1 กรัม[28]

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

ใกล้เคียง

ปริศนาความทรงจำ ปริศนาฟ้าแลบ ปริศนา (นวนิยาย) ปริศนาสมบัติอัจฉริยะ ปริศนา พรายแสง ปริศนา วงศ์ศิริ ปริศนา! นักล่าผี ปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล ปริศนาบ้านเก่า เงามรณะ ปริศนา กัมพูสิริ