ปลาสวยงามในประเทศไทย ของ ปลาสวยงาม

ร้านค้าปลาสวยงามในตลาดนัดสวนจตุจักร

ในประเทศไทย การเลี้ยงปลาสวยงามนั้นมีมานานแล้วตั้งแต่ยุคโบราณ คนไทยนิยมเลี้ยงปลาที่เป็นปลาพื้นบ้าน อาทิ ปลากัดหรือปลาเข็มที่ได้พัฒนาสายพันธุ์ให้ใหญ่กว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมที่มีอยู่ในธรรมชาติ เพื่อการต่อสู้กันถือเป็นการละเล่นพื้นบ้านชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับการชนไก่ โดยมีการพนันผสมอยู่ด้วย[9]

สมัยรัชกาลที่ 5 ปลาหางนกยูงได้ถูกนำเข้ามาเลี้ยงในอ่างบัวเป็นครั้งแรก ตามบ้านของเศรษฐีและผู้มีฐานะในสังคม ดั่งปรากฏความอยู่ในนวนิยายเรื่อง "สี่แผ่นดิน" ของ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ความตอนหนึ่งบรรยายถึง แม่พลอย ตัวละครเอกของเรื่อง นั่งดูปลาหางนกยูงในอ่างบัว[10]

ต่อมา ในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และหลังสงครามยุติไม่นาน ได้มีผู้ประกอบการส่งออกปลาสวยงามไปสู่ต่างประเทศ โดยทำการรวบรวมพันธุ์ปลาพื้นบ้านจากแหล่งน้ำในธรรมชาติเป็นหลัก และจากการเพาะพันธุ์บางส่วน คือ นายสมพงษ์ เล็กอารีย์ และนายพิบูลย์ ประวิชัย[11] ซึ่งร่วมกันในนาม "สมพงษ์ อะควาเรี่ยม" จัดได้ว่าเป็นผู้ประกอบการค้าปลาสวยงามอย่างเป็นล่ำเป็นสันรายแรก ๆ โดยเฉพาะนายสมพงษ์นั้น เป็นผู้ค้นพบพันธุ์ปลาชนิดใหม่ของโลกด้วยอย่างน้อย 3 ชนิด ซึ่งสมพงษ์ อะควาเรี่ยม นั้นปัจจุบันได้ปิดกิจการลงไปแล้ว[12]

ขณะที่ปลาทอง ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จากเบื้องต้นเป็นชาวจีนหรือชาวไทยเชื้อสายจีนที่นิยมเลี้ยงไว้เพื่อความเชื่อว่านำพาความโชคดีหรือโชคลาภมาสู่ผู้เลี้ยง ในราวปี พ.ศ. 2500-2501 ยังเป็นการเลี้ยงกันในแวดวงแคบ ๆ ก่อนที่จะมีผู้พบว่า สามารถเพาะขยายพันธุ์เพื่อทำการค้าได้ จึงขยายความนิยมในการเลี้ยงตามมา ร้านค้าหรือแหล่งที่เป็นแหล่งซื้อขายปลาทองและปลาสวยงาม อยู่ที่ตลาดนัดสนามหลวง และเยาวราช รวมถึงย่านคลองถมหรือสะพานเหล็ก[13] ซึ่งในยุคนั้นซึ่งยังไม่มีตลาดนัดสวนจตุจักรหรือร้านขายปลาสวยงามมากมายอย่างในปัจจุบัน เมื่อมีการซื้อขายกันแล้ว ผู้ขายจะเทปลาลงในกระป๋องนมข้นหวานที่ทำจากดีบุก โดยไม่ได้ใส่ถุงพลาสติกอย่างในปัจจุบัน แม้แต่การบรรจุออกซิเจนก็ไม่มี ต่อมาเมื่อมีถุงพลาสติก ก็ใช้วิธีการมัดถุงแบบถุงกาแฟแล้วใช้เชือกกล้วยมัด[14]

ปัจจุบัน การเลี้ยงปลาสวยงามนั้นได้รับความนิยมอย่างมาก โดยถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่นิยมเลี้ยงกันมากเช่นเดียวกับ สุนัขและแมว โดยมีหลักค้าขายใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี คือ ตลาดซันเดย์ในบริเวณตลาดนัดสวนจตุจักร และอีกที่ คือ ตลาดธนบุรี หรือที่นิยมเรียกกันว่า สนามหลวง 2 ซึ่งเป็นสัดส่วนของตลาดนัดฝั่งธนบุรี จนเกิดเป็นอุตสาหกรรมการเพาะขยายพันธุ์และการค้าขายอีกประเภทหนึ่ง

โดยที่แหล่งเพาะพันธุ์ใหญ่ที่สุดของประเทศ อยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งมีการจัดตั้งขึ้นเป็นสหกรณ์ โดยการรวมกลุ่มกันของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยง [15]

สำหรับอุตสาหกรรมปลาสวยงามในประเทศไทยแล้ว ถือได้ว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และส่งออกไปขายยังต่างประเทศมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง โดยมีมูลค่าการส่งออกปีหนึ่งประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่ปลาที่เพาะพันธุ์ได้และจับจากแหล่งธรรมชาติภายในประเทศมีสัดส่วนค้าขายภายในประเทศเพียงแค่ร้อยละ 1 เท่านั้น[16]

และยังมีการจัดงานนิทรรศการเกี่ยวกับปลาสวยงามขึ้นเป็นประจำ เช่น งานประมงน้อมเกล้าฯ ที่จัดโดย กรมประมง และ งานปลาสวยงามแห่งชาติ ที่จัดโดย บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป ร่วมกับ สมาคมปลาสวยงามแห่งประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งภายในงานจะมีทั้งการแสดงพันธุ์ปลาชนิดต่าง ๆ การประกวด การจัดตกแต่งตู้ปลา การขายปลาสวยงามและอุปกรณ์ รวมทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องปลาและสัตว์ประเภทต่าง ๆ อีกด้วย

แหล่งที่มา

WikiPedia: ปลาสวยงาม http://www.bangkokbiznews.com/mobile/view/news/668... http://news.ch7.com/detail/81976/%E0%B9%80%E0%B8%8... http://www.matichonbook.com/mail.php?send=2&id=470... http://www.nightsiam.com/forum/index.php?topic=298... http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/ra... http://www.trangpets.com/index.php?topic=482.0 http://home.kku.ac.th/pracha/Principle.htm http://std.kku.ac.th/4950201427/Behavior/3.htm http://www.vet.ku.ac.th/library-homepage/db_direct... http://www.fisheries.go.th/aquaorna/market_fish_bu...