ปลาอีโต้มอญ (
อังกฤษ: Common dolphinfish) เป็น
ปลาทะเลชนิดหนึ่ง ใน
อันดับปลากะพง (Percifoemes) มี
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Coryphaena hippurus จัดอยู่ใน
วงศ์ปลาอีโต้ (Coryphaenidae) ซึ่งมีอยู่ด้วยกันเพียง 2 ชนิดเท่านั้น
[2]ปลาอีโต้มอญ มีลำตัวยาวเรียว แต่เมื่อเจริญเติบโตขึ้นลำตัวจะกว้างขึ้นและแบนข้างเล็กน้อย หัวงุ้มลง ทำให้มีรูปร่างคล้ายมีดโต้ อันเป็นที่มาของชื่อเรียก มีเกล็ดเล็กละเอียด ปากกว้างและเฉียงขึ้น ฟันเล็กละเอียด ครีบหลังยาวเริ่มตั้งแต่บริเวณโหนกหัวไปจนถึงโคนหาง ครีบหางใหญ่เว้าลึกรูปส้อม
ตัวผู้มีโหนกหัวนูนออกไปข้างหน้าเป็นแนวตั้งฉากกับปากคล้ายกับ
โลมา อันเป็นที่มาของชื่อเรียกในภาษาอังกฤษ ส่วน
ตัวเมียจะมีโหนกหัวลาดลง ปลาขนาดโตเต็มวัยลำตัวมี
สีน้ำเงินปน
เขียว ข้างตัวมี
จุดดำเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วลำตัว มีความยาวตั้งแต่ 40-100
เซนติเมตร ขนาดใหญ่สุดมีความยาวถึง 150 เซนติเมตร เป็นปลาที่อยู่รวมตัวกันเป็นฝูงขนาดไม่ใหญ่ อาศัยอยู่ในบริเวณน้ำลึก และมักขึ้นมาหากินและหาอาหารบริเวณผิวน้ำ มักพบอยู่บริเวณข้าง
เกาะแก่ง ตาม
ต้นไม้หรือกิ่งไม้หรือซากอวนที่ลอยมาตามน้ำ กระจายพันธุ์อยู่ทั่วไปใน
ทะเลเขตร้อนและ
เขตอบอุ่นทั่วโลก ใน
น่านน้ำไทยพบได้ทั้งฝั่ง
อ่าวไทยและ
ทะเลอันดามัน เป็นปลาที่ปราดเปรียวว่องไว
ว่ายน้ำได้เร็วมาก กิน
ปลาขนาดเล็กและ
สัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ เป็นอาหาร
[3]เป็นปลาที่เป็นที่นิยมอย่างยิ่งในการ
ตกปลาเป็นเกมกีฬา เช่นเดียวกับ
ปลากระโทง (Istiophoridae) หรือ
ปลาทูน่า (Scombridae) เนื่องจากเป็นปลาที่สู้เบ็ดและมีความ
สวยงามเมื่อเวลาตก และนิยมจับเพื่อ
การประมงเชิง
พาณิชย์ด้วย ซึ่งประเทศในแถบ
แคริบเบียนเป็นกลุ่มผู้บริโภคผลิตภัณฑ์จากปลาอีโต้มอญกลุ่มใหญ่ของโลก ส่วนหลาย ๆ ประเทศที่พัฒนาแล้วใน
ยุโรปมีปริมาณการบริโภคเพิ่มมากขึ้นทุกปี และ
ญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่บริโภคปลาชนิดนี้เป็นปริมาณมากเช่นกันปลาอีโต้มอญ ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก ใน
ภาษาไทย เช่น "หน้ามอม", "อีโต้", "มงเจ้าเลือด", "โต้มอญ" หรือ "สีเสียดอินเดีย" เป็นต้น ในขณะที่
ภาษาฮาวายจะเรียกว่า "Mahi-mahi" ซึ่งเป็นชื่อที่เพิ่งใช้ไม่นานมานี้ โดยจะปรากฏบนเฉพาะบน
เมนูอาหาร ในขณะที่
ภาษาสเปนจะเรียกว่า "Dorado" ที่หมายถึง
ทองคำ[4]สถานะของปลาอีโต้มอญ ใน
บัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) ได้จัดให้อยู่สถานะ
สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์ (LC)
[5]