ปลาแพะเขียว (
อังกฤษ: Bronze corydoras, Green corydoras;
ชื่อวิทยาศาสตร์: Corydoras aeneus)
ปลาน้ำจืดขนาดเล็ก
ชนิดหนึ่ง ใน
วงศ์ปลาแพะ (Callichthyidae)มีลำตัวปกคลุมด้วยเกล็ด เป็นแผ่น ๆ ซ้อนกัน ลำตัวมีลักษณะกลมป้อมเบนข้างทางด้านท้ายมีครีบ 8 ครีบ ที่ครีบอกมีเงี่ยงแข็งข้างละเงี่ยง ปากอยู่ทางด้านใต้มี หนวดเล็ก ๆ 2 คู่ ที่มุมปากสีของลำตัวปกติเป็น
สีเหลืองอม
น้ำตาล ข้างลำตัวเป็น
สีเขียวเงาแวววาว หาง และครีบแต่ละครีบมีสีค่อนข้างโปร่งใส ขนาดตัวยาวประมาณ 6-7 เซนติเมตร พบกระจายพันธุ์ใน
แม่น้ำลาพลาตาทางด้านทิศตะวันออกของ
เทือกเขาแอนดีส มักพบในแหล่งน้ำตื้น ที่เป็น
โคลนขุ่น อุณหภูมิประมาณ 17-30
องศาเซลเซียส บางครั้งอาจพบเป็นหมื่น ๆ ตัว โดยมีอวัยวะพิเศษช่วยในการหายใจ โดยปลาสามารถขึ้นมาฮุบอากาศที่เหนือผิวน้ำได้ จึงสามารถปรับตัวให้อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่มีปริมาณ
ออกซิเจนต่ำได้ นิยมเลี้ยงเป็น
ปลาสวยงามตัวผู้และ
ตัวเมียมีลักษณะที่คล้ายกัน ความแตกต่างของทั้ง 2 เพศ สังเกตเห็นได้ชัดเมื่อตอนปลาโตได้ขนาด โดยปลาตัวเมียมีรูปร่างที่กลมป้อมหนากว่า และขนาดใหญ่กว่า ส่วนในตัวผู้มีรูปร่างที่เล็กเรียวกว่า สามารถเพาะขยายพันธุ์ในที่เลี้ยงได้ นับเป็นปลาแพะชนิดที่เพาะขยายพันธุ์ได้ง่าย โดยตัวผู้เข้าไปสั่นร่างเป็นสัญญาณเชิญชวน หากตัวเมียพร้อมก็มีปฏิกิริยาตอบสนองด้วยการขยับเข้าหา ตัวผู้ปล่อยน้ำเชื้อออกให้ตัวเมียอมไว้ในปาก จากนั้นตัวเมียจะออกไข่มาจำนวนหนึ่งแล้วอุ้มไว้ด้วยครีบท้องที่มีลักษณะกลมกว้างคล้ายตะกร้า วางไข่ที่
ใบของ
ไม้น้ำ โดยแม่ปลาพ่นน้ำเชื้อในปากลงบนใบไม้ก่อนเอาไข่ที่อุ้มไว้แปะลงไป หลังจากนั้นก็ทำวิธีการเดียวกันซ้ำอีกเรื่อย ๆ จนกระทั่งไข่หมดท้อง แม่ปลาวางไข่ครั้งละประมาณ 150-300 ฟอง ไข่ปลาฟักออกเป็นตัวประมาณ 3-4 วัน ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของน้ำ ลูกปลาระยะแรกจะยังว่ายน้ำไม่ได้ โดยกินอาหารผ่านทาง
ถุงไข่แดงที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ใช้เวลา 2-3 วัน ถุงไข่แดงถึงจะยุบลงไป และลูกปลาจะว่ายน้ำหาอาหารกินเองได้ เมื่ออายุได้ 3 วัน ใช้เวลาในการเจริญเติบโตจนเต็มวัยประมาณ 2 ปีปลาแพะเขียว นับเป็นปลาแพะชนิดที่แพร่หลายมากที่สุดในวงการปลาสวยงามของ
ประเทศไทย จัดเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ไม่รบกวนหรือทำร้ายปลาอื่น อีกทั้งยังสามารถเพาะขยายพันธุ์จนได้เป็น
ปลาแพะเผือก ที่มี
ตาสีแดง ผิวลำตัวเป็น
สีขาวอม
ชมพูอีกด้วย
[2] [3]