ปองกูล สืบซึ้ง หรือ ป๊อบ เกิดเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2524 ที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยเป็นบุตรของนายประมูล สืบซึ้ง กับนางกรองทอง ไม่ทราบนามสกุล จบมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง สำเร็จการศึกษาศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์ จาก คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ (ปัจจุบันคือคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) เข้าร่วมในโครงการ First Stage Project ในปี พ.ศ. 2546 และมีผลงานชื่อเพลงยังเหมือนเดิมในอัลบั้ม First Stage Project ในปี พ.ศ. 2547

หลังจากนั้น ป๊อบได้ร่วมกับ วิน (อัศวิน ดุริยางกูร) จนกลายมาเป็น คู่ดูโอ ที่ใช้ชื่อว่า Calories Blah Blah โดยมีผลงานอัลบั้มแรกคือ อัลบั้ม Calories โดยเพลงเด่นคือ คนไม่เข้าตา ได้รับความนิยมมากพอควรในช่วงเปิดตัว โดยหลังจากนั้นมีนักร้องหลายคนเอาไปร้องใหม่มากมาย[1]

ต่อมาในปี 2555 ป๊อบและวินได้ออกมาประกาศว่าขอยุติการเป็นวงแคลอรี่ส์ บลาห์ บลาห์ เนื่องจากการทำงานช่วงหลังของเขาทั้งสองคนมีปัญหา โดยหลังจากนี้ป๊อบเองจะมีผลงานเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวของเขาออกมาภายใต้สังกัดแกรมมี่[2]

การแต่งงาน และกรณีข่าวฉาวเรื่องคบซ้อน

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ปองกูล ได้เข้าพิธีมงคลสมรสแบบลับ ๆ ร่วมกับ วราสีนี บุญประเสริฐ หรือ ปลา แฟนสาวที่คบกันมานานกว่า 14 ปี ณ วังยาวรีสอร์ท จังหวัดนครนายก[3] แต่หลังจากที่มีข่าวออกมา กลับมีกระแสความสับสนในสังคมอย่างรุนแรงหลังจาก​ "โบว์" แฟนสาวอีกคนหนึ่งโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า "ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่รู้ว่าปองกูลมีแฟนหรืออะไรอยู่แล้ว" ว่าทำไมปองกูลถึงมาแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ ปองกูล ได้เปิดเผยต่อสังคมว่ากำลังคบหาดูใจกับโบว์รวมถึงทำธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวร่วมกัน และก่อนหน้าที่จะเข้าพิธีแต่งงานไม่กี่วัน ปองกูล ได้โพสต์ภาพฉลองวันวาเลนไทน์กับโบว์ พร้อมทั้งพาโบว์ไปกินข้าวฉลองวันเกิด และเขียนคำอวยพรก่อนวันเกิด ทั้ง ๆ ที่กำลังเตรียมงานแต่งงานอยู่เบื้องหลัง[4] รวมถึงมีข่าวลือว่าปองกูลทำวราสีนีท้อง และแอบจดทะเบียนสมรสล่วงหน้าอยู่แล้ว[5] และในงานแต่งงานเองมีภาพที่บ่งบอกว่าปองกูลหายไปจากงานแต่งงานช่วงเย็นและวราสีนีนั่งร้องให้เสียใจอยู่ตามลำพังกับญาติ ก่อนที่ในช่วงเย็น ปองกูล จะโพสต์อินสตาแกรม ยอมรับว่า "ตนคบซ้อน" อย่างเป็นทางการ[6] จึงทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันในสังคมออนไลน์อย่างดุเดือด

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 หรือ 2 วันหลังแต่งงาน ปองกูล ได้จัดแถลงข่าวด่วน ณ สตูดิโอ Star Hollywood ก่อนเข้าถ่ายทำรายการ The Voice 2018 รอบถ่ายทอดสด[7] เพื่ออธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว โดยตนกล่าวว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในวันครบรอบ 4 ปี ตนกับวราสีนี มีความเห็นไม่ลงรอยกัน เพราะตนอยากแต่งงานมีลูกในขณะที่วราสีนียังมุ่งมั่นเรื่องการเรียนและการทำงาน วราสีนีจึงยื่นความเห็นให้ตนลองเปิดใจไปคบคนอื่นดู เผื่อว่าจะเข้ากับความต้องการของตนได้ ตนก็เชื่อว่าในใจวราสีนีไม่ได้คิดแบบนั้นจริง ๆ แต่พูดออกมาเพียงเพื่อระบายความอัดอั้นในใจ ซึ่งหลังจากนั้นโบว์ก็ได้เข้ามาในชีวิต ตนจึงเริ่มเปิดใจคบกับโบว์โดยที่โบว์ไม่รู้ว่าตนกำลังคบกับวราสีนีอยู่ และวราสีนีเองก็ไม่รู้ว่าตนไปคบกับโบว์เช่นกัน เรื่องนี้มีเพียงศิลปินและเพื่อนสนิทไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าตนคบซ้อน

ปองกูลยอมรับอีกว่าตนขี้ขลาดเกินที่จะสารภาพความจริง เพราะกลัวทั้งสองฝ่ายรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น จนแล้วจนรอดเรื่องก็ใหญ่ขึ้น ปัญหาพัลวันมากขึ้น และดำเนินมาจนถึงก่อนวันแต่งงาน มันเหมือนกับว่าตนสร้างโลกไว้สองใบ คือโลกของวราสีนี และโลกของโบว์ และโลกทั้งสองใบก็เดินหน้าแบบคู่ขนานกันโดยที่แต่ละฝ่ายก็ไม่รู้ว่ามีโลกอีกใบเกิดขึ้นมา ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งสองโลกนี้ดำเนินชีวิตตามทางของมันจนตนไม่สามารถหยุดมันไว้ได้ และตลอดเวลาที่ผ่านมาตนก็เลือกทางเดินชีวิตและเลือกอนาคตของเรื่องนี้ไม่ถูกเช่นกัน เหมือนกับเวลาขับรถแล้วเลี้ยวผิดไปเจอทางวันเวย์ มันก็จะผิดจนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แล้วยิ่งตนเลี้ยวซ้ำแล้วซ้ำอีก คราวนี้เรื่องมันเลยใหญ่เกินที่ตนจะรับไหว แต่ตนก็ต้องแบกทั้งสองโลกนี้ไม่ให้พังทลายลง ตนยอมรับว่าตนเป็นคนเห็นแก่ตัวและใจร้ายมากที่ไม่บอกเรื่องนี้ให้ทั้งสองคนรู้ก่อนแต่งงาน แต่กลับมาบอกเรื่องนี้หลังแต่งงานแล้ว ซึ่งโบว์เข้าใจดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตนยอมรับว่าโบว์และครอบครัวแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ โบว์ยอมลดสถานะลงเหลือเพียงแค่คนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันเท่านั้น แต่สำหรับวราสีนีตนก็ได้อธิบายให้วราสีนีเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังเสร็จพิธีในช่วงเช้า ว่าตนไปทำอะไรกับใครและเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง

ท้ายที่สุดปองกูลยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดจบลงด้วยดี ทุกคนเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และการแต่งงานกับวราสีนี เป็นการแต่งงานที่มีการวางแผนล่วงหน้าตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2561 ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรสล่วงหน้า และวราสีนีไม่ได้ท้องตามที่เป็นข่าว[8]

จากเหตุการณ์นี้ทำให้ค่ายไวท์มิวสิคประกาศพักงานปองกูลเป็นระยะเวลาหนึ่งพร้อมทั้งเลื่อนการปล่อยซิงเกิล "พรุ่งนี้ค่อย... (Cheat Day)" ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อให้กระแสข่าวและการโจมตีทางสื่อสังคมออนไลน์ซาลง และให้ปองกูลได้ฟื้นสภาพจิตใจให้พร้อมกลับมาทำงานตามปกติ อย่างไรเสียไวท์มิวสิคยืนยันว่าประกาศนี้ไม่ใช่ประกาศแบนปองกูล ทุกอย่างเป็นเพราะสภาพจิตใจของปองกูลที่ไม่พร้อมต่อการทำงานและการเผชิญหน้ากับสังคมเท่านั้น ส่วนคอนเสิร์ตที่รับงานไว้อยู่ก่อนแล้ว ปองกูลจะเข้าไปแสดงตามปกติ[9]