อาคารปัจจุบัน ของ ปาแลเดอชาโย

ต่อมาได้มีการรื้อถอนอาคารเดิมขึ้น โดยแทนที่ด้วยอาคารแบบใหม่ ซึ่งจะใช้เปิดตัวในงานการแสดงนิทรรศการนานาชาติประจำปี ค.ศ. 1937 โดยใช้ชื่อใหม่ว่า ปาแลเดอชาโย (Palais de Chaillot) โดยได้สร้างถัดขึ้นไปบนยอดเนินเขาแทน โดยการออกแบบนั้นได้ถูกเรียกว่าเป็นแบบสมัยใหม่หรืออาร์ต-เดโคยุคปลาย ซึ่งเป็นผลงานออกแบบของเลอง อาเซมา (Léon Azéma), ฌัก การ์ลูว์ (Jacques Carlu) และหลุยส์-อีปอลิต บัวโล (Louis-Hippolyte Boileau) โดยมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับอาคารเดิม คือ มีตัวอาคารยื่นออกเป็นปีกทั้งสองข้าง โดยเป็นลักษณะโค้ง โดยสร้างบนรากฐานของอาคารเดิมทั้งหมด เว้นแต่เพียงว่า ปีกโค้งทั้งสองอาคารนั้นเป็นอาคารแยกกัน โดยไม่มีอาคารเชื่อมตรงกลาง แต่เว้นเป็นลานจัตุรัสเปิดโล่งแทน โดยสามารถเห็นทิวทัศน์ของหอไอเฟลได้จากจัตุรัสทรอกาเดโรผ่านจากลานว่างแห่งนี้ได้เลย

อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ณ ทรอกาเดโร ในปี ค.ศ. 1940

ในปัจจุบันภายในตัวอาคารเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ดังนี้

  • พิพิธภัณฑ์แห่งชาติทางทะเล (Musée national de la Marine)
  • พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยา (Musée de l'Homme)
  • พิพิธภัณฑ์ทางสถาปัตยกรรมแห่งชาติ (Cité de l'Architecture et du Patrimoine) และพิพิธภัณฑ์อนุสาวรีย์แห่งชาติของฝรั่งเศส (Musée national des Monuments)
  • โรงละครแห่งชาติแห่งชาโย (Théâtre national de Chaillot) ตั้งอยู่ด้านล่างของลานว่างระหว่างสองอาคาร (esplanade)

บริเวณลานทางเดินแห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ได้ยืนถ่ายรูปพร้อมฉากหลังซึ่งเป็นหอไอเฟลในระหว่างการเยี่ยมชมครั้งสั้น ๆ ในปีค.ศ. 1940 ซึ่งต่อมาในภายหลังกลายเป็นภาพเชิงสัญลักษณ์ของสงครามโลกครั้งที่ 2

นอกจากนี้ ที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้ตกลงประกาศปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 ซึ่งได้มีการสร้างอนุสรณ์สถานเป็นแท่นหิน และบนลานว่างแห่งนี้จึงมีชื่อใหม่ว่า "แอ็สปลานาดเดดรัวเดอลอม" (Esplanade des Droits de l'Homme) และยังเคยเป็นที่ทำการชั่วคราวขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในระหว่างการก่อสร้างที่ทำการถาวรในสมัยนั้น ซึ่งเรียกว่า "Palais de l'OTAN" (ในปัจจุบันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยปารีส-โดฟีน)