ที่มา ของ ป้อมดาว

ระบบป้อมของ plan of โควอร์ดอง (Coevorden) ที่เป็นทรงหลายเหลี่ยมที่กระจายออกไปจากศูนย์กลาง โดยมีการก่อสร้างระบบกำแพงดินอันหนาแน่นด้านนอกที่สร้างใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยมอริสแห่งนาซอ เจ้าชายแห่งออเรนจ์ (Maurice of Nassau, Prince of Orange)

ก่อนหน้าการสร้างป้อมดาว ป้อมในยุคกลางมักจะตั้งอยู่บนเนินสูง จากป้อมผู้ป้องกันป้อมสามารถยิงธนูลงมายังข้าศึกได้ ปราสาทยิ่งสูงเท่าใดรัศมีของการยิงก็ยิ่งกว้างไกลขึ้น ทางเดียวที่ข้าศึกจะยึดที่มั่นได้ก็ด้วยการพังประตูหน้าหรือปีนกำแพงด้วยบันได ป้อมลักษณะนี้ยากต่อการยึดโดยผู้โจมตีป้อม ฉะนั้นการสร้างป้อมประเภทนี้จึงสร้างตามจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ

เมื่อการโจมตีป้อมวิวัฒนาการมาเป็นการใช้ปืนใหญ่ในการโจมตีในคริสต์ศตวรรษที่ 15 วิศวกรทางยุทธศาสตร์ก็ตอบโต้โดยการสร้างกำแพงในคูและกันด้วยกำแพงดินลาดเพื่อจะได้ไม่ถูกทำลายด้วยปืนใหญ่ที่ยิงมาโดยตรง และเพื่อให้กำแพงที่ตอนบนเป็นดินช่วยรับกำลังปะทะของระเบิดที่ทำให้แรงการทำลายลดลง และเมื่อทำได้เช่นที่ป้อมมาโนเอล (Fort Manoel) ในมอลตา “คู” ก็ขุดเข้าไปในผาหิน และ “กำแพง” ด้านในของคูก็เป็นหินธรรมชาติ แต่เมื่อกำแพงยิ่งเตี้ยลงก็ยิ่งเป็นการง่ายขึ้นต่อการโจมตี

จุดอ่อนอีกอย่างหนึ่งคือป้อมทรงกลมที่นิยมสร้างกันในยุคกลางและหอเล็ก เป็นการทำให้เกิด “จุดมรณะ” (dead space) หรือ “บริเวณมรณะ” (dead zone) ซึ่งเป็นจุดที่ค่อนข้างปลอดจากการยิงป้องกันเพราะผู้ยิงไม่สามารถจะยิงอ้อมกำแพงโค้งจากอีกด้านหนึ่งของกำแพงได้ เพื่อที่จะแก้ปัญหานี้หอที่เคยเป็นทรงสี่เหลี่ยมหรือกลมก็เปลี่ยนไปเป็นแบบรูปข้าวหลามตัดยื่นออกไปเพื่อไม่ให้ผู้โจมตีปราสาทมีที่หลบได้ คูและกำแพงก็ออกแบบที่ทำให้ตล่อมกองทัพของผู้โจมตีให้เข้ามาในบริเวณที่ต้องการและทำให้การโจมตีโดยปืนใหญ่สร้างความวุ่นวายให้แก่ผู้ที่จะพยายามปีนกำแพงด้วย การออกแบบมีจุดประสงค์ที่จะไม่ไห้ผู้โจมตีมีที่หลบภัยจากการต่อต้านได้