เมนูนำทาง
ป้ายทะเบียนรถ ป้ายทะเบียนรถในแต่ละประเทศป้ายทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลในประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันทำจากอะลูมิเนียม มีขนาด 12 x 6 นิ้ว ในสหรัฐอเมริกาแต่ละรัฐจะกำหนดสีและเลขทะเบียนโดยหน่วยงานของแต่ละรัฐ 30รัฐจากทั้งหมด 50รัฐ บังคับให้รถทุกคันมีป้ายทะเบียนทั้งด้านหน้าและด้านหลังของรถยนต์ จำนวนตัว6-7ตัวอักษร ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งตัวเลขและตัวอักษรได้ทุกตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละรัฐเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งทวีปอเมริกาเหนือ ยกเว้นแซงปีแยร์และมีเกอลงซึ่งเป็นดินแดนของประเทศฝรั่งเศส[1]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ป้ายทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลในประเทศไทย ปัจจุบันทำจากอะลูมิเนียม มีขนาด 13.5 x 6 นิ้ว พื้นป้ายมีลักษณะสะท้อนแสง ตัวอักษรและตัวเลขจะถูกปั๊มนูนออกจากผิวหน้าของป้ายทะเบียน ทำให้ด้านหลังของป้ายนั้นบุ๋มเว้าลงไปตามหมายเลขทะเบียนด้วยเช่นกัน ประเภทของป้ายทะเบียนนั้นสามารถใช้จำแนกประเภทการใช้งานรถได้ ดังนี้
สำหรับป้ายทะเบียนรถอีกประเภทหนึ่งคือป้ายทะเบียนกราฟิก ซึ่งมีขึ้นภายหลังป้ายทะเบียนแบบปกติ ป้ายทะเบียนนี้จะมีพื้นหลังเป็นรูปภาพ สำหรับเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ (เลขสวย) เช่น ฌร 9999 ซึ่งเลขทะเบียนเหล่านี้จะถูกเปิดประมูลโดยกรมการขนส่งทางบก ป้ายทะเบียนชนิดนี้จะมีภาพพื้นหลังป้าย ที่สื่อถึงจังหวัดนั้นๆ เช่น กรุงเทพมหานคร จะมีรูปวัดพระแก้ว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานพระราม 8 เป็นพื้นหลัง เป็นต้น ทะเบียนนี้คือทะเบียนประมูลในช่วงแรกมีการเปิดประมูลป้ายทะเบียนกราฟิกเฉพาะที่เป็นทะเบียนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง เท่านั้น [4] แต่ต่อมาได้เปิดประมูลป้ายทะเบียนเลขสวยของรถตู้และรถกระบะเพิ่มด้วย แต่ป้ายทะเบียนประมูลของรถตู้และรถกระบะจะเป็นภาพพื้นหลังป้ายที่เหมือนกันหมดทั้งประเทศ โดยมีโทนสีเช่นเดียวกับสีและตัวอักษรของทะเบียนปกติ คือขาวฟ้าและขาวเขียวตามลำดับ ไม่ได้ใช้ภาพพื้นหลังป้ายตามแบบของจังหวัดต่างๆแต่อย่างใด
เดือนสิงหาคม 2557 ได้เริ่มมีการประมูลป้ายรถตู้ พื้นขาว อักษรฟ้า หมวด ฮล เฉพาะจังหวัดกรุงเทพมหานคร ในครั้งนั้นได้เงินไปจำนวน 25,273,969.- บาท[5]
ป้ายทะเบียนรถเกิดขึ้นพร้อมกับกฎหมายว่าด้วย รถยนต์ฉบับแรก คือ พระราชบัญญัติรถยนต์ รัตนโกสินทร์ศก 128 (พ.ศ. 2452) ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีเจตนารมณ์เพื่อต้องการควบคุมรถและทราบว่าใครเป็น เจ้าของรถ และเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี
ถึงแม้ว่าจะมีป้ายทะเบียนรถเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แต่ตามหลักฐานได้มีการออกกฎหมายของกระทรวงครั้งแรกเริ่ม มีป้ายทะเบียนรถตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 โดยรูปแบบเป็นแบบ กท.เรียงดิ่ง มีหมวดตัวอักษรและตัวเลขอยู่ในแผ่นป้าย ขนาดมาตรฐานกว้าง 11 ซม. ยาว 39 ซม. พื้นหลังเป็นสีดำ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 มีการเปลี่ยนจากรูปแบบ กท. เรียง ดิ่งเป็นแบบเรียงตามแนวนอน มีการเปลี่ยนขนาดแผ่นป้าย เป็นกว้าง 15 ซม. ยาว 30 ซ ม . และพื้นหลังเป็นสีขาว
ในปี พ.ศ. 2526 กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการเปลี่ยนจาก ตราโล่ เป็นตัวย่อ ขส อย่างงที่เราเห็นกันในปัจจุบัน และไดมีการเปลี่ยนงานรับผิดชอบดูแลป้ายทะเบียนรถจาก กระทรวงมหาดไทยมาเป็นของกระทรวงคมนาคม ในปี พ.ศ. 2531 ซึ่งรูปแบบทะเบียนรถยังคงเหมือนเดิมทุกประการ
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 โดยมีการเพิ่มตัวอักษรเป็น 2 ตัว เช่น กก - 9999 รวมทั้งเปลี่ยนขนาดแผ่นป้ายให้ยาวขึ้น จากขนาด ยาว 30 ซม. เป็นยาว 34 ซม. เนื่องจากมีการเพิ่มตัวอักษรขึ้นมาอีก 1 ตัว ต่อมามีการแก้ไขชื่อจังหวัด จากชื่อเต็ม เช่น กรุงเทพมหานคร เป็น กทม / จังหวัดเชียงใหม่ เป็น ชม ในปี พ.ศ. 2540 แต่ใช้ได้เพียง 1 ปี ก็ต้องกลับมาใช้ชื่อจังหวัดแบบเดิม เนื่องจากมีปัญหาในด้านการมองเห็น เช่น ตัวอักษรตัวเล็กไปบ้าง มองเห็นไม่ชัดบ้าง และบางทีไม่ทราบว่าตัวอักษรย่อนั้นเป็นตัวย่อของจังหวัดใด
ป้ายทะเบียนรถยนต์ในประเทศลาว
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เมนูนำทาง
ป้ายทะเบียนรถ ป้ายทะเบียนรถในแต่ละประเทศใกล้เคียง
ป้ายทะเบียนรถ ป้ายลงทะเบียน วันป้ายทีก้ง ป้ายจราจรในประเทศไทย ป้ายสุสาน ป้ายหยุดรถไฟถ้ำกระแซ ป้ายจราจรในประเทศกัมพูชา ป้ายหยุดรถไฟจรัญสนิทวงศ์ ป้ายหยุดรถไฟยมราช ป้ายฮอลลีวูดแหล่งที่มา
WikiPedia: ป้ายทะเบียนรถ http://www.madehow.com/Volume-5/License-Plate.html http://tabien2you.com/ http://www.tabienrod.com/?cat=8 http://www.dailynews.co.th/businesss/157279 http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/... https://www.dailynews.co.th/economic/590882