ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ของ ผิงเหยา

ผิงเหยายังคงมีโครงสร้างของเมืองเช่นเดียวกับสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ภายในเมืองและบริเวณใกล้เคียงเป็นที่ตั้งของโบราณสถานมากกว่า 300 แห่ง มีอาคารบ้านเรือนสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงเกือบ 4,000 หลังได้รับการอนุรักษ์ให้คงลักษณะเช่นเดิม ถนนต่างๆยังคงมีลักษณะเช่นเดียวกับสมัยโบราณ

ใน ปี พ.ศ. 2529 รัฐบาลจีนได้ประกาศให้เมืองผิงเหยาเป็นเมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมประจำชาติ และต่อมาในปี พ.ศ. 2540 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเมืองผิงเหยาให้เป็นมรดกโลก

กำแพงเมือง

กำแพงเมืองผิงเหยาสร้างขึ้นในปีที่ 3 ของรัชสมัยหงหวู่ฮ่องเต้ (พ.ศ. 1913) มีประตูเมืองอยู่ 6 ประตู โดยกำแพงด้านทิศเหนือและทิศใต้มีประตูด้านละ 1 ประตู ส่วนด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกมีด้านละ 2 ประตู ทำให้กำแพงเมืองมีลักษณะเหมือนเต่า ตัวกำแพงสูงประมาณ 12 เมตร ความยาวโดยรอบ 6,000 เมตร นอกกำแพงมีคูเมืองกว้าง 4 เมตร และลึก 4 เมตร บนกำแพงมีป้อมปราการตั้งที่มุมกำแพงทั้งสี่ และหอสังเกตการณ์ 72 หลัง

เมื่อ พ.ศ. 2547 กำแพงเมืองด้านทิศใต้ส่วนหนึ่งพังลง แต่ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมจนเรียบร้อย ขณะที่กำแพงส่วนอื่นๆยังคงทนแข็งแรงอยู่ ถือได้ว่าเป็นกำแพงเมืองโบราณที่ยังสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ทำให้กำแพงเมืองนี้เป็นจุดเด่นที่สำคัญในเมืองมรดกโลกแห่งนี้