ประวัติ ของ ผุดผาดน้อย_วรวุฒิ

แต่เดิม ผุดผาดน้อยเกิดอาการเบื่อหน่ายช่วงเวลากลางวันที่ไม่มีการซ้อมมวย จึงได้ไปสมัครเรียนที่วิทยาลัยช่างกลสยาม รุ่นที่ 6 แผนกช่างยนต์ เมื่อจบปวช. จึงสมัครเรียนต่อที่วิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ รุ่นที่ 1 แผนกช่างยนต์เหมือนเดิม เรียนอยู่ 3 ปี แต่ไม่จบ เพราะไม่ถนัดพวกวิชาคำนวณและวิทยาศาสตร์ช่าง

ผุดผาดน้อย รุ่งโรจน์บนสังเวียนมวยไทยระหว่างปี 2513 - 2519 ขึ้นชกประมาณ 130 ครั้ง แพ้เพียง 10 กว่าครั้ง เป็นแชมป์ 3 รุ่น คือ ฟลายเวท, จูเนียร์เฟเธอร์เวท และจูเนียร์ไลท์เวท ของสนามมวยเวทีลุมพินี และยังได้แชมป์ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เมื่อสมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยการชนะ "ขุนพลน้อย เกียรติสุริยา" รวมทั้งแชมป์ "ยอดมวยอีสาน" ในการชิงกับ "เริงศักดิ์ พรทวี" ผุดผาดน้อยมีค่าตัวเรือนแสน ซึ่งในยุคเดียวกันนั้นมีเพียงเขา, วิชาญน้อย พรทวี, พุฒ ล้อเหล็ก และแสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์

ผุดผาดน้อย เมื่อรุ่งขึ้นมาไม่นานก็แทบหาคู่ชกในรุ่นเดียวกันไม่ได้ต้องแบกน้ำหนักตลอด และได้ปราบยอดมวยไทยชื่อดังในยุคเดียวกันมาแล้วหลายคน อาทิ วิชาญน้อย พรทวี, อภิเดช ศิษย์หิรัญ, ณรงค์น้อย เกียรติบัณฑิต, เนตร ศักดิ์ณรงค์, ฟ้าใส ทวีชัย, ไชยยุทธ สิทธิบุญเลิศ, ศิริมงคล ลูกศิริพัฒน์, ยอดสิงห์ ส.พญาไท, ขุนพลน้อย เกียรติสุริยา เป็นต้น

ไฟต์ที่แฟนมวยรุ่นเก่าไม่มีวันลืมคือการชกกับ ขุนค้อนเพชรฆาต "หัวไทร สิงห์เมืองนคร" ในยก 4 ผุดผาดน้อยโดนหมัดของหัวไทรลงไปให้กรรมการนับแปด 2 ครั้งติด ๆ กัน ขณะกำลังซวนเซลงไปนอนอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการแพ้น็อคทันที เขาได้สวมหัวใจสิงห์บวกด้วยศอกซ้ายจนคู่ต่อสู้ลงไปกอง ผุดผาดน้อยพลิกกลับมาชนะน็อคอย่างเหลือเชื่อ ผู้ชมในสนามมวยเวทีลุมพินีลุกขึ้นตะโกน "ไอ้หมูใจเพชร" พร้อม ๆ กัน

ผุดผาดน้อยเป็นนักมวยเชิงดี ชกสวย มีลูกเตะเป็นอาวุธหลัก คือ แข้งซ้าย จนได้รับฉายาว่า "ไอ้หมูแข้งทอง" จากสื่อมวลชน มียอดมวยร่วมยุคเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ชกกัน คือ "พุฒ ล้อเหล็ก" เพราะเป็นเพื่อนสนิท ฝึกซ้อมอยู่ด้วยกัน และเป็นมวยในสังกัดของ "ครูเฒ่า" ชนะ ทรัพย์แก้ว เหมือนกัน

ผุดผาดน้อย ประกาศแขวนนวมแบบสายฟ้าแลบเมื่อมีอายุเพียง 25 ปี หลังจากนั้นได้เดินทางไปทำงานกับคนไทยในลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ราว 2 ปี กลับมาเมืองไทยเมื่อบิดาเสียชีวิต และลงท้ายเหมือนยอดมวยหลาย ๆ คนคือการกลับมาชกอีกครั้ง แม้ทำได้สวยงาม เอาชนะ "วังไพร โรจนสงคราม" ในการกลับมาครั้งแรก แต่ที่เหลืออีก 4 ครั้ง แพ้รวด เนื่องจากการร้างลาเวที ร่างกายไม่ฟิตเหมือนเดิม บวกกับชีวิตส่วนตัวที่มีเพื่อนฝูงจำนวนมากและเริ่มดื่มหนักขึ้น