ไททัน

ไททัน (Titan) เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมารูปร่างเหมือนมนุษย์ โดยตำนานของชาวมาเล (Marleyan) เล่ากันว่า เมื่อ 2000 ปีมาแล้ว มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ ยูมีร์ ฟริทซ์ ได้ทำพันธสัญญากับปีศาจ ให้สามารถกลายร่างเป็นไททันได้ นับเป็นไททันตัวแรก แต่ถ้าหากเป็นตำนานของชาวเอลเดีย (Eldian) จะเล่าว่า ยูมีร์ ฟริทซ์ มีพลังไททันอยู่แล้ว และเป็นพระเจ้าของชาวเอลเดีย ซึ่งเธอได้ใช้พลังนั้นปกครองเมืองต่าง ๆ และได้ก่อตั้งอาณาจักรเอลเดีย (Eldia) ขึ้น ซึ่งชาวเอลเดียล้วนสืบเชื่อสายมาจากยูมีร์ และชาวเอลเดียจะถูกทำให้เป็นไททันไร้สติได้ด้วยการฉีดน้ำไขสันหลังไททัน และยูมีร์ ฟริทซ์ ก็มีพลังในการควบคุมไททันทั้งปวงดั่งใจนึก ต่อมา ยูมีร์ ฟริทซ์ ก็เสียชีวิต หลังจากครองราชย์ได้ 13 ปี ซึ่งดวงวิญญาณของเธอได้แยกออกเป็น 9 ส่วน เกิดเป็นไททันมีสติที่มีพลังทั้ง 9 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพลังควบคุมไททันทั้งปวง หรือพลังราชาไททัน และไททันทั้ง 9 ได้ร่วมมือกันขยายอาณาจักรเอลเดียอย่างรวดเร็ว จนเกิดเป็นสงครามกับชนชาติต่างๆ ยาวนานกว่า 1800 ปี จนกระทั่งชนชาติมาเล (Marleyan) ได้ทำการแทรกแซงอาณาจักรเอลเดียจากภายใน จนรัฐบาลมาเลได้พลังไททัน 7 ใน 9 จากรัฐบาลเอลเดียได้สำเร็จ กษัตริย์ฟริทซ์องค์ที่ 145 (The First King Titan) ผู้ไม่ชอบทำสงคราม จึงได้อพยพชาวเอลเดียไปอยู่บนเกาะยูโทเปีย (Paradis Island) แล้วใช้พลังไททันของตนสร้างกำแพงขึ้นมาล้อมรอบถึง 3 ชั้น โดยใช้ไททันยืนเรียงกัน เพื่อป้องกันคนจากโลกภายนอก และกษัตริย์ฟริทซ์ก็ได้ใช้พลังลบความทรงจำที่เกี่ยวกับโลกภายนอกของประชาชนทั้งหมด อีกทั้งได้ปกปิดเรื่องราวของโลกภายนอกทั้งหมด แล้วทำให้ประชาชนเชื่อว่าเป็นมนุษยชาติกลุ่มสุดท้าย อีกทั้งยังข่มขู่โลกภายนอกอีกว่า ถ้าหากบุกมายังเกาะ จะให้ไททันหลายสิบล้านตัวที่ถูกทำให้เป็นกำแพงออกมาเหยียบย่ำทุกอย่างจนจมธรณี แต่ถึงอย่างนั้นก็มีประชาชนชาวเอลเดียที่ยังตกค้างอยู่โลกภายนอก ซึ่งได้ถูกชาวมาเลกดขี่ข่มเหงอย่างหนัก ชาวเอลเดียส่วนหนึ่งจึงตั้งขบวนการฟื้นฟูเอลเดียขึ้น เพื่อจะลอบเข้าไปในกำแพง แล้วชิงพลังราชาไททันจากกษัตริย์ฟริทซ์ผู้ซึ่งทอดทิ้งประชาชนชาวเอลเดีย ซึ่งมีสมาชิกของขบวนการเพียงคนเดียวที่ลอบเข้าไปในกำแพงได้ คือ หมอเยเกอร์ ต่อมาขบวนการดังกล่าวก็ถูกรัฐบาลมาเลปรามปราบจนเกือบจะสิ้นซาก ซึ่งชาวเอลเดียที่เป็นกบฏจะถูกจับไปที่เกาะยูโทเปียแล้วฉีดน้ำไขสันหลังของไททันให้กลายเป็นไททันไร้สติแล้วก็ปล่อยไว้บนเกาะยูโทเปีย อนึ่งรัฐบาลมาเลก็พยายามจะยึดเกาะยูโทเปีย เพราะเกาะยูโทเปียมีแหล่งทรัพยากรที่สำคัญ ซึ่งรัฐบาลมาเล และโลกภายนอกล้วนมีเทคโนโลยีและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยทั้งเรือรบ และเครื่องบินรบ แต่รัฐบาลมาเลไม่พร้อมที่จะบุกเข้ามา เพราะได้ทำสงครามกับสหภาพตะวันออกกลาง แต่ก็มีความพยายามจากรัฐบาลมาเลมาแล้วครั้งหนึ่ง คือการส่งไททัน 60 เมตร และไททันเกราะ เข้าไปทำลายกำแพงมาเรียในตอนแรก1) การแบ่งตามความสูงสำหรับการแบ่งประเภทไททันตามความสูงนั้น แบ่งเป็น 4 ระยะความสูงด้วยกัน ได้แก่ ประเภท 50 เมตร ขึ้นไป , 15 เมตร, 7 เมตร และ 3-6 เมตร2) การแบ่งตามคุณลักษณะพิเศษสามารถแบ่งไททันตามลักษณะพิเศษได้ทั้งหมด 3 ประเภทหลัก ดังนี้1.ไททันวิปริต Deviant (Abnormal or Aberrant) : ไททันประเภทนี้ เป็นพวกไร้สติปัญญา เน้นกินมนุษย์เป็นหลัก และมีความความโหดร้ายเฉพาะตัว ทำให้ไม่สามารถคาดเดาทิศทางการต่อสู้ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยเพราะความไร้สติปัญญา จึงทำให้มนุษย์พอมีช่องทางจัดการด้วยสติปัญญาของมนุษย์ได้ไม่ยาก2.ไททันกำแพง (Wall Titans) : ไททันปริศนาที่ใช้พลังการเปลี่ยนร่างไททันของตัวเองให้เป็นหิน และใช้ร่างของตนเพื่อขึ้นรูปกำแพง โดยไททันประเภทนี้ถูกฝังอยู่ในกำแพงซีน่า ซึ่งหน่วยวิจัยไททัน ของทีมสำรวจก็ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับไททันประเภทนี้มากนัก จึงถูกจัดเป็นไททันอีกประเภทแยกออกมา3.ไททันทั้ง 9 (The Nine Titan) : เป็นไททันที่เกิดขึ้นจากการได้รับดวงวิญญาณของไททันทั้ง 9 ที่แบ่งแยกออกจากตัวของ ยูมิล ฟริทซ์ หลังเธอเสียชีวิต โดยทั่วไปจะได้รับหรือสืบทอดวิญญาณไททันจากการกินมนุษย์ผู้ครอบครองไททันคนก่อนในขณะที่อยู่ในร่างไททันไร้สติปัญญาเพื่อให้ได้รับวิญญาณ สติปัญญา และกลับคืนสู่ร่างมนุษย์ ผู้ที่ได้รับวิญญาณไททันจะสามารถกลายร่างเป็นไททัน (Titan Shifter) ได้ด้วยการหลั่งเลือด ทั้งนี้ผู้ครอบครองไททันทั้ง 9 จะถูกคำสาปแห่งยูมิลไปพร้อมกัน ทำให้มีชีวิตต่อไปได้อีกเพียง 13 ปีนับจากวันที่ได้ครองพลัง ปัจจุบัน 4 ใน 9 เป็นไททันที่อยู่ภายใต้อาณัติของอาณาจักรมาเลย์ ด้วยการถือครองของนักรบแห่งมาเล ซึ่งไททันทั้ง 9 ประกอบไปด้วย1. ไททันก่อกำเนิด (The Founding Titan) เป็นไททันที่มีคุณสมบัติในการควบคุมไททันทั่วไปให้อยู่ภายใต้อาณัติของตนเองได้ และยังมีความสามารถในการบริหารและลบความทรงจำ และสามารถแบ่งพลังออกมาทำอย่างอื่นได้อย่างไม่มีขีดจำกัด เป็นที่สุดของพลังที่ไททันทุกคนต้องการครอบครอง เดิมทีพลังนี้จะสืบทอดกันเฉพาะภายในเชื้อพระวงศ์ โดยตระกูลฟริทซ์ หรือตระกูลรีส ที่สืบสายโลหิตกันมาเท่านั้น แต่เพราะ กรีช่า เยเกอร์ หน่วยสอดแนมของอาณาจักรมาเลย์ ขโมยพลังนี้มาจาก ฟรีด้า เรส จึงทำให้ เอเรน เยเกอร์ ได้ถือพลังนี้ไปพร้อมกับร่างไททันโจมตี แต่ในการเรียกใช้พลัง เอเรน จะต้องใช้เลือดของราชวงศ์ในการเรียกใช้พลัง2. ไททันโจมตี (The Attack Titan) เป็นไททันที่มีคุณสมบัติในการโจมตีสูง มีความคล่องตัวทั้งด้านกายภาพและความเร็ว สามารถพลิกแพลงการโจมตีตามความคิดได้อย่างอิสระ ปัจจุบัน เอเรน เยเกอร์ ถือพลังนี้พร้อมกับร่างไททันต้นกำเนิด3. ไททันมหึมา (The Colossal Titan) เป็นไททันที่มีขนาดใหญ่ ความสูงจะแตกต่างโดดเด่นกับไททันธรรมดาทั่วไป มีความแข็งแกร่งและพลังโจมตีที่สูง แต่ไม่มีผิวหนังแข็งเหมือนหุ้มเกราะอย่างเช่นไททันเกราะ และสามารถสันดาปความร้อนภายในร่างกายเพื่อสร้างไอน้ำร้อนให้เผาทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวได้ เดิม เบอร์โทลต์ ฮูเวอร์ ถือครองพลังนี้ ปัจจุบัน อาร์มิน อาร์เลิร์ท ถือพลังนี้4. ไททันเกราะ (The Armored Titan) เป็นไททันที่มีคุณสมบัติในการป้องกัน และตั้งรับที่สูง สามารถสร้างผิวหนังส่วนใหญ่ให้แข็งแกร่งจนใบมีดหรืออาวุธใดของมนุษย์ไม่สามารถทำร้ายได้ ยกเว้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว หรือส่วนข้อต่อ แต่เพราะผิวหนังส่วนใหญ่แข็งแกร่งมาก จึงถูกเปรียบเป็นเหมือนถูกหุ้ม “เกราะ” นั่นเอง และนี่ก็คือเหตุผลที่ไททันชนิดนี้ยากต่อการจัดการอีกระดับหนึ่ง ปัจจุบัน ไรเนอร์ บราวน์ นักรบแห่งมาเลย์ ถือพลังนี้5. ไททันหญิง (The Female Titan) เป็นไททันที่มีลักษณะเฉพาะคือเป็นไททันเพศหญิง สามารถสร้างผลึกคริสตัลจากร่างกายเพื่อใช้ในการโจมตีหรือการป้องกันได้ทุกรูปแบบ พลังนี้เป็นพลังเฉพาะทางจะสืบทอดกันเฉพาะบุคคลที่เป็นเพศหญิงเท่านั้น ปัจจุบันวิญญาณไททันนี้ไม่มีคนถือครองต่อ เนื่องมาจาก แอนนี่ เลออนฮาร์ท ผู้สืบทอดคนก่อน ได้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายของเธอในระหว่างการต่อสู้กับ เอเรน เยเกอร์ ที่เขตสโตเฮส วอลล์ซีนา ปกคลุมร่างมนุษย์ด้วยคริสตัล จึงทำให้วิญญาณถูกผนึกไปพร้อมกัน แต่เพราะด้วยคำสาปของยูมิล ในปี 854 เธอจึงเหลืออายุขัยเพียงสองปีเท่านั้น และไททันหญิงน่าจะได้ผู้สืบทอดคนใหม่ในปี 8566. ไททันสัตว์ป่า (The Beast Titan) เป็นไททันที่ไม่มีความสามารถใดๆเหมือนกับไททันมีสติตัวอื่น ความสามารถในการ ปา หรือโยนสิ่งของในระยะไกลที่รุนแรงและรวดเร็วนั้นเป็นผลมาจากการฝึกฝนของตัวผู้ใช้ และพลังในการควบคุมไททันตนอื่นนั้นมาจากความสามารถทางสายเลือดของผู้ใช้ ปัจจุบัน ซีค เยเกอร์ นักรบแห่งมาเลย์และเป็นพี่ชายต่างแม่ของเอเรน เป็นผู้ถือครองพลังนี้7. ไททันกราม (The Jaw Titan) เป็นไททันที่มีจุดเด่นที่มีฟันแหลมคม สามารถกัดกินทุกสิ่งอย่างได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญไททันนี้ยังมีความเร็วและความคล่องตัวสูงมาก สามารถกระโดดไปมาเพื่อหลบการโจมตีได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน พอร์โค แกลเลียด นักรบแห่งมาเลย์ เป็นผู้ถือพลังนี้ โดยชิงพลังคืนมาจาก ยูมีร์ ที่แย่งพลังมาจากพี่ชายของเขาเอง8. ไททันเกวียน (The Cart Titan) เป็นไททันที่มีจุดเด่นที่มีพลังชีวิตที่สูงมาก สามารถแปลงเป็นร่างไททันและอยู่ในร่างไททันได้นาน ปัจจุบัน พีค นักรบแห่งมาเล เป็นผู้ถือครองพลังนี้9. ไททันค้อนสงคราม (The War Hammer Titan) เป็นไททันที่ตระกูลไทเบอร์แห่งอาณาจักรมาเลย์ เป็นผู้ถือครอบครองพลังนี้ โดยพยายามปกปิดตัวตนของผู้ถือครองไว้เป็นความลับ ความสามารถของไททันค้อนสงครามนั้นพิเศษกว่าไททันอื่นๆ ตรงที่สามารถแยกร่างต้นออกจากร่างไททันแล้วความคุมจากระยะไกล ทำให้ไม่มีจุดอ่อนที่ด้านหลังคอ และร่างไททันนั้นสามารถสร้างเกราะอ่อนที่ยืดหยุ่นให้คลุมไว้โดยไม่เสียความสามารถในการเคลื่อนไหว แถมยังสามารถสร้างเกราะแข็งเป็นอาวุธรูปแบบต่างๆเพื่อใช้ในการต่อสู้ได้อีกด้วย นับว่าเป็นไททันที่รับมือได้ยากมาก ปัจจุบัน เอเรน เยเกอร์ เป็นผู้ถือครองเดิมที ไททันทั้ง 9 จะต้องมีผู้ถือครองทั้งหมด 9 คน แต่เพราะพลังของไททันก่อกำเนิดถูก กรีช่า เยเกอร์ ขโมยไปด้วยการกัดกิน ฟรีด้า เรส ในร่างไททัน ทำให้พลังไททันก่อกำเนิดของฟรีด้าหลอมรวมเข้ากับไททันโจมตีของกรีช่า จึงทำให้ผู้ถือครองไททันทั้ง 9 ในปัจจุบันเหลือเพียง 7 คน ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานว่า ถ้าเกิดว่าไม่ใช่ผู้ครอบครองไททันทั้ง 9 ชิงพลังไททันต้นกำเนิดไป แต่เป็นไททันไร้สติที่ไม่ได้เกิดจากสายโลหิตของตระกูลฟริทซ์ หรือตระกูลเรสขโมยพลังไปแทน ไททันตัวที่ขโมยไปนั้นก็จะไม่ได้รับสติสัมปชัญญะคืนมาเหมือนการครองพลังไททันทั้ง 9 และต้องอยู่ในร่างนั้นไปอีก 13 ปีจากคำสาปแห่งยูมิล หรือจนกว่าจะมีไททันไร้สติจากสายโลหิตเกิดขึ้นมา หรือผู้ครอบครองไททันทั้ง 9 ชิงพลังไป

อาวุธ

อุปกรณ์เคลื่อนย้าย 3 มิติ (Vertical maneuvering equipment)

อุปกรณ์ที่ช่วยให้มนุษย์สามารถเคลื่อนไหวราวกับเหาะได้และมีความเร็วสูง โดยเครื่องมือชิ้นนี้ประกอบด้วย เครื่องยิงสลิงและสมอที่เหน็บไว้ที่เอว ใช้เพื่อยิงสลิงยึดผู้สวมใส่กับสิ่งก่อสร้างต่างๆ หรือสามารถประยุกต์ใช้ในสถานะการณ์ต่างๆได้ ถังบรรจุแก๊สจำนวน 2 ถังที่เหน็บไว้ที่เอวทั้งสองข้าง หัวปล่อยแก๊สที่ติดตั้งไว้กับเครื่องยิงสลิงเพื่อช่วยให้สามารถดึงตัวไปหาสลิง และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงได้ และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ อาวุธที่มีไว้สำหรับต่อสู้กับพวกไททัน ดาบสองมือที่เก็บไว้กับถังบรรจุแก๊ส ทั้งทนทานคมกริบและยืดหยุ่นสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้กับไททัน มีลักษณะคล้ายใบมีดคัตเตอร์ สามารถถอดเปลี่ยนใบดาบได้ มีความยาวราวๆ 120 เซนติเมตร

ปืนใหญ่ประจำกำแพง (Wall cannon)

อาวุธหลักในการกำจัดพวกไททันที่มีมาก่อนจะมีอุปกรณ์เคลื่อนย้ายสามมิติ ลักษณะเป็นปืนใหญ่ขนาดใหญ่ที่ถูกติดตั้งไว้ตามป้อมแต่ละจุดบนกำแพง เนื่องจากมีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก ทำให้ขาดความคล่องตัว ดังนั้นการทำสงครามภาคพื้นดินนั้นเป็นเรื่องยากมาก จึงถูกใช้สำหรับยิงป้องกันพวกไททันจากบนกำแพงเท่านั้น

อุปกรณ์ต่อต้านผู้ใช้เครื่องเคลื่อนย้าย 3 มิติ (Anti-personnel vertical maneuvering equipment)

เป็นอาวุธที่ถูกพัฒนาขึ้นแบบลับๆเพื่อใช้ในการต่อกรกับหน่วยสำรวจ หรือผู้ที่ใช้อุปกรณ์เคลื่อนย้าย 3 มิติ โดยมีต้นแบบมาจากอุปกรณ์เคลื่อนย้าย 3 มิติ แต่รูปแบบการโจมตีจะเป็นแบบอาวุธยิงระยะไกล แทนที่ดาบแบบอุปกรณ์เคลื่อนย้าย 3 มิติทั่วไป สามารถใช้สร้างความเสียหายได้ดีในมนุษย์ด้วยกันเองเท่านั้น

หอกสายฟ้า (Thunder Spear)

เป็นอาวุธที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากอุปกรณ์ต่อต้านผู้ใช้เครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติ โดยทีมวิจัย ของหน่วยสำรวจ ถูกคิดค้นขึ้นมาไว้สำหรับต่อกรกับไททันเกราะโดยเฉพาะ เมื่อใช้งานจะเกิดการระเบิดในระดับที่รุนแรงพอที่จะทำให้เกราะของไททันเกราะแตกออกมาได้ โดยชื่อได้มาจากรูปทรงที่เหมือนหอก และมีเสียงระเบิดที่ดังกังวาลราวกับเสียงฟ้าผ่า

กำแพงแห่งเอลเดีย

กำแพงแห่งเอลเดีย เป็นร่างแยกของไททันต้นกำเนิดของพระราชาฟริทซ์ที่ 145 ซึ่งพระองค์ไม่ต้องการทำสงครามร่วมกับอาณาจักรมาเลในมหาสงครามไททันครั้งที่ 1 พระองค์จึงได้รวบรวมชาวเอลเดียที่เหลืออยู่ไปตั้งรกรากใหม่ที่เกาะยูโทเปียแล้วแบ่งร่างของตัวเองพร้อมสร้างผนึกหินก่อให้เกิดเป็นกำแพงแห่งเอลเดียจำนวน 3 ชั้น จุดประสงค์ของกำแพงดังกล่าวเพื่อเป็นเกราะป้องกันการโจมตีทางทหารจากอาณาจักรมาเลที่ใช้ไททันเปรียบเสมือนเป็นอาวุธสงครามในการบุกโจมตี โดยคนที่รู้ความจริงเกี่ยวกับกำแพงแห่งเอลเดียในปัจจุบัน เป็นกลุ่มนักบวชกำแพงที่กุมความลับทั้งหมดของเอลเดียเอาไว้อยู่ เพราะในตอนที่ไททันหญิงได้พยายามปีนหนีออกจากวอลซีนา พลังของเธอได้ทำให้กำแพงเปราะล่อนจนปรากฏเป็นตัวไททันภายใน นิค นักบวชกำแพง จึงได้รีบสั่งให้ทหารหาอะไรมาปิดรูก่อนที่ไททันจะได้รับแสงอาทิตย์และตื่นขึ้น

กำแพงแห่งเอลเดียมีจำนวนชั้นทั้งหมด 3 ชั้น โครงสร้างในแต่ละชั้น ชั้นนอกเป็นหินซีเมนต์ธรรมดาที่เกิดจากพลังของไททัน แต่ข้างในเป็นไททันประเภทสูง 50 เมตร ที่ประสานแขนด้วยกันอาศัยอยู่ ไททันทั้งหมดยังคงมีชีวิตจนถึงปัจจุบัน แต่อยู่ในสภาวะกึ่งจำศีล เพราะไม่สามารถเคลื่อนที่หรือหาอาหารได้เอง เนื่องมาจากไม่ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ที่เป็นแหล่งพลังงานมาเป็นเวลานาน กำแพงทั้งหมดยังเป็นเส้นแบ่งเขตการปกครองภายในเอลเดียใหม่ออกเป็นสามเขต ซึ่งทั้งหมดประกอบไปด้วย

1. กำแพงมาเรีย (Wall Maria)

กำแพงชั้นนอกสุด และมีขนาดใหญ่ที่สุด มีความสูงกว่า 50 เมตร ผู้ที่อยู่อาศัยในกำแพงชั้นนอกล้วนเป็นประชากรธรรมดาที่เป็นชาวไร่ชาวสวนเพื่อทำการเพาะปลูกเท่านั้น ด้วยความสูงที่ไททันธรรมดาไม่สามารถบุกเข้ามาได้ ทำให้มนุษย์หลังกำแพงมั่นใจในความปลอดภัย แต่ภายหลังก็ได้ถูกไททัน 60 เมตรบุกเข้าโจมตีจากประตูเขตชิกันชินะ ตามด้วยไททันเกราะที่เข้าทำลายบ้านเมือง และนำกลุ่มไททันปกติเข้ากวาดล้างมนุษย์ มนุษย์จึงต้องถอยร่นไปอาศัยที่กำแพงโรเซ่แทน ซึ่งห้องเก็บของใต้บ้านของเอเลนในเขตชิกันชินะ ของกำแพงมาเรีย เป็นเป้าหมายสำคัญของทีมสำรวจ เพื่อจะให้ได้รู้ถึงความลับที่คาดว่าเป็นข้อมูลของไททัน ซึ่งพ่อของเอเลนเก็บเอาไว้

2. กำแพงโรเซ่ (Wall Rose)

กำแพงชั้นที่สอง มีขนาดใหญ่รองลงมาจากกำแพงมาเรีย มีความสูงกว่า 50 เมตร หากเทียบชนชั้นของผู้อาศัยผู้ที่อาศัยในกำแพงโรเซ่ส่วนมากจะเป็นพวกผู้ดีมีอันจะกิน แต่เมื่อกำแพงมาเรียถูกทำลายลง ประชาชนจำนวนมากจึงต้องย้ายไปยังกำแพงโรเซ่ ทำให้พื้นที่สำหรับรองรับประชาชนเริ่มไม่เพียงพอ ทรัพยาการก็เริ่มขาดแคลนจึงได้มีการเกณฑ์คนจำพวกทาสไปเป็นทหาร เพื่อหวังจะลดจำนวนประชากรลง

3. กำแพงซีน่า (Wall Sina)

กำแพงชั้นในสุด มีขนาดเล็กที่สุดหากเทียบกับกำแพงทั้งสองชั้นนอก มีความสูงกว่า 50 เมตร ผู้ที่อาศัยในกำแพงซีน่าคือ ขุนนาง เชื้อพระวงศ์ ทหารหรือประชาชนธรรมดาไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปยังกำแพงซีน่า นอกเหนือจากจะเป็นทหารสังกัดหน่วยสารวัตรทหาร หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเท่านั้น ในช่วงภาค 2 ไททันหญิงได้พยายามที่จะปีนข้ามไปยังกำแพงซีน่าแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

กองทหาร 3 เหล่า

ทหารรุ่นใหม่ที่ฝึกอบรมเพื่อที่จะได้รับมอบหมายให้มารับหน้าที่ต่างๆ โดยสามารถเลือกที่จะเข้าในประเภทไหนก็ได้ แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1. กองกำลังรักษาการณ์ มีหน้าที่คอยปกป้องเมือง ดูแลรักษาความปลอดภัยของกำแพงเมืองชั้นนอก และเสริมความแข็งแกร่งให้กำแพงเมือง2. กองกำลังสำรวจ มีหน้าที่พร้อมที่จะเสี่ยงชีวิต ออกสำรวจ และทำภารกิจนอกกำแพง และสู้กับไททันที่อยู่นอกกำแพง3. กองกำลังสารวัตรทหาร มีหน้าที่ปกป้องดูแลประชาชน และรับคำสั่งจากพระราชา ดูแลรักษาความปลอดภัยภายในเขตกำแพงชีน่า