ประวัติ ของ พชร์_อานนท์

พชร์เป็นลูกคนสุดท้อง เติบโตมาในครอบครัวที่เลี้ยงแบบให้สู้ชีวิต คิด และตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนมัธยมวัดด่านสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ชีวิตในวัยเด็กทำหลายอาชีพ ทั้งเป็นเด็กเสิร์ฟ กระเป๋ารถเมล์[3]

เริ่มทำงานด้วยการเป็นผู้จัดการฝ่ายขายโฆษณาของนิตยสารเธอกับฉัน ต่อมาในปี 2530 ได้ขึ้นเป็นบรรณาธิการนิตยสารฉบับเดียวกัน หลังจากนั้นได้เป็นผู้ก่อตั้งนิตยสารสำหรับวัยรุ่นหลายฉบับรวมถึงเป็นแมวมองมีชื่อ เมื่อสมัยเป็นบรรณาธิการนิตยสารชื่อดังอย่าง เธอกับฉัน ,พจน์ อานนท์, อานนท์ ได้ปลุกปั้นให้ดาราแจ้งเกิดในวงการมาแล้วหลายต่อหลายคนหลายยุคต่อเนื่องกันมา ตั้งแต่ แอนดริว เกร้กสัน, ปราโมทย์ แสงศร, เต๋า สโรชา วาทิตตพันธ์, มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์, เต๋า สมชาย เข็มกลัด, อั๊ต อัษฎา พานิชกุล, จอน ดีแลน, เล็ก ศรันย์, โดม ปกรณ์ ลัม, ฝันดี ฝันเด่น จรรยาธนากร, กิ๊ฟต์ วรรธนะ กัมทรทิพย์, ฟลุ๊ค เกริกพล มัสยวานิช, โจ๊กเกอร์ นพชัย, ตั๊ก บริบูรณ์, ออย ธนา, แทค ภรัณยู, ฟิล์ม รัฐภูมิเป็นต้น[4][5]

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

กระทั่งในปัจจุบันพชร์ได้ผันตัวเองมาเป็นผู้กำกับหนังจนมีชื่อเสียงมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง แต่ก็ยังไม่หยุดเป็นแมวมอง มองหาหนุ่มสาวหน้าตาดีหรือมีบุคลิกโดดเด่นมาร่วมเล่นหนังให้ตัวเองอยู่บ่อยครั้ง เช่น เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์, เทพพิทักษ์ แอสละ หรือน้องน้ำเต้า

ด้านภาพยนตร์ เขาเริ่มจากเป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง สะแด่วแห้ว (2535) ของค่ายไฟว์สตาร์ ต่อมาในปี 2538 ได้รับเป็นผู้กำกับเต็มตัว กับภาพยนตร์เรื่อง สติแตก สุดขั้วโลก เป็นเรื่องแรกได้สร้างชื่อเสียง[6] ผลงานที่ต่อเนื่องมาได้แก่ 18 ฝนคนอันตราย, ปล้นนะยะ, เอ๋อเหรอ, ไฉไล, หอแต๋วแตก, เพื่อน...กูรักมึงว่ะ

ชีวิตส่วนตัว

เมื่อ 15 กันยายน 2559 พชร์ อานนท์ได้เข้าอุปสมบทที่วัดสระเกศ เป็นเวลา 7 วันหลังขอพรให้หนัง “หลวงพี่แจ๊ส 4 จี” ประสบความสำเร็จในด้านรายได้ ถือเป็นการบวชครั้งที่ 2 ครั้งแรกเมื่อปี 2538 เป็นการบวชแทนคุณพ่อแม่ ครั้งที่สองนี้บวชหลังจากได้ขึ้นแทนเป็นผู้กำกับ 100 ล้านตามที่ตั้งใจ และพระอานนท์ได้ฉายาทางธรรมว่า อานนโท แปลว่า "ผู้ยินดีในธรรม" อย่างไรก็ตามเขายังคงได้รับคำด่ามากมายจากสังคมออนไลน์ จากการที่พชร์ใช้นามแฝงในการกำกับภาพยนตร์หลวงพี่แจ๊ส 4 จี แล้วหลังจากที่ภาพยนตร์ทำรายได้ขึ้นไปถึงหลักร้อยล้านบาทจึงออกมาเปิดเผยว่าเป็นตนกำกับ ทำให้ผู้คนเกิดความไม่พอใจว่าเป็นการปิดบังข้อเท็จจริงเพื่อผลประโยชน์ทางด้านยอดขาย