เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง ของ พญาขัณฑสีมาโลหะกิจ_(เจ้าคันธิยะ_โลหะ)

ในพ.ศ. 2442 สยามใช้การปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล ได้ยึดรวม“ล้านนาประเทศ” ที่เคยเป็นประเทศราชเข้าเป็นส่วนหนึ่งไม่ให้มีอำนาจอิสระปกครองตนเองอีกต่อไป หัวเมืองทั้งหลายในล้านนาจึงได้รับผลกระทบโดยทั่วกัน รวมถึงเมืองลองกับเมืองต้าที่ถูกยุบรวมกันเป็นแขวงเมืองลอง จังหวัดลำปาง(โอนย้ายขึ้นกับจังหวัดแพร่ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. 2475 และพ.ศ. 2501 แยกบางตำบลจัดตั้งเป็นอำเภอวังชิ้น) สยามได้ถอดตำแหน่งหน้าที่พญาขัณฑสีมาโลหะกิจ เจ้าเมืองลอง พ่อเมืองลองทั้ง 4 ขุนเมืองทั้ง 8 และขุนนางในเมืองลองไม่ให้มีหน้าที่ปกครองตนเองได้อีกต่อไปพร้อมกับจัดส่งข้าราชการชาวสยาม “หลวงฤทธิภิญโญยศ(แถม)” ขึ้นมาเป็นนายแขวง ปกครองแทนมีการสร้างระบบราชการเพื่อดึงอำนาจของเจ้านายขุนนางในเมืองนครประเทศราชทั้ง 5 คือ เมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองนครลำพูน เมืองนครน่าน และเมืองนครแพร่ ตลอดถึงเจ้านายขุนนางในหัวเมืองขึ้นของเมืองนครประเทศราช เช่น เมืองเชียงราย เมืองเชียงแสน เมืองฝาง เมืองพาน เมืองสอง ฯลฯ รวมถึง “เจ้า” ในสกุลวงศ์เจ้าช้างปานของเมืองลองเข้าไว้ที่ส่วนกลาง และกลืนไพร่บ้านพลเมืองทั้งหมดให้กลายเป็นพสกนิกรของ “กษัตริย์สยาม” เมื่อเจ้าเมืองลองและขุนนางสูญเสียอำนาจราชศักดิ์และผลประโยชน์ที่เคยได้รับสืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษได้ล่มสลายลง จึงได้เข้าร่วมมือกันกับเจ้าผู้ครองนคร(กษัตริย์นครประเทศราช) เจ้านาย เจ้าเมือง พ่อเมือง และขุนนางในประเทศราชล้านนาต่อต้านที่ทางฝ่ายล้านนาเรียกว่า “ฟื้นสยาม” หรือทางฝ่ายสยามเรียกว่า“กบฏเงี้ยว” ในปีพ.ศ. 2445 โดยมีบ้านบ่อแก้ว เมืองลองเป็นจุดเริ่มต้นและแหล่งเตรียมการ ได้เกิดความขัดแย้งระหว่าง “ล้านนาประเทศ” กับ “สยามประเทศ” อย่างรุนแรงภายหลังเมื่อเจ้านาย ขุนนาง และชาวเมืองในล้านนาทำการไม่สำเร็จจึงถูกสยามปราบปรามอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะเจ้านายและขุนนางเมืองนครแพร่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้มากกว่าหัวเมืองอื่นๆ ในล้านนา ขณะเดียวกันเหตุการณ์นี้ก็ส่งผลให้เกิดความสูญเสียอันใหญ่หลวงของชาวเมืองลอง เนื่องจากช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี ที่ 30 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2445(เดือนเกี๋ยงดับ) พญาขัณฑสีมาโลหะกิจ ถูกกลุ่มคนร้ายจำนวน 12 คนลอบเข้าสังหาร พร้อมกับขุนนางเค้าสนามเมืองลองจำนวน 3 คน และชาวบ้านเมืองลองที่มาเสียภาษีค่าตอไม้อีก 1 คน ที่โฮงหลวงเจ้าเมืองลอง บ้านแม่ลานเหนือ หลังจากพญาขัณฑสีมาโลหะกิจพิราลัยได้ฝ๎งศพไว้หน้าทางเข้าป่าช้าบ้านแม่ลานเหนือเป็นเวลา ๓ ปี และส่งสการในปีพ.ศ. 2448 จัดพิธีปลงศพ 3 วัน 3 คืน โดยการอุปถัมภ์ของเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต เจ้าผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย ซึ่งเหตุการณ์ลักลอบสังหารพญาขัณฑสีมาโลหะกิจ เจ้าเมืองลองพร้อมกับกลุ่มขุนนางเมืองลองในครั้งนี้ได้ถูกทำให้เป็นเรื่องปกปิดลึกลับ เนื่องจากไม่มีฝ่ายไหนยกขึ้นมาไต่สวน ทั้งฝ่ายล้านนา และฝ่ายสยาม แต่ในขณะที่บ้านหนานอ่อน ราษฎรเมืองลองถูกเงี้ยวที่ทางสยามติดตามจับเข้ามาปล้นกลับมีรายงานถึงกรุงเทพฯ ส่วนบุตรภรรยาและเครือญาติของเจ้าเมืองลองตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็ปิดตัวเงียบด้วยเช่นกัน [2]