เรื่องย่อ ของ พนาสวรรค์

ขุนคเชนทร์ ผู้จัดการป่าไม้พนาสวรรค์ได้ทำการลักลอบตัดไม้ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากทางการอยู่เนือง ๆ ทำให้คุณพระพิสัณฑ์ฯและคุณนายอำพันผู้เป็นเจ้าของไม่พอใจจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนเกิดมีปากเสียงกัน เป็นผลให้ขุนคเชนทร์ฯ มีความโกรธแค้นและอาฆาต และเมื่อมีโอกาสจึงเข้ายึดอำนาจในพนาสวรรค์ทั้งหมด โดยจับคุณพระพิสัณฑ์ฆ่าหมกป่าเสียแล้วขังคุณนายอำพันอย่างทรมานไว้ในถ้ำเพื่อจะให้บอกที่อยู่ของลูกชายทั้งสองแล้วเรื่องราวเหล่านั้นก็เงียบหายอยู่ในป่าลึกมีผู้ที่รู้อยู่คนเดียวเป็นพรานป่าชื่อ เพชร ทางกรุงเทพฯ ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ มารดาของขุนคเชนทร์เกิดความไม่พอใจที่หลานสาววัยรุ่นคือกฤติกาหรือลูกไก่ (เพชรา เชาวราษฏร์) ที่ท่านรักและหวงแหนมักจะไปยุ่งเกี่ยวกัน พร พนมวัน (มิตร ชัยบัญชา) เด็กหนุ่มหน้าทะเล้นอาศัยอยู่ในไร่มะละกออยู่ถัดหลังตึกออกไปซึ่งเป็นของตาเพชร (ล้อต๊อก) ท่านผู้หญิงผู้เป็นย่าจึงวางแผนที่จะให้กฤติกาได้แต่งงานกับชายหนุ่มเชื่อพระวงศ์ชื่อ หม่อมหลวงศุภเกียรติ แต่กฤติกาไม่ชอบและรู้สึกทรมานที่ต้องถูกบังคับจึงพยายามเล็ดลอดออกไปหาพรอยู่เนือง ๆ

ครั้งหนึ่ง สุดเขต คีรีศักดิ์ (สิงห์ มิลินทราศรัย) พี่ชายของกฤติกาเดินทางมาจากพนาสวรรค์เพื่อเจรจาขายไม้เถื่อนและสืบข่าวเรื่อง ลูกชายพระพิสัณห์ให้กับขุนคเชนทร์ผู้เป็นพ่อได้มาพบพรกำลังวุ่นวายอยู่กับกฤติกาจึงเข้าขัดขวางและชกต่อยแต่ก็ถูกพรโต้ตอบเอาอย่างไม่มีทางสู้พรจะจัดการเสียแต่พรานเพชรก็เข้ามาห้ามไว้ส่วนทางป่าไม้พนาสวรรค์ยังมีป่าไม้อีกแห่งหนึ่งมีอาณาเขตติดต่อกัน ชื่อป่าไม้ ไพรแก้ว เจ้าของเป็นชายหนุ่มขี้เมาชื่อ ไพร พนาดร (ชนะ ศรีอุบล) มีเมียชื่อ คมเดือน (กิ่งดาว ดารณี) ฝ่ายไพรแก้วได้ส่งสายลับออกไปดูลาดเลาในเขตพนาสวรรค์อยู่เป็นนิจ แต่ก็ถูกพวกขุนคเชนทร์ยิงตายหมดจึงกลายเป็นชนวนสงครามอันร้อนระอุอยู่ตลอดเวลาถึงกับขีดเส้นกั้นอาณาเขตใครล้ำแดนใครก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่งไพรพยายามค้นหาความลับของขุนคเชนทร์จนกระทั่งเขาได้พบไม้เถื่อนและตนเองถูกยิงต้องส่งสถานพยาบาลในตัวเมืองและเช้าวันรุ่งขึ้นก็ปะทะกับสุดเขตที่เดินทางกลับไปจากกรุงเทพฯสุดเขตท้าทายไพรแต่ไพรเจ็บอยู่คมเดือนจึงอาสาสู้แทนและใช้ระบบการต่อสู้ของผู้หญิงกัดเอาสุดเขตบาดเจ็บไปจนเตลิดหนีเข้าสู่พนาสวรรค์

กฤติกาหนีจากการหมั้นกับหม่อมหลวงศุภเกียรติเพื่อจะเดินทางไปหาขุนคเชนทร์แต่เพียงคนเดียวระหว่างทางถูกหนุ่มฉกรรจ์หมู่หนึ่งปลุกปล้ำพอดีพรตามมาช่วยไว้ทันจึงรอดจากอันตรายและพากันไปสู่พนาสวรรค์ได้โดยปลอดภัยพรขอสมัครเป็นคนงานอยู่ที่นั่นทั้ง ๆ ที่ขุนคเชนทร์ไม่พอใจในตัวเขาเลยพรได้ออกตระเวนทั่วพนาสวรรค์ได้พบกับคมเดือนซึ่งความจริงเป็นพี่สะใภ้แต่ไม่รู้จักกันพรจึงยั่วเย้าโดยการถือดีเข้ากอดจูบข่าวรู้ไปถึงหูไพรจึงได้เกิดประจัญหน้าระหว่างไพรกับพรอย่างดุเดือดแต่พรานเพชรตามมาระงับเหตุการณ์ไว้และชี้แจงว่าทั้งหมดเป็นแผนการณ์ของตนเองพรกลับมาจากไพรแก้วก็ถูกสุดเขตซ้อมเอาเพราะเข้าใจว่าพรล่วงรู้ความลับเรื่องไม้เถื่อนและเอาใจปเข้าข้างไพรแก้ว

ขุนคเชนทร์ (สมควร กระจ่างศาสตร์) ถูกเสือยอด (ฑัต เอกฑัต) สมุนเอกหักหลังเสียเงินเสียไม้เถื่อนไปมากจึงเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นพอดีกับหม่อมหลวงศุภเกียรติ (วิน วิษณุรักษ์) ตามมาขอหมั้นกฤติกาสุดเขตเห็นทางได้เงินจากหม่อมหลวงศุภเกียรติจึงยุให้ขุนคเชนทร์บังคับให้กฤติการับหมั้นพอถึงเวลานั้นก็มีหญิงสาวอีกคนหนึ่งชื่อ ดวงดาว (อุษา อัจฉรานิมิตร) มาขัดจังหวะเสียโดยอ้างว่าตนคือคู่หมั้นที่แท้จริงจึงทำให้เหตุการณ์อลเวงท่านผู้หญิงมณีรัตน์ตามมาหวังจะพากฤติกากลับคืนแต่ก็ไม่สำเร็จสุดเขตสงสัยในพฤติกรรมของดวงดาวที่มีความสวยบาดใจจึงเข้าปลุกปล้ำแต่พรมาขัดขวางเอาไว้แล้วพาดวงดาวไปสุดเขตโกรธมากจึงกลับมายุกฤติกาและหม่อมหลวงศุภเกียรติให้แตกแยกกับพร ทั้งสองโกรธมากจึงพากันไปเผากระท่อมในป่าของพรเสียแต่ทั้งหมดก็เข้าใจกันได้เพราะทั้งหม่อมหลวงศุภเกียรติและดวงดาวก็คือตำรวจลับปลอมตัวมานั่นเอง

ส่วนไพร พนาดร เล็ดลอดเข้าไปสืบข่าวอีกถึงถ้ำเขาแดงในเขตของขุนคเชนทร์พบที่ซ่อนศพของพระพิสัณฑ์ผู้เป็นพ่อก็รู้เค้าเงื่อนว่าขุนคเชนทร์เป็นตัวการก็พอดีถูกจับไปทรมานเพื่อให้ยอมรับว่าเป็นลูกชายพระพิสัณฑ์ทั้งได้นำคุณนายอำพันมายืนยันแต่ทั้งสองก็ไม่ยอมรับขุนคเชนทร์จึงฆ่าเสียพอดีตำรวจบุกเข้ามาจึงได้เกิดต่อสู้อย่างดุเดือดพรยิงสุดเขตตายส่วนขุนคเชนทร์นั้นกฤติกาขอชีวิตไว้จึงมีโอกาสได้เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดที่หักหลังในป่าไร่พนาสวรรค์และสุดท้ายเหตุการณ์ก็ได้ปรากฏว่าทั้งไพรและพรคือลูกชายทั้งสองของพระพิสัณฑ์นั่นเองพรกับกฤติกาได้ร่วมกันเป็นเจ้าขอพนาสวรรค์ส่วนไพรกับคมเดือนก็ครอบครองไพรแก้วสืบไป