ข้อกำหนดของการเรียงหน่วยเสียง ของ พยางค์

กฎเกณฑ์ของการเรียงหน่วยเสียง (phonotactics) เป็นตัวบ่งบอกว่าเสียงใดที่อนุญาตหรือไม่อนุญาตให้มีในโครงสร้างพยางค์ ภาษาอังกฤษอนุญาตให้มีพยางค์ที่ซับซ้อนมากๆ ได้ บางพยางค์อาจมีต้นพยางค์สามเสียง (string, splash) หรือในบางโอกาสก็มีท้ายพยางค์สี่เสียง (prompts) เป็นต้น แต่ในภาษาอื่นหลายภาษาก็มีข้อจำกัดที่เพิ่มขึ้น เช่น ภาษาไทยกำหนดให้มีต้นพยางค์มากที่สุดสองเสียงดังเห็นได้จากคำควบกล้ำ ส่วนภาษาญี่ปุ่นกำหนดให้เสียง ん /n/ เป็นเสียงท้ายพยางค์เท่านั้น และใช้พยัญชนะหลายตัวประกอบเข้าด้วยกันเพื่อแทนต้นพยางค์เพียงเสียงเดียว

ภาษาฮีบรู ภาษาอาหรับ และสำเนียงอื่นของภาษาเยอรมัน ได้กำหนดว่าพยางค์จะต้องมีเสียงแทนต้นพยางค์เสมอ ตัวอย่างเช่นคำว่า อิสราเอล, อะบราฮัม, โอมาร์, อาลี, อับดุลลาห์ พยางค์แรกของทุกคำจะต้องขึ้นต้นด้วยพยัญชนะเสียงกักหรือเสียดสีในช่องเส้นเสียงหรือคอหอย ซึ่งเสียงกักในช่องเส้นเสียงคือเสียง อ /ʔ/ ในภาษาไทย

การเรียงหน่วยเสียง เป็นการศึกษาโครงสร้างพยางค์ในระดับรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสำรวจว่าพยางค์ในภาษาหนึ่งๆ สามารถจัดรูปแบบอย่างดีได้อย่างไร ส่วนในระดับโดยรวมเป็นการศึกษาเพื่อพิจารณาข้อกำหนดบนความเป็นไปได้ในการผสมผสานพยางค์เข้าด้วยกัน ตำแหน่งของการเกิดพยางค์ และการเรียงลำดับของคำที่เป็นไปได้ เรียกว่า การศึกษาการเรียงพยางค์ (syllabotactics)